xs
xsm
sm
md
lg

โอดโอย "อย่ามาเผานา เพื่อฆ่าหนู" ทำไม “อนุทิน-ภท.” จึงเดือดนัก เมื่อ ก.เกษตรฯ ขยับตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. !? **กรรมซัดวิบัติหนัก !! “ทนายตั้ม” ถูกศาลสั่งจำคุก 1 ปี 4 เดือน คดีหมิ่น “ศุภชัย โพธิ์สุ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนุทิน ชาญวีรกูล - นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
ข่าวปนคน คนนปนข่าว

++ โอดโอย "อย่ามาเผานา เพื่อฆ่าหนู" ทำไม “อนุทิน-ภท.” จึงเดือดนัก เมื่อ ก.เกษตรฯ ขยับตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. !?

จากกระแสสนามกอล์ฟ "แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรี คลับ" เป็นประเด็นร้อน ที่ทำให้หลายคนสงสัย ทำไม “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตลอดจนตัวตึงของพรรค จึงเป็นเดือดเป็นแค้นกับกรณี “ธนดล สุวัณณะฤทธิ์” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.ที่ปากช่อง

“คารม พลพรกลาง” สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ถึงกับตั้งคำถามฝากไปถึง “ธนดล” มีเจตนาอะไรกันแน่

พร้อมๆ กับปล่อยวาจาเชือดเฉือน “ธนดล” ในทำนอง จะเป็นนักการเมืองที่ดี ไม่ใช่อยากสร้างชื่อเสียง หิวแสง แต่ทำให้คนอื่นเสียหาย ถือเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ “อย่ามาเผานา เพื่อฆ่าหนู” อย่าเล่นแต่การเมือง

อนุทิน ชาญวีรกูล
งานนี้ “คารม” เข้าสู่โหมดการเมืองเต็มตัว ด้วยการแซะการทำหน้าที่ของ “ธนดล” จะให้เป็นการกระทำหน้าที่ครบถ้วน จะต้องไปตรวจที่ดิน ส.ป.ก. รายหนึ่งของนักธุรกิจที่จังหวัดภูเก็ตด้วย

ส่วนหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ปฏิเสธว่า สนามกอล์ฟที่ปากช่อง ไม่ใช่ของตัวเอง แต่เป็นของ “คนในครอบครัว” บริหารจัดการอยู่เท่านั้น และได้ดำเนินการมาเกือบ 20 ปีแล้ว ซึ่งขณะนั้นที่ดินดังกล่าว ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น นอกจากโฉนด และน.ส.3 ก. มีการไปโอนที่กรมที่ดิน และเสียค่าโอนถูกต้อง ทำเอ็มโอยู กับเจ้าของเก่าเพื่อเข้าไปขอใช้สถานที่ ทำขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมาย

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
ตั้งแต่เป็นกระแสขึ้นมา จะเห็นว่า “อนุทิน” พูดย้ำในประเด็นนี้ บอกปัดไม่ใช่เจ้าของๆ แต่คำถามมีว่า เมื่อไม่ใช่เจ้าของ แต่ทำไมถึงรู้รายละเอียดได้ดี มันก็น่าสงสัย และสงสัยหนักขึ้นไปอีก ทำไมต้องหัวเสียกับการตรวจสอบ ของกระทรวงเกษตรฯ
หากทำถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน ก็ไม่เห็นต้องกังวลอะไร ใช่หรือไม่!?

เรื่องนี้คนที่ใจเย็นเป็นน้ำนิ่ง น่าชื่นชมกลับเป็น "อาจารย์แหม่ม" นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ที่บอกอย่างคนเป็นรัฐมนตรี ที่มีวุฒิภาวะ ว่า กรณีของ “ธนดล” ไม่ใช่เป็นการให้ไปตรวจสอบที่ดินของพรรคร่วมรัฐบาล แต่การดำเนินการเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่ทำกินของประชาชน

ธนดล สุวัณณะฤทธิ์
“อนุทิน” ท่าจะลืมไปเรื่อง ส.ป.ก. เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 12-13 กันยายน 2567 ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่รับผิดชอบคือ ที่ดินของ ส.ป.ก. ซึ่งงานนี้ รมว.เกษตรฯ ว่า ได้ดำเนินนโยบายเรื่องนี้ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่รัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรี จนมาถึงรัฐบาล “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี โดยมีการตรวจสอบพื้นที่ ที่มีการทับซ้อน หรือใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์ทั้งประเทศ ไม่ใช่ตรวจสอบของใครเฉพาะเจาะจง

เพราะฉะนั้นที่ “อนุทิน” และคนของพรรคภูมิใจไทย ตีโพยตีพายว่าเป็น "เรื่องการเมือง" นฤมล ก็ย้ำว่า

“อนุทิน” อาจจะเข้าใจผิด เพราะเป็นเรื่องการตรวจสอบทั้งประเทศ และทั่วทั้งเขาใหญ่ ซึ่งมีหลายแปลง ที่มีการตรวจสอบอยู่
“นฤมล” เคลียร์ชัดแบบนี้ ก็อยู่ที่ "เสี่ยหนู-อนุทิน" จะยังข้องใจอยู่อีกหรือไม่!!

ชอบมโนไปเองว่า คนอื่น "เผานาเพื่อฆ่าหนู" เหมารวมทุกเรื่อง เป็นเรื่องการเมืองร่ำไป ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของกฎหมายและความถูกต้อง ควรยินดีให้ตรวจสอบมิใช่หรือ !?

ษิทรา เบี้ยบังเกิด
++ กรรมซัดวิบัติหนัก !! “ทนายตั้ม” ถูกศาลสั่งจำคุก 1 ปี 4 เดือน คดีหมิ่น “ศุภชัย โพธิ์สุ”

“ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ที่ตอนนี้ถูกคุมขัง อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในคดีที่ร่วมกับพวก ฉ้อโกง “พี่อ้อย” จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐนีชาวไทย ที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศส ในหลายกรรม หลายเรื่อง ศาลยังไม่ให้ประกันตัว

ล่าสุด“ผลกรรม” ที่ทำไว้ก่อนหน้านั้น ได้ตามมาซ้ำอีกเรื่อง เมื่อศาลจังหวัดนครพนม ตัดสินจำคุก “ทนายตั้ม” กับ น.ส.ช่อฉัตร หรือ “ช่อ” โตชูวงศ์ นักธุรกิจค้าน้ำยางพารา คนละ 1 ปี 4 เดือน ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 1,100,000 บาท

ช่อฉัตร โตชูวงศ์
คดีนี้ ผศ.ดร.ธนบวร สิริคุณากรกุล - นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ “ครูแก้ว” อดีต สส.นครพนม อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และ น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง “น.ส.ช่อฉัตร โตชูวงศ์” และ “ทนายตั้ม” จากกรณีที่ทั้งสองร่วมกันแถลงข่าว เมื่อปลายปี 2565 มีเนื้อหาอันเป็นเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริง และมีเจตนาใส่ร้ายโจทก์ทั้งสาม ให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง

กล่าวหาว่าคนสนิท นายศุภชัย โพธิ์สุ เรียกรับเงินวิ่งเต้นรับงานโครงการรัฐบาล เป็นเงินกว่า 25 ล้านบาท จึงถูกฟ้องเอาผิดทางอาญา รวมถึงฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานที่ทั้ง 2 ฝ่าย นำสืบหักล้างแล้ว เห็นว่า จำเลยทั้งสอง กระทำผิดตามฟ้องจริง จำคุกจำเลยคนละ 2 ปี คำเบิกความของจำเลยทั้งสองในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง จึงลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน

ศุภชัย โพธิ์สุ
พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี ประกอบกับภายหลังเกิดเหตุไม่ปรากฏว่า จำเลยทั้งสองสำนึกผิด และไม่มีการเยียวยาบรรเทาความเสียหายให้โจทก์ทั้งสาม กรณีจึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินให้โจท์ที่ 1 เป็นเงิน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 20 ก.ย.66) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ และให้โจทก์ที่ 2 และที่ 3 คนละ 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
นี่เป็นผลจากคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาเท่านั้น

ยังเหลือคดี “ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ” ที่ “พี่อ้อย” จตุพร อุบลเลิศ เป็นผู้เสียหาย อีกทั้งคดีฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งล้วนมีอัตราโทษหนักทั้งนั้น

อนาคตของ “ทนายตั้ม” ที่ต้องอยู่ในคุก ยาวแค่ไหน ทั้งคดีใหม่ คดีเก่า ขึ้นอยู่กับผลกรรมที่ตัวเองก่อ


กำลังโหลดความคิดเห็น