“สมศักดิ์” บิน “แม่สอด” ติดตามการรักษาพยาบาล หลัง”โดนัลด์ ทรัมป์” ตัดการช่วยเหลือค่ายลี้ภัย

“สมศักดิ์” บิน “แม่สอด” ติดตามการรักษาพยาบาล หลัง”โดนัลด์ ทรัมป์” ตัดการช่วยเหลือสาธารณสุขในค่ายผู้ลี้ภัย 90 วัน แจ้งข่าวดี “IRC” กลับมาให้การสนับสนุนกิจกรรมบางส่วนแล้ว เผย เรื่องศูนย์อพยพ พอเบาใจในเรื่องการใช้จ่ายแล้ว

วันนี้ (21 ก.พ. 2568) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมติดตามและตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมรับฟังการนำเสนอสถานการณ์การเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำหรับพื้นที่พักพิงชั่วคราว ผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาในพื้นที่จังหวัดตาก โดยมี นายชูชีพ พงษ์ไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.พิทักษ์พงษ์ จันทร์แดง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตาก และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ Dr.Jos Vandelaer ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย คุณอารีย์ ม่วงสุขเจริญ National Profession Officer (WHO) เข้าร่วม ที่โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ​การหยุดสนับสนุนดูแลค่ายผู้หนีภัยของ IRC ในช่วงนี้ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่พักพิงชั่วคราว ในจังหวัดตาก 3 แห่ง ซึ่งมีผู้พักพิงฯ ประมาณ 49,000 คน พวกเราจึงต้องเตรียมความพร้อม ให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขตามหลักมนุษยชน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแนวทางบริหารจัดการ โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้ 1. มาตรการเร่งด่วน จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จัดทีมแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปตรวจรักษา มีระบบส่งต่อกรณีฉุกเฉินและโรคเรื้อรัง สำรองยาและเวชภัณฑ์เพิ่มเติม การจัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และการควบคุมป้องกันโรคติดต่อและโรคระบาด 2. มาตรการระยะกลาง ประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ ขอให้ทบทวนการระงับความช่วยเหลือ และขอรับการสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรพัฒนาเอกชน ในการจัดสรรงบประมาณชดเชย 


นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า 3. มาตรการระยะยาว จะกำหนดนโยบายด้านสุขภาพสำหรับประชากรข้ามชาติที่ยั่งยืน ปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์ให้รองรับสถานการณ์ของผู้ลี้ภัย อย่างยั่งยืนและเป็นระบบ ซึ่งล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอ ครม. เพื่อให้กลุ่มคนที่ไม่มีสัญชาติไทยและไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่เกิดขึ้นเอง ตามกฎระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทั้งนี้ จากการรับฟังรายงานสรุป พบว่า ค่าใช้จ่ายที่ใช้ดำเนินการในศูนย์อพยพ 3 แห่ง ตั้งแต่ 1 ก.พ.-20 ก.พ.68 รวม 5 โรงพยาบาล กว่า 2.7 ล้านบาท หรือ ใช้ประมาณเดือนละ 4 ล้านบาท แต่ล่าสุด ได้มีข่าวดีคือ IRC หรือ องค์การอินเตอร์เนชั่นแนล เรสคิว คอมมิตดี ได้มีหนังสือลงวันที่ 18 ก.พ.68 ว่าจะกลับมาให้การสนับสนุนกิจกรรมบางส่วนในค่ายผู้ลี้ภัยต่อแล้ว


“องค์กร IRC ได้มีหนังสือแจ้งว่า องค์การฯได้รับคำสั่งเพิ่มเติมจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อนุญาตให้องค์การฯ ดำเนินกิจกรรมบางส่วนได้ในช่วงเวลา 90 วัน ซึ่งไม่ใช่กิจกรรมทั้งหมดเท่าที่เคยปฎิบัติก่อนมีคำสั่งระงับการปฎิบัติงาน โดยกิจกรรมที่จะให้การสนับสนุนต่อในช่วงนี้ ได้แก่ 1.การดูแลผู้ป่วยใน (IPD) รวมถึงการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่อเนื่องด้วย ได้แก่โรคความดัน เบาหวาน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคลมชัก และแจกจ่ายยาวัณโรค HIV 2.การดูแลผู้ป่วยนอก (OPD) 3.บริการทำคลอด ดูแลหลังคลอด 4.บริการวัคซีน 5.การเฝ้าระวังโรครับมือโรคระบาด 6.โครงการมาเลเรียของกองทุนโลก 7.จัดหาน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค 8.การกำจัดขยะสิ่งปฏิกูล 9.ตรวจ Lab ขั้นพื้นฐาน 10.การให้ยารักษาโรค และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 11.เบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล 12.สนับสนุนทีมแพทย์และบุคลากรที่จำเป็นในการให้บริการ และ 13.บริการยานพาหนะส่งต่อผู้ป่วย ส่วนกิจกรรมที่ยังไม่สามารถกลับมาให้บริการได้ ได้แก่ 1.จ่ายค่าใช้จ่ายในการส่งต่อและค่ารักษาพยาบาลให้ผู้ป่วยระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลของไทย 2.การวางแผนครอบครัว 3.บริการด้านสุขภาพจิตและจิตสังคม 4.การเรียนการสอนอบรมด้านสุขภาพ”รมว.สาธารณสุข กล่าว

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ปัญหาระยะยาวกรณีแรงงานไม่ได้เข้าระบบประกันสังคม ตนได้ทำเรื่องเข้า ครม.ไปแล้ว จะสามารถดำเนินการให้ปัญหาต่างๆ ได้รับการแก้ไข ส่วนกรณีประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศหยุดความช่วยเหลือ 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.68 แต่วันนี้ ก็มีข่าวดี โดยการช่วยเหลือบางส่วนจะกลับมาดำเนินการแล้ว ทำให้เรื่องศูนย์อพยพ พอเบาใจในเรื่องการใช้จ่ายแล้ว