xs
xsm
sm
md
lg

เวทีเสียงเหยื่อ ตั้งวงเล่าชีวิตผีพนัน  ชีวิตดิ่งสุด เป็นหนี้หัวโต ครอบครัวพัง ประสานเสียงค้านกาสิโน ไม่เชื่อน้ำยาคุมได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(2 มี.ค.)มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน ร่วมกันจัดเสวนาเรื่อง “เสียงเหยื่อพนัน : มุมมองต่อคาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย” พร้อมเสดงละครสั้น ชุด “ผีพนัน” โดยเครือข่ายละครเฉพาะกิจเธียเตอร์ ณ โรงแรม ทีเค.พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น
 
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า ในเดือนมีนาคมนี้จะมีร่างกฎหมายสองฉบับเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ฉบับหนึ่งเพื่อเปิดบ่อนบนดิน  อีกฉบับหนึ่งเพื่อเปิดบ่อนออนไลน์ ซึ่งสิ่งที่คล้ายกันคือ 1.มีความรีบร้อน เร่งรัดให้ออกกฎหมายโดยเร็วอย่างผิดสังเกต2.เปิดช่องให้การอนุญาตการเปิดบ่อนพนันถูกกฎหมายได้ เป็นอำนาจของบุคคลหรือคณะบุคคลเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่มีการตรวจสอบ ถ่วงดุล และมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 3. การเขียนกฎหมายคลุมเครือ ไม่มีความชัดเจนทั้งขนาดบ่อน ให้ใครทำ จำนวนบ่อน อัตราการจัดเก็บภาษีและรายได้เข้ารัฐ เป็นการเขียนกฎหมายที่หวังผลเอาแต่ได้ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดตามมาเป็นการเปลี่ยนผิดให้เป็นถูก สนับสนุนให้เกิดการขยายตัวของปัญหาการพนัน

นายธนากร กล่าวต่อว่า จากการประเมินของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ปัจจุบันมีคนไทยติดพนันมากกว่า 1% ของจำนวนประชากร หรือประมาณ 1 ล้านคน ในจำนวนนี้พบว่า 10% เป็นเด็กและเยาวชนที่ถูกกลโกงล่อลวงให้เข้าสู่วงจรนี้ คิดว่าเป็นช่องทางรวยทางลัด แต่ที่จริงอยู่ในเกมที่เจ้ามือกุมความได้เปรียบไว้แทบทุกอย่าง และถือเป็นเหยื่อของรัฐบาลที่มักได้และมักง่าย ที่ไม่ใส่ใจปกป้องประชาชน แทนที่สร้างรั้วปกป้องสังคมให้ปลอดจากสิ่งคุกคาม รัฐกลับเป็นคนเปิดประตูต้อนรับ ปลุกผีขึ้นมาจากหลุมด้วยมือของรัฐเอง ตนจึงขอเรียกร้องให้ประชาชนออกมาส่งเสียงร่วมกันเพื่อคัดค้านนโยบายนี้และร่วมเข้าชื่อให้ครบ 50,000 ชื่อเพื่อให้เกิดการทำประชามติ  โดยเข้าไปติดตามและร่วมลงชื่อได้ที่เว็บไซต์มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน

นางซี (นามสมมติ) หนึ่งในอดีตผู้ติดบ่อนพนัน กล่าวว่า แรกเริ่มตนกับสามีก็เริ่มต้นสร้างครอบครัว มีลูกด้วยกันโดยตนเป็นแม่บ้านดูแลลูก ดูแลบ้าน ส่วนสามีเป็นพนักงานขับรถ ต่อมาพอลูกๆ เริ่มเข้าโรงเรียน ตนมีเวลาว่างเลยเล่นพนันแถวบ้าน ต่อมาตอนหลังมีบ่อนมาเปิดใกล้ๆ ตนเลยขยับเข้าไปเล่นในบ่อนและติดการพนันหนักขึ้น ถึงขั้นข้ามไปเล่นที่บ่อนกัมพูชา บ่อนในประเทศลาว บ่อนวิ่งในไทยก็เล่นหมด ติดการพนันหนักจนกระทั่งลูกสาวคนโตรับปริญญาตนก็ยังไม่ได้มาร่วมแสดงความยินดี  เพราะติดเล่นพนันอยู่ที่บ่อนประเทศลาว ซึ่งถือเป็นปมติดอยู่ในใจมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วที่จริงตอนนั้นก็ยังติดการพนันอย่างหนัก พอเล่นเสียก็ไปกู้เงินนอกระบบมาเล่น เป็นหนี้ เป็นสิน ครอบครัวแตกแยก ลูกๆ เคว้งคว้าง หนักสุดคือทำให้ลูกสาวคนเล็กหลังจบม. 6 ก็ไม่ได้เรียนต่อ ถูกตราหน้าว่ามีแม่เป็นผีพนันอยู่บ้านไม่ได้ต้องหนีเจ้าหนี้ สุดท้ายสามีต้องมาชดใช้หนี้สินให้เพื่อให้ตนกลับมาอยู่กับครอบครัว และให้สัญญาว่าจะไม่กลับไปเล่นอีก ซึ่งตนก็หักดิบเลยทำได้ โดยมีครอบครัวและลูกๆ เป็นกำลังใจสำคัญ

“นี่เป็นบทเรียนราคาแพงของพี่ และเป็นตราบาปติดอยู่ในใจที่ไม่ได้ไปแสดงความยินดีกับความสำเร็จของลูก ทำให้ลูกคนเล็กไม่ได้เรียนต่อ เพราะฉะนั้นพี่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่รัฐบาลกำลังจะเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะถึงจะบอกว่ามีอะไรหลายอย่างในนั้น แต่สุดท้ายแล้วคาสิโนก็คือตัวชูโรง แล้วอย่าบอกว่าต้องมีเงินจำนวนมากถึงจะเข้าไปเล่นได้  ซึ่งถ้าคนติดพนันจริงๆ ต่อให้ไม่มีเงินก็ไปกู้เงินมาเล่นจนได้ และเชื่อว่ามีกระบวนการใต้ดินชักจูงแน่นอน ยิ่งทำให้แย่ลงเรื่อยๆ ตั้งแต่ครอบครัว สังคม เศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นเราไม่เห็นด้วย รวมถึงเหล้า ที่กำลังจะออกกฎหมายใหม่ด้วย หรือย่างกัญชา ดูตอนนี้เด็กๆ เห็นกันเกร่อ โดยที่กฎหมายทำอะไม่ได้ วันๆ ทำไมรัฐบาลไม่คิดสร้างประเทศให้ดีขึ้นมา กลับเอาอะไรมามอมเมา อนาคตเด็กทำไมไม่คิด แต่ไปคิดถึงแต่ประโยชน์ของนายทุนไม่กี่คน” นางซี กล่าว

ด้าน นายบี (นามสมมติ) กล่าวว่า เดิมตนเล่นไพ่ ไฮโล สนุกเกอร์ในกลุ่มเพื่อนๆ เป็นแบบนี้อยู่หลายปี ระหว่างนั้นได้รู้จักเพื่อนที่รับแทงหวยใต้ดิน ตนจึงเข้ามาทำตรงนี้ด้วย แรกๆ ก็มีเงินเข้ามาเยอะ แต่ช่วงหลังมีคนถูกเยอะต้องควักกระเป๋าจ่ายออกไปเรื่อยๆ จึงชวนเพื่อนลงขันกันเป็นเจ้ามือรับแทงพนันฟุตบอลด้วย สุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิม ต้องเอาเงินมาจ่ายค่าหวย และค่าแทงพนันฟุตบอลจนต้องปิดบัญชีธนาคารเพื่อมาสู้ต่อแต่ก็เสียมากขึ้นเรื่อยๆ จนเงินหมดต้องไปยืมคนรู้จักมาจ่ายให้คนที่เขาได้ แต่ด้วยความที่ตนไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ที่ยืมมาจึงตัดสินใจบอกกับเจ้าหนี้ซึ่งบางคนก็ให้ผ่อนจ่ายได้ บางคนก็เอาเรื่อง ตนจึงไปหาเงินจากที่อื่นมาจ่ายให้ ซึ่งเป็นอยู่อย่างนี้ที่ต้องหาเงินมาจ่ายหนี้สินที่เกิดจากากรพนันกว่า 6 ปีกว่าจะหมด ซึ่งเป็นช่วงที่ปวดหัว ทรมานมาก ตอนนี้ปลอดหนี้มา 2 ปีแล้ว เมื่อมองย้อนกลับไปค่อนข้างเสียดายเวลาที่เรามีเงินอยู่แล้วแต่ยังไม่พอ หันมาเล่นพนันจนหมดตัว ต้องเริ่มสร้างตัวใหม่ในวัยนี้แล้ว

“จากประสบการณ์ของเราจึงไม่อยากให้รัฐบาลทำกาสิโน เอาอบายมุขเข้ามาในประเทศ  ซึ่งกระทบกับประชาชน โดยเฉพาะเด็กเยาวชนอีกจะแก้เศรษฐกิจได้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วก็ไม่น่าจะคุมได้สำหรับคนที่อยากจะเล่นจริงๆ แล้วที่ผ่านมาประเทศไทยคุมอะไรได้บ้าง เอาเข้าจริงคุมไม่ได้สักอย่าง แล้วมันจะสร้างผลกระทบมีอะไรตามมาอีกเยอะ อาชญากรรม การฆ่าตัวตาย จึงอยากให้รัฐบาลเลิกโครงการนี้เพราะมีแต่ทำลายสังคม” นายบี กล่าว

นายเอ (นามสมมติ) กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ในชุมชนที่มีการตั้งวงดื่ม และเล่นพนันเยอะ เลยซึมซับโตมาก็เล่นเป็นเลย และเริ่มเข้าบ่อนในช่วงวัยรุ่น ทั้งเล่นพนัน กินดื่มเที่ยวมาตลอด ถ้าเล่นเสียก็หยิบยืมคนอื่นมาเล่นต่อ ต่อมาไปเจอเพื่อนที่สนามม้าชักชวนให้เล่นพนันฟุตบอล โดยบอกว่ามีทีเด็ดมาจากต่างประเทศ ตนก็ลองเล่นจากหลัก 500 บาท พันบาท ก็เพิ่มเป็นหลักหมื่น หลักแสนบาท หลังๆ มานอกจากเป็นผู้เล่นแล้ว ยังรับเป็นเจ้ามือเองด้วย เรียกว่าหาเงินง่ายมาก และใช้จ่ายง่ายมาก ตอนนั้นใครๆก็เรียกป๋าๆ  ก่อนจะเข้าสู่ขาลง เงินที่เคยมีก็หมดไป แถมยังไม่พอต้องไปกู้หนี้นอกระบบ เป็นหนี้บัตรเครดิตกว่า 3 ล้านบาท มีปากเสียงภายในครอบครัว ตอนนี้คิดได้แล้วจึงเลิกเล่นพนันเด็ดขาด และหาเงินมาใช้หนี้ดังกล่าวจนตอนนี้ก็ยังไม่หมด ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะให้มีกาสิโน ซ้ำยังจะให้มีแบบอออนไลน์ด้วย เพราะเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ทำให้คนเล่นการพนัน โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน ทุกวันนี้ก็แอบเล่นกันอยู่แล้ว หากทำให้ถูกกฎหมายที่บอกว่าจะคุมได้นั้นตนไม่ค่อยเชื่อ มันมีแต่จะทำให้คนเล่นเยอะขึ้น ไม่มีเงินก็ไปกู้ยืมมาเล่น แล้วที่บอกว่าจะได้เก็บภาษีเอาเงินเข้าประเทศนั้น จริงๆ ประชาชนได้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือผลกระทบเกิดขึ้นแน่นอน  รัฐอย่าหน้ามืดปลุกผีขึ้นจากหลุม อย่าเปิดประตูรับอบายมุขมอมเมาคนไทยหวังเม็ดเงินแบปลอมๆ แลกหายนะของสังคมแบบนี้




กำลังโหลดความคิดเห็น