ผู้แทนการค้าไทย นายอุเมส ปานเดย์ นำทีมร่วมประชุมรับฟังความต้องการของสมาพันธ์อุตสาหกรรมหนักแห่งมาเลเซีย เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าการลุงทุนระหว่างกัน
นายอุเมส ปานเดย์ ผู้แทนการค้าไทยในเขตอาเซียน ได้เข้าร่วมประชุมกับสมาพันธ์อุตสาหกรรมหนักแห่งประเทศมาเลเซีย โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการรับฟังความต้องการของภาคธุรกิจของมาเลเซีย ทางฝั่งนักธุรกิจมาเลเซียนำทีมโดยประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมหนักแห่งมาเลเซีย ,Tan Sri Dato’ Soh Thian Lai, โดยทั้งสองฝ่ายมุ่งหารือประเด็นที่ช่วยเพื่อการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน และได้ร่วมงาน Business matching ระหว่างธุรกิจ SME ไทย - มาเลเซีย
นายอุเมสได้รับฟังความต้องการของทางนักธุรกิจมาเลเซียที่ต้องการจากประเทศไทย เพื่อให้การเพิ่มการค้าการลงทุนระหว่างกันง่ายขึ้น ในการหารือครั้งนี้ ทางมาเลเซียได้ร้องการรับรองคุณภาพสินค้าที่จะใช้มาตรฐานเดียวกันในทุกประเทศอาเซียนเพื่อลดขั้นตอนทางการค้าในระหว่างกัน และยังมีความต้องการในการมีส่วนร่วมในระบบ Supply chain ใน sector ต่างๆ
นอกจากนี้ ทางมาเลเซียยังได้แสดงความต้องการจะร่วมมือในส่วนของเทคโนโลยียานยนต์กับประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสร้างจุดแข็งร่วมกันในธุรกิจนี้ การสร้างจุดแข็งทางธุรกิจร่วมกันนั้น ผู้แทนการค้าไทย นายอุเมสเห็นด้วย และได้ตอบรับในที่ประชุมว่าจะร่วมผลักดันในจุดนี้
นายอุเมสได้ขอให้สมาชิกสมาพันธ์ดังกล่าวให้ความสำคัญการค้าชายแดนตามกรอบ Special Economic Zone (SEZ) ซึ่งครอบคลุมชายแดนจังหวัดนราธิวาสและสงขลาของไทย โดยให้มุ่งส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชนระหว่างกัน และยังขอให้ทางมาเลเซียช่วยกันผลักดันการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในกรอบ ASEAN BUSINESS ADVISORY COUNCIL (ASEAN - BAC) ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจของไทย- มาเลเซียที่มีอยู่เดิมแล้ว
นายอุเมสยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของความต่อเนื่องในการสร้างความร่วมมือในภาคส่วนอื่นๆ ที่ประเทศไทย-มาเลเซียมีศักยภาพและควรพัฒนาร่วมกันด้วย เช่น การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์ วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
การอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนเพื่อธุรกิจ SME ของไทยมีความสำคัญ ตัวอย่างเช่น การจัดงาน Malaysia – Thailand Industrial Products Business Matching ที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์นั้น SME ไทยมากกว่า 24 รายเข้าร่วม business matching กับ นักธุรกิจจากสมาพันธ์อุตสาหกรรมหนักแห่งมาเลเซีย ซึ่งส่งผลดีกับธุรกิจ SME ไทยในระยะยาว
การช่วยเหลือธุรกิจ SME ให้ขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ได้โดยตรง ซึ่งการขยายตลาดนั้น เป็นหนึ่งในกิจกรรมทางธุรกิจที่สำคัญที่สุดกิจกรรมหนึ่ง ส่งผลให้ธุรกิจไทยสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งและความสามารถในการแข่งขันได้ดี เนื่องจากธุรกิจ SME ปัจจุบันเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทย มากกว่านั้นการช่วยเหลือ SME จะส่งผลดีต่อกลุ่ม supply chain การจ้างงานในประเทศ เศรษฐกิจฐานราก และพัฒนาระบบเศรษฐกิจทั้งระบบได้ในที่สุด.