ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ กกต.มีหนาว หาก DSI รับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ!!
ศึกในพรรคร่วมรัฐบาล ตอนนี้ “แดง” กำลังไล่ถลุง “น้ำเงิน” อย่างหนัก หลังจากเจอก๊วนน้ำเงิน ทั้งสส.-สว. เตะตัดขาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ มาก่อนหน้า
“แดง” อาคืนทั้งเรื่อง ที่ดินสนามกอล์ฟปากช่องของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ทับที่ ส.ป.ก. แม้จะเอาผิดไม่ได้ แต่ก็ทำให้เสียรังวัดไปพอสมควร และตอนนี้ กำลังยื่นเรื่อง “โละสว.สีน้ำเงิน” ที่มาจากการ“ฮั้ว” ทำเอาพล่านกันทั้งสภาสูง
เรื่องเริ่มจาก กลุ่ม “ว่าที่สว.” ที่อยู่ในบัญชี สว.สำรอง รอ กกต.สอยพวกได้รับการ “ปล่อยผี” ไปก่อนหน้านี้ เพื่อตัวเองจะได้เลื่อนขึ้นไปเป็น สว.กับเขาบ้าง เวลาก็ผ่านมา 7 เดือนแล้ว แต่ กกต.ก็ไม่สอยใครซักที
จึงนำเรื่องเข้าร้องเรียน ที่สำนักงานกกต. ร้องคัดค้านการเลือก สว.ที่ไม่สุจริต และเที่ยงธรรมว่ามีการ “ฮั้ว”
ยื่นเรื่องไปตั้งแต่ต้นเดือน แต่สำนักงาน กกต.ก็มัวแต่รำวง ไม่เอาเรื่องเข้าหารือเสียที ว่าจะรับหรือไม่รับพิจารณา ด้วยว่ากันว่า คนใหญ่คนโตในสำนักงานฯ เป็นคนในเครือข่าย “บุรีรัมย์คอนเนกชัน”
กลุ่มสว.สำรอง จึงไปยื่นเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบเพื่อรับเป็นคดีพิเศษด้วย
เมื่อ “ดีเอสไอ” หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม ที่มี “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม กำกับดูแล รับเรื่องพร้อมข้อมูลแล้ว ก็ทำการสืบสวน สอบสวน พบข้อมูลหลักฐานที่เข้าข่ายว่ามีการ “ฮั้ว” จริง คือ มีการเข้าพักพักโรงแรมที่เดียวกันอย่างผิดปกติ โดยจองมาล่วงหน้า คนจองก็คนเดียวกัน
มีข้อมูลการใช้โทรศัพท์เป็นกลุ่มก้อน เชื่อมโยง มีผู้ประสานงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับนักการเมืองใหญ่ และพรรคการเมืองบางพรรค ... ผู้ประสานงาน มีการใช้โทรศัพท์โทรหาคนใน “องค์กรอิสระ” ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการคัดเลือกสว. บ่อยครั้งจนผิดปกติ
มีการนัดพบปะกันล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนเลือก ระหว่างการคัดเลือก และภายหลังคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว มีการนัดหมายเหมือนเลี้ยงฉลอง ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งรายชื่อผู้ที่ไปร่วมงาน ตรงกับ “โพยฮั้ว สว.” เป๊ะ
“ดีเอสไอ” มองว่านี้ไม่ใช่แค่คดีทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่มันเป็นขบวนการที่วางแผนยึดอำนาจวุฒิสภา เข้าข่ายอั้งยี่ ซ่องโจร ฟอกเงิน ซึ่งเป็นความผิดด้านความมั่นคง ตามประมวลกฎหมายอาญา อีกด้วย
จึงทำหนังสือลับ ถึงกกต.ว่าประเด็นใดบ้างที่ กกต.จะประสงค์ตรวจสอบไว้เอง และประเด็นใด จะส่งมาให้ดีเอสไอ เข้ามาดำเนินการ เพราะมีความผิดฐาน อั้งยี่ และความผิดฐานฟอกเงิน ด้วย
ขณะเดียวกันก็เตรียมนำเข้าที่ประชุม “บอร์ดใหญ่ดีเอสไอ” เพื่อพิจารณารับไว้เป็น “คดีพิเศษ” ในวันที่ 25 ก.พ.นี้
ทางสว. เมื่อรู้ว่าจะโดนเล่นเรื่อง “อั้งยี่ ซ่องโจร” ก็พล่าน นัดกันไปหารือแก้แกมกันที่สวนสนปดิพัทธ์ หัวหิน ล่าสุดก็นัดประชุมวิปวุฒิสภา อีกรอบ แล้วออกมาแถลงว่า เรื่องสอบทุจริตเลือกสว. เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ไม่ใช่ ดีเอสไอ ทำอย่างนี้ ถือว่าก้าวก่าย
พร้อมขู่กลับไปว่า หาก “ดีเอสไอ” รับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษ ก็จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายโดยไม่ลงมติ ว่าฝ่ายบริหาร แทรกแซง ฝ่ายนิติบัญญัติ พร้อมยื่นถอดถอน “ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรมด้วย
เมื่อเรื่องทำท่าจะลุกลามบานปลายไปใหญ่โต ก็มีกระแสข่าวว่า “ครูใหญ่เนวิน-อนุทิน” นัดเคลียร์ใจกับ “ทักษิณ- นายกฯอิ๊งค์” ที่โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของ “เครือข่ายสีน้ำเงิน” ในช่วงเย็นวันที่ 24 ก.พ. ก่อนที่ บอร์ดใหญ่ดีเอสไอ จะพิจารณาเรื่องนี้
ช่วงบ่ายมีข่าวว่า “เนวิน” เดินทางมารอที่โรงแรมพูลแมนแล้ว
ระหว่างนั้นก็มีเสียงวิพากวิจารณ์ว่า ในขณะที่ “แดง” กำลังไล่ถลุง “น้ำเงิน” จนปั่นป่วน เสียขบวนอย่างนี้ มีหรือที่ “ทักษิณ กับนายกฯอิ๊งค์” จะถ่อสังขารมาที่พูลแมน เพื่อเคลียร์ใจ
อันที่จริงต้องเป็นฝ่าย “เนวิน-เสี่ยหนู” คลานเข่า เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ถึงจะถูก!!
แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ยังไม่ทันตกเย็น เมื่อ “นายกฯอิงค์” ถูกนักข่าวถามถึงเรื่องจะไปโรงแรมพูลแมน หรือไม่ ก็บอกว่า ... ไม่ไปค่ะ กลับบ้านค่ะ... ส่วนคุณพ่อก็ไม่น่าจะไปนะคะ ...
ประมาณว่า ฉันเอาเวลาไปเลี้ยงลูก อยู่กับลูกฉันดีกว่า!!
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ต้องมาลุ้นกันว่า วันนี้ (25ก.พ.) “บอร์ดใหญ่ดีเอสไอ” ที่มี “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธาน จะรับเรื่องนี้ไว้เป็นคดีพิเศษหรือไม่
แต่ฟังเสียงจากที่ผ่าน ทั้งบรรดาอดีต สว. รวมทั้ง สส.ที่ไม่ใช่กลุ่มสีน้ำเงิน ต่างเห็นว่า “ดีเอสไอ” ควรรับไว้เป็นคดีพิเศษ
เพราะที่ผ่านมา ก็เห็นกันแล้วว่า กกต. จะออกแนวใส่ “เกียร์ว่าง” มากกว่า ทั้งที่การทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เป็นเรื่องสำคัญ เกี่ยวกับการคัดกรองคนที่จะเข้าไปมีอำนาจ ไปทำงานเพื่อประเทศชาติ
โดยเฉพาะตามหลักกฎหมาย ความผิดทุจริตการเลือกตั้ง นอกจากจะมีบทลงโทษตัดสิทธิ์ทางการเมืองแล้ว ยังมีความผิดทางอาญา ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ยิ่งมีความผิดอาญาตามที่ “ดีเอสไอ” ว่ามานั้น เสียงส่วนใหญ่จึงเห็นว่า ดีเอสไอ ควรรับเรื่องนี้ไปดำเนินการ ว่าผิดจริงหรือไม่
ยิ่งหากพบว่า ในกกต. มีคนใดที่รู้เห็นเป็นใจ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องเอาผิดด้วย!!
++ ไปต่อหรือพอแค่นี้!? "สว.ไม่ตรงปก" จกตา ผลผลิตที่ กกต.หลับหูหลับตาปล่อย
เลือกตั้งสว. ปี 67 เป็นสิ่งอะเมซิ่งไทยแลนด์แดนอัปยศอดสู ที่โลกรู้แต่ยกเว้น กกต.ที่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่
ล่าสุดพอมีข่าว DSI จะรับเป็นคดีพิเศษฮั้วเลือกสว. สาธุชนทั้งหลายก็ยกมือขึ้นท่วมหัว ขอว่าให้จับให้มั่น คั้นความจริงสักทีเถอะ
เพราะงานนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทั้งบล็อกโหวต-ล็อกโหวต-ฮั้วกัน สารพัดวิชามาร มีมากันครบ!
เรียกได้ว่าเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” ตั้งแต่การรับสมัคร-การเลือกทั้งระดับอำเภอไประดับจังหวัดและระดับประเทศ
เล่าขานกันว่า การฮั้ว มีทั้งระดมคนมาสมัคร แล้วให้เลือกผู้สมัครเป้าหมาย แจกปัจจัยกันโจ่งครึ่ม นัดแต่งตัวสีเดียวกัน จองโรงแรมเดียวกัน นัดแนะตระเตรียมแจกโพย ภายใต้การบงการวางแผนจากพรรคการเมืองหนุนหลัง
แม้เสียงวิจารณ์จะดังแค่ไหน แต่ที่ผ่านมา กกต.ก็ท่องคาถาอินโนเซนต์ โลกสวย ไม่มีทุจริต และรูปแบบฮั้วยาก!
กกต.จะนั่งยันนอนยันอย่างไรก็ไม่สามารถปฏิเสธ ได้ว่า ความดรามา สว.ไม่ตรงปกจกตา นี้เล่าทีไรก็อายไปถึงนั่น
ล่าสุด "สมชาย แสวงการ" อดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ยกตัวอย่างขำๆ ของคุณสมบัติผู้สมัคร สมาชิกวุฒิสภา ไม่ตรงปก ที่ถูกปล่อยปละละเลยให้สามารถสมัครกลุ่มอาชีพตามใจชอบ เช่น หมอนวด สมัครกลุ่มหมอ ยามรีสอร์ต สมัครกลุ่มท่องเที่ยว เลี้ยงไก่ ทำนา สมัครกลุ่มศิลปะ วัฒนธรรมบันเทิง กีฬา
ทั้งๆ ที่แบ่ง 20 แยกไว้ให้แล้วตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ เช่น ทำอาชีพรับจ้าง ทำนา ทำสวน เลี้ยงไก่ หมอนวดแผนโบราณ ก็เลือกสมัครแข่งขันกันในกลุ่มตัวเอง หรือกลุ่มรับจ้างหรือกลุ่มอื่นๆ ได้
แต่ผู้ทำหน้าที่บางพื้นที่ ปล่อยวาง ไม่ตรวจคุณสมบัติประสบการณ์ในวิชาชีพที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่น้อยกว่า 10 ปี ปล่อยให้สมัครได้ และเข้าไปโหวต จนทำให้คนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจริงๆ ตกรอบตั้งแต่ระดับอำเภอ
ตัวอย่างดรามาคุณสมบัติความไม่ตรงปกในการเลือก สว. ที่ผ่านมา ยังมีอีกหลายคน แต่ก็เหลือจะเชื่อพวกที่ไม่ตรงปกเหล่านั้น กลับมีชื่อได้รับคะแนนในอันดับต้นๆ
หากยังจำได้ มีผู้สมัครสว.บางคน เช่น กลุ่มสื่อสารมวลชนผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม ระบุอาชีพเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าได้รับเลือกเพราะเคยทำงานเป็นสื่อประชาสัมพันธ์เสียงตามสายหมู่บ้าน!
บางคนเป็นประชาสัมพันธ์อำเภอ ระบุ อาชีพพยาบาล ประวัติการทำงานเคยเป็นพิธีกรงานแต่ง งานเลี้ยงทั่วไป
บางคนสมัครกลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม ประวัติการทำงานที่เข้ากับกลุ่มระบุว่า เป็นผู้พบต้นตะเคียนยักษ์
นี่ล่ะสว.ไม่ตรงปกจกตา รวมไปถึงพวกฮั้วกันเข้ามาในสภา งานนี้จะยังได้ไปต่อ หรือพอแค่นี้ แถมพ่วงตกเป็นผู้ต้องหาของ DSI ต้องโปรดติดตาม