xs
xsm
sm
md
lg

ส่องทางสามแพร่งของ "โจ๊ก" กับผลสอบวินัยร้ายแรง เบาสุดกลับเข้ารับราชการได้-หนักสุดไล่ออก หรือปลดออก-ถอดยศ!! ** ดรามา “หน้าตัวเมีย” เมื่อสนามกอล์ฟ อนุทิน ถูกแฉทับที่ส.ป.ก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล - อนุทิน ชาญวีรกูล - ดนัย เอกมหาสวัสดิ์
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ ส่องทางสามแพร่งของ "โจ๊ก" กับผลสอบวินัยร้ายแรง เบาสุดกลับเข้ารับราชการได้-หนักสุดไล่ออก หรือปลดออก-ถอดยศ!!

เรื่องราวของ “โจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถ้าเป็นภาพยนตร์เดินมาถึงวันนี้ก็ต้องถือว่าใกล้จะจบบริบูรณ์

บทอวสานของ “โจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล จะลงเอยอย่างไร ไฮไลต์สำคัญที่ทุกสายตาจับจ้องรอคอยอยู่ที่ ผลสอบสวนวินัยร้ายแรง ที่คาดว่าจะออกมาในวันที่ 20 ก.พ.นี้ หลังครบกำหนดตามกรอบเวลา 270 วัน

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กับพวกรวม 5 คน ที่พัวพันเว็บพนันออนไลน์ ถูกสอบสวนวินัยร้ายแรง !!

โดย มีการเรียกประชุมคณะกรรมการหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่สมัย “พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช” อดีต รอง ผบ.ตร. นั่งเป็นประธานคณะกรรมการ จนมาถึง “พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร” จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) มารับไม้ต่อ ในปัจจุบัน

ฟังว่า พล.ต.อ.ธัชชัย ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กับพวก 5 คนก็ทำงานต่อเนื่องจาก พล.ต.อ.สราวุฒิ จนจะครบกำหนดตามกรอบเวลาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล
“พล.ต.อ.ธัชชัย” บอกว่า หากไม่ได้ข้อสรุป ก็อาจจะเสนอ ผบ.ตร. เพื่อขยายกรอบระยะเวลาอีก 30 หรือ 60 วัน แต่จะมีการประชุมนอกรอบก่อน เพื่อพิจารณาพยานหลักฐาน ว่าที่รวบรวมมาเพียงพอ จะสรุปผลหรือไม่

สิ่งที่หลายๆ คนอยากจะรู้ก็คือ ผลการพิจารณาจะออกทางไหนได้บ้าง ?

ปรากฏว่า โดยหลักจะเป็นไปได้ใน 3 แนวทาง คือ ไม่ผิดวินัย “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” สามารถกลับเข้ารับราชการได้
หากผิดวินัย ก็จะมีการชี้ว่า เป็นความผิดวินัยร้ายแรง หรือ ไม่ร้ายแรง

หากเป็นวินัยไม่ร้ายแรง จะถูกลงโทษ อาทิ ตัดเงินเดือน กักยาม หรือ ภาคทัณฑ์ และยังสามารถกลับเข้ารับราชการได้
แต่หากผิดวินัยร้ายแรง จะมีโทษ คือ “ปลดออก” หรือ “ไล่ออก” !

กรณีนี้ ยังมีขั้นตอนต่อ หากคณะกรรมการสรุปว่า “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” มีความผิดวินัยร้ายแรง ก็จะเสนอ ผบ.ตร. ให้มีคำสั่งตั้ง คณะกรรมการกลั่นกรองโทษ ซึ่งประกอบด้วย รอง ผบ.ตร. ทั้งหมดพิจารณาโทษ ว่าจะไล่ออก หรือปลดออก ซึ่ง
“พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” สามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์คำสั่ง ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)

หาก ก.พ.ค.ตร.ยืนตามคณะกรรมการวินัย “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” ก็ยังสามารถใช้สิทธิ์ ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป ซึ่งหากศาลปกครองสูงสุดยืนตาม ก.พ.ค.ตร. อีก ก็จะทำให้คดีวินัยถึงที่สุด ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการ พิจารณา “ถอดยศตำรวจ”
นี่เป็นทางสามแพร่ง ที่ “โจ๊ก” ไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเอง อยู่ที่พยานหลักฐาน การพิจารณาของคณะกรรมการ จะออกแพร่งไหน ก็ต้องบอกว่า โปรดอดใจรอคอยอีกไม่กี่อึดใจ

กงล้อแห่งชะตา“โจ๊ก” กำลังทำงาน ผลสอบจะออกหน้าไหน เดี๋ยวรู้กัน

อนุทิน ชาญวีรกูล
++ ดรามา “หน้าตัวเมีย” เมื่อสนามกอล์ฟ อนุทิน ถูกแฉทับที่ ส.ป.ก.

กรณีรายการเจาะลึกทั่วไทย ดำเนินรายการโดน “หมาแก่” ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ “แมวสาว” อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ ออกมาเปิดโปง พื้นที่สนามกอล์ฟของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ตั้งอยู่ ที่ อ.ปากช่อง (เขาใหญ่) จ.นครราชสีมา ทับซ้อนกับที่ดินส.ป.ก.

สอดคล้องกับที่ “ธนดล สุวัณณะฤทธิ์” ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะทำงานฯ ตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. ที่ได้รับการแต่งตั้งในช่วงที่ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ทำการตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. ครั้งใหญ่ ออกมาเปิดเผยว่า

ดนัย เอกมหาสวัสดิ์
พบการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ที่เขาใหญ่ กว่า 4 หมื่นไร่ อยู่ในมือนักการเมือง นายทุน และผู้มีอิทธิพล เตรียมเดินหน้ายึดคืนสู่มือเกษตรกร หากพบว่าทำผิดกฎหมาย!

เรื่องนี้ทำเอา “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ถึงกับปากคอสั่น บอกว่าสนามกอล์ฟนั้น ไม่ใช่ของตนเอง แต่เป็นของ “ครอบครัว” ได้มาโดยสุจริต มีโฉนด ที่ออกมาเป็นสิบปีแล้ว ไม่ใช่ไปได้ที่ดินมาแล้วมาวิ่งเต้นออกโฉนดภายหลัง

“อนุทิน” มองว่าเรื่องนี้ มีแรงจูงใจทางการเมืองแน่ๆ เพราะพรรคภูมิใจไทย เพิ่งปฏิบัติการ “แช่แข็ง” ร่าง แก้ไขรธน. ของพรรคเพื่อไทย มาหมาดๆ

“เสี่ยหนู” ถึงกับหลุดปากออกมาว่า คนที่หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเล่นนั้น “หน้าตัวเมีย”

ธนดล สุวัณณะฤทธิ์
แถมยังฟาด “หมาแก่” ไปอีกดอกว่า เรื่องอย่างนี้ เอาไปออกรายการทั้งที่ยังไม่มีการตรวจสอบ ... ทีเรื่องอื่นก็โทรตามจัง ทั้งหมาแก่ และ แมวสาว ถามแล้วถามอีก นอกรอบ นอกรอบ แต่พอมาเรื่องนี้ เอาไปออกโดยไม่ถามสักคำ ไม่รู้ว่าไปงับงานใครมาหรือเปล่า ?!

คนที่ได้ยินได้ฟังเรื่องนี้ บอกว่าคนปล่อยข่าว กับคนเป็นข่าว พอๆ กัน เหมือน ผีเน่า กับโลงผุ !!

เมื่อ“เจ้านาย” ที่เป็น รมว.มหาดไทย ถูกเล่นเข้าแบบนี้

“พรพจน์ เพ็ญพาส” อธิบดีกรมที่ดิน ก็ต้องออกโรงมาชี้แจง โดยบอกว่า ที่ดินดังกล่าว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มาขอจัดสร้างเป็นนิคมสร้างตนเอง จัดสรรให้ประชาชนใช้เป็นที่ทำกิน แบ่งซอยกว่า 1,000 แปลง ตั้งแต่ปี 2515

พรพจน์ เพ็ญพาส
ตามระเบียบของ พม. เมื่อประชาชนเข้าทำประโยชน์เป็นเวลา 5 ปี ก็สามารถขอเปลี่ยนเป็นที่ดิน “น.ค.3” และ ต่อมาออกเป็นโฉนดได้ตามกฎหมาย เมื่อพ้นกำหนด 5 ปี ก็สามารถซื้อขาย เปลี่ยนมือได้ตามปกติ

ตามเส้นทางของ พม. จากที่ ส.ป.ก. ใช้เวลา 10 ปี ก็แปลงร่างเป็นโฉนด ที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมซื้อ ขายได้ทันที

“ที่ดินทั้งหมดออกจาก พม. ถ้าจะถามว่าทับซ้อนหรือไม่ ส.ป.ก.ต้องไปเคลียร์กับ พม.เอง ไม่ใช่มาถามกรมที่ดิน เพราะ กรมที่ดิน เป็นเพียงปลายทาง เราดำเนินการตามระเบียบ และกฎหมายชัดเจน ” อธิบดีกรมที่ดิน โบ้ยใส่ พม.

สัปดาห์นี้ คณะทำงานฯ ตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. ชุดของ “ธนดล สุวัณณะฤทธิ์” กำลังลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบที่ดินดังกล่าว ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเจอ “แรงเสียดทาน” อะไรบ้าง

ก็ต้องติดตามกันว่า การตรวจสอบงานนี้จะไป “สุดซอย” หรือทิ้งค้างไว้แค่ “กลางซอย”!!


กำลังโหลดความคิดเห็น