xs
xsm
sm
md
lg

“อุ๊งอิ๊งค์”เป้านิ่ง จุดอ่อนรัฐบาล-ทักษิณ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แพทองธาร ชินวัตร - ทักษิณ ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา

ในที่สุดพรรคร่วมฝ่ายค้านที่นำาโดย พรรคประชาชน ได้ยื่นญัตติ อภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่ 27 กุมภาพันธ์ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตร เพียงคนเดียว

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่าย ค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมตัวแทนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงเหตุผลว่า เนื้อหาในการอภิปรายจะครอบคลุมทุกประเด็น หลายกระทรวง หลายพรรคร่วมรัฐบาล เราเชื่อว่าปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดินเกิด ขึ้นจากการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีขาดภาวะผู้นำ ไม่สามารถควบคุมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้ ขาดวุฒิภาวะขาดความรู้ ความสามารถ มีการแต่งตั้งบุคคลที่เขาขอมา มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

 ยอมให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีอำนาจเหนือตนเอง รวมถึงยินยอมให้ผู้เป็นบิดา สามารถชักนำ จูงใจ มีส่วนให้บริหารราชการแผ่นดินได้ เราเชื่อว่าทุกปัญหา เกิดจากนายกรัฐมนตรี เราเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะอภิปรายรัฐมนตรีเป็น รายบุคคล เพราะปัญหาทั้งหมดอยู่ที่รัฐมนตรีเพียงผู้เดียว และต้องตอบ ชี้แจงด้วยตนเองเท่านั้น

สำหรับประเด็นที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เช่น เราไม่อาจไว้ วางใจรัฐบาลชุดปัจจุบันให้บริหารราชการแผ่นดินได้ เพราะนายกรัฐมนตรี ขาดคุณสมบัติ ขาดความรู้ความสามารถ ขาดเจตจำนงที่จะแก้ปัญหาให้ กับประชาชน ไม่มีความรับผิดชอบต่อการเป็นนายกรัฐมนตรี การบริหาร เศรษฐกิจล้มเหลว จีดีพีของประเทศเติบโตเกือบรั้งท้ายในกลุ่มประเทศ อาเซียน รวมถึงมีประเด็นการทุจริตคอร์รัปชัน

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนจะนำญัตตินี้ไปตรวจสอบตาม ระเบียบข้อบังคับ หลังจากนั้นจะส่งญัตติไปให้รัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลแจ้ง มาว่าพร้อมเมื่อไหร่ แต่ทางรัฐบาลได้แจ้งไว้แล้วว่าพร้อมให้อภิปรายในวันที่ 24 มี.ค. ส่วนจะใช้เวลาอย่างไร เป็นเรื่องที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ และฝ่ายรัฐบาล ต้องไปตกลงกัน ซึ่งตนมอบหมายให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธาน สภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานในที่ประชุม ตนหวังว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นไปได้ด้วยดีและเป็นประโยชน์กับประชาชน

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวให้ความเห็น ระหว่างเดินทางเข้าสภาผู้แทนราษฎรและมาตอบกระทู้ถามสดของสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน โดยกล่าวว่า ไม่เหนือความคาดหมายที่ถูกฝ่ายค้านยื่นซักฟอกในครั้งนี้ และเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน โดยจะตอบทุกข้อ แต่หากเกี่ยวข้องกับกระทรวงไหนหรือลงรายละเอียดคงให้รัฐมนตรีกระทรวงนั้นช่วยกันตอบ

เธอยังย้ำาว่า ไม่กังวลหากจะมีการพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ เพราะ ไม่ได้ทำาอะไรผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะพูดอะไรหรือจะถามกระทบกับอะไร ถ้าเราไม่มีหลักยึดอย่างเช่นกฎหมายก็จะแย่ แต่ถ้าหากมีหลักยึดก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมตอบ

แน่นอนว่า ญัตติซักฟอกครั้งนี้ ถือว่าน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะ เป็นการพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว และกลายเป็นว่านี่คือการ “พุ่งไปสู่เป้าหมายที่เป็นจุดอ่อน” ของฝ่ายรัฐบาล กันเลยทีเดียว

หากพิจารณาจากเหตุผลในการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน คราวนี้ มุ่งเน้นในเรื่องการ “ขาดวุฒิภาวะ” ขาดความเป็นผู้นำ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ปล่อยให้คนอื่นชักใยอยู่ข้างหลังตลอดเวลา จนเกิดความ เสียหายกับบ้านเมือง เชื่อว่าหลายคนคงนึกเห็นภาพขึ้นมาทันที

ขณะเดียวกัน การยื่นญัตติซักฟอกครั้งนี้ กลายเป็นว่าเหมือนกับการ “ทุบกล่องดวงใจ” ของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ที่มีอิทธิพลเหนือทุกอย่าง ในรัฐบาลเวลานี้ และเห็นได้ว่า เกิดความเคลื่อนไหวของเขาทันที โดยเมื่อตอนสายวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ได้เดินทางเข้ามาที่บ้านพิษณุโลก เพื่อหารือกับทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี และเป็นครั้งแรกที่เขาได้มาปรากฏตัวที่นี่ มีการหารือกันนานถึง 3 ชั่วโมง

แม้ตามรายงานจะบอกว่าเป็นการหารือกับทีมที่ปรึกษานโยบายของ นายกรัฐมนตรี มาให้ความรู้แลกเปลี่ยนสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศไทย และสถานการณ์โลก ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการให้ความรู้และแลกเปลี่ยนใน ลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก รัฐมนตรี ก็ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับทีมที่ปรึกษาฯ ในช่วงเวลาบ่าย วันเดียวกัน หลังจากนายทักษิณ กลับไปแล้ว

อย่างไรก็ดี แม้ว่ายังเหลือเวลาอีกหลายสัปดาห์ นั่นคือวันที่ 24 มีนาคม เป็นต้นไป ที่ถูกกำาหนดเป็นวันอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แต่ตั้งแต่นาทีนี้เชื่อว่าการเมืองจะเข้าสู่ภาวะ “เข้มข้น” ขึ้นมาทันที เพราะ หากบอกว่า “อุ๊งอิ๊งค์” เป็น “กล่องดวงใจ” ของทักษิณ ชินวัตร ที่จะไม่ยอม ให้ใครแตะต้องเป็นอันขาด

ประกอบกับคงรู้ศักยภาพของลูกสาวตัวเองดีอยู่แล้ว เชื่อว่ายอมไม่ ได้ที่จะยอมให้ฝ่ายค้าน “จับขึงพืดกลางสภา” แน่นอน และอย่างที่ น.ส.แพ ทองธาร ยอมรับตั้งแต่แรกแล้วว่า จะมี “องครักษ์” มาพิทักษ์ระหว่างมีการอภิปรายในสภาอย่างแน่นอน ทำาให้มองเห็นภาพล่วงหน้าว่าจะเกิดบรรยากาศ การประท้วงกันวุ่นวายแน่นอน เพราะต้องมีการขัดขวางไม่ให้มีการโจมตี นายกฯ รวมไปถึงการขัดขวางการพาดพิงไปถึง “นายใหญ่” อย่างนาย ทักษิณ ชินวัตร เป็นอันขาด

การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ที่ต้องบอกว่าน่าจับตาไปอีกขั้นก็คือ จะเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนเช่นเดียวกัน ที่จะได้เห็น “ลุงป้อม” พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะฝ่ายค้านเข้าไป คุมเกมในสภาด้วยตัวเอง มีการกำาหนดหัวข้อ และประเด็นการอภิปรายให้ กับลูกพรรคอีกด้วย

ถือว่าเป็นการรับประกันในระดับหนึ่ง การศึกซักฟอกเที่ยวนี้ หาก “ลุงป้อม” ออกโรงแบบนี้ เชื่อว่าต้องมีข้อมูลเด็ดๆ ให้ติดตามแน่นอน อีก ทั้งเมื่อเป็น “ไฟต์บังคับ” ให้ต้องเดินมาแบบนี้ ไม่ว่าทั้งพรรคประชาชน และ พรรคพลังประชารัฐ จะต้องเดินหน้าลุยเต็มที่ เพราะถูกสังคมจับตาอยู่ ตลอดเวลาเช่นกัน

เมื่อวกกลับมาที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นาทีนี้กลายเป็น “จุดอ่อน” ในตัวของเธอเอง ทั้งในเรื่องวาทะในการอภิปรายทั้งในและนอกสภา ฉายา “นายกฯไอแพด” หรือ “นายกฯโพย” ย่อมมองเห็นภาพได้เป็นอย่างดี อีก ทั้งผลงานของรัฐบาลภายใต้การบริหารของเธอในรอบเกือบปีที่ผ่านมา ถือว่า ออกมา “น่าผิดหวัง” ประกอบกับมีการเชื่อมโยงไปถึง นายทักษิณ ชินวัตร ที่เวลานี้ก็น่าจะกลายเป็นตัวถ่วง เป็นจุดอ่อนเปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตี ได้อย่างเต็มที่

ดังนั้น ก็ให้จับตาว่าระหว่างนี้จะมีการล็อบบี้กันหนักหน่วงขนาดไหน ก่อนถึงวันอภิปราย เพราะงานนี้มันอาจทำาลายเครดิตลูกสาวของตัวเอง ที่ต้องกระทบชิ่งมาถึงตัว นายทักษิณ ผู้เป็นพ่ออีกด้วย ซึ่งหลายคนมอง ภาพล่วงหน้าแล้วว่า งานนี้หากฝ่ายค้านเอาจริง “อุ๊งอิ๊งค์” ต้องน่วมแน่นอน !!.



กำลังโหลดความคิดเห็น