รายงานข่าวแจ้งว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในฐานะกรรมการและเลขานุการได้นัดประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 2/2567 จำนวน 22 คน โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานบอร์ด
โดยจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 25 ก.พ.68 เวลา 13.30 น. ซึ่งมีวาระกรณีร้องขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) โดยจะนำเข้าเป็นวาระการพิจารณา
โดยเหตุที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเสนอขอเป็นคดีพิเศษ พบว่า เรื่องนี้เป็นการกระทำความผิดต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยเป็นการกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีการอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวล
กฎหมายอาญา มาตรา 116 (3), 209 ประกอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 107, พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาพ.ศ.2561 และความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เนื่องจากการกระทำผิดของกลุ่มขบวนการในครั้งนี้เป็นการกระทำความผิดต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีการ อื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติมีความสลับซับซ้อน กระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ ผิดต่อกฎหมายหลายฉบับ โดยมีการวางแผนมาตั้งแต่ก่อนเริ่มกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาต่อเนื่องมาจนถึงหลังจากการเลือกสมาชิกวุฒิสภาเสร็จสิ้นแล้วลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม มีการแบ่งหน้าที่กันทำ มีฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศในการเตรียมโปรแกรมคำนวณการลงคะแนน ออกเป็นโพยฮั้วเพื่อให้ได้ผลลัพธ์จำนวนสมาชิกวุฒิสภาที่ต้องการ เตรียมบุคคลที่มาลงคะแนนที่เรียกว่ากลุ่ม "พลีชีพ" หรือ "โหวตเตอร์" พฤติการณ์ดังกล่าวมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) (ก)(ข) (ค) และ (ง) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 จึงอาศัยอำนาจตามข้อ 8 แห่งประกาศ กคพ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการร้องขอและเสนอให้ กคพ. มีมติให้คดีความผิดทางอาญาใดเป็นคดีพิเศษ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมเสนอความเห็นว่าควรพิจารณาเพื่อมีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาตามข้อเท็จจริงที่เสนอมานี้ เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2)แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 และมีมติให้มีพนักงานอัยการ หรืออัยการทหารแล้วแต่กรณี มาสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามมาตรา32 แห่งพระราชบัญญัติ
การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547ด้วย
สำหรับข้อเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ เห็นควรมีมติให้กรณีความผิดต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยการกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือ วิธีการอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ในการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภาปี พ.ศ.2567 ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209, 116 (3) ประกอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 107, พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 และความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ตามข้อเท็จจริงที่เสนอมาเป็น คดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และมีมติให้มีพนักงานอัยการหรืออัยการทหารแล้วแต่กรณีมาสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ด้วย
รายงานข่างแจ้งว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการกคพ. ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 หรือจำนวน 15 คนจากทั้งหมด 22 คนเป็นต้นไปให้ความเห็นชอบจึงจะรับเป็นคดีพิเศษได้ และต้องจับตาว่า คณะกรรมการกคพ. จะกล้าพิจารณาหรือไม่ เพราะอาจสุ่มเสี่ยงมีความผิดมาตรา 157 เพราะกล่าวหา สว.เป็นองค์กรอาชญากรรมและอั้งยี่ ซ่องโจร หลังประธานวุฒิสภา พร้อมสว.นำแถลงข่าวเตรียมดำเนินคดีกับคนที่ทำให้วุฒิสภาเสียหายรวมถึง หลายคนในคณะกรรมการ กคพ. ยังกังวล ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของดีเอสไอแต่เป็นของกกต.
สำหรับมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กพค)มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นรองประธาน และกรรมการอีก 20 คน อาทิ ปลัดกระทรวงยุติธรรม-ปลัดกระทรวงการคลัง-ปลัดกระทรวงมหาดไทย-อัยการสูงสุด-ผบ.ตร.-เลขาฯ กฤษฎีกา-เจ้ากรมพระธรรมนูญ-ผู้ว่าการแบงก์ชาติฯลฯ