xs
xsm
sm
md
lg

"โจ๊ก" ยักไหล่ "ไซเบอร์อรรถ" ไล่สอบคลิปแอบถ่าย "วันนอร์-สุชาติ" นัดชี้ชะตา "สุรเชชษฐ์" ใกล้จบบริบูรณ์ ** ได้คืบจะเอาศอก! “ทักษิณ” ขอบินไปพบ “ฮุน เซน” แต่ศาลไม่อนุญาต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล - ทักษิณ ชินวัตร
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ "โจ๊ก" ยักไหล่ "ไซเบอร์อรรถ" ไล่สอบคลิปแอบถ่าย "วันนอร์-สุชาติ" นัดชี้ชะตา "สุรเชชษฐ์" ใกล้จบบริบูรณ์

ขนาดโดนจับได้ไล่ทัน แต่ก็ยังลื่นไถลไปได้เรื่อยๆ ด้วยเหตุผลข้างๆ คูๆ ใครที่ชมดูคงนึกหาคำนิยามอะไรที่เหมาะสมให้ชายที่ชื่อ "โจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ไม่ได้

ไม่ว่า “โจ๊ก” จะถูกชาวโซเชียลฯ จับโป๊ะกรณี "คลิป" แอบถ่ายการพูดคุยกันระหว่าง “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ “สุชาติ ตระกูลเกษมสุข” ประธานป.ป.ช.แค่ไหนนั้น เจ้าตัวก็ยังพลิ้วว่า เคยไปบ้าน "วันนอร์" แต่ไปคนละวัน และยอมรับว่า เป็นคนกลางที่พาให้ทั้ง 2 คน มาเจอกัน แต่ย้ำว่า ตนเองไม่ได้เป็นบุคคลที่อยู่ในคลิป

“โจ๊ก”จะอยู่ในคลิปหรือไม่อยู่ ก็เรื่องหนึ่งที่ต้องพิสูจน์ แต่การมีคลิป และเจตนาของการปล่อยคลิปนี้ออกมา ต้องการอะไรก็รู้ๆ กันอยู่

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล
เพียงแต่ “โจ๊ก” และ "หมาแก่" ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ เจ้าของรายการ "เจาะลึกทั่วไทย" สื่อคู่ใจที่เอามาเผยแพร่นั้นคำนวณสถานการณ์พลาด ประเมินสติปัญญาผู้คนในสังคมต่ำไป

ทางหนึ่ง ท่านประธานวันนอร์ ด่า โจ๊ก เตลิดเปิดเปิงที่แอบถ่าย "เสียมารยาทลูกผู้ชาย" ตอกย้ำและย้อนไปสะท้อนถึงพฤติการณ์ในอดีต ของนายตำรวจใหญ่ผู้นี้

จนมีคำถามว่า หาก "โจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยังอยู่ในตำแหน่ง รอ งผบ.ตร.และ ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของ สตช. จะขนลุกขนพองสยองเกล้า กันแค่ไหน !?

วันมูหะมัดนอร์ มะทา
ด้วยคำพระที่ท่านว่า "คนโกหกไม่ทำชั่วนั้นไม่มี" ย่อมเป็นจริงแท้แน่นอน

ทางหนึ่งตอนนี้ "คลิปแอบถ่าย" ถูกเอาไปขยาย-ตัดต่อ มั่วซั่ว ซึ่ง "โจ๊ก-หมาแก่" ก็คงไม่คาดคิดจะบานปลายไปเข้าตา "บิ๊กอรรถไซเบอร์" พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คลิปที่ถูกตัดต่อ ดัดแปลงเข้าข่ายซึ่งบิดเบือนความจริงและสร้างข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ
งานจะเข้าใครบ้าง ก็เตรียมรับข้อหาความผิด มาตรา 14 ฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมคอมพิวเตอร์ ที่เกิดความเสียหายต่อรัฐ หรือ มาตรา 16 ฐานนำภาพผู้อื่นไปตัดต่อดัดแปลงให้เสื่อมเสียชื่อเสียง!

แน่นอน “โจ๊ก” ผู้ที่ต้องพยายามดิ้นเฮือกสุดท้ายก่อนที่จะถูกชี้ชะตาทั้งคดีที่ ป.ป.ช.หลายคดี และ สตช.โนสน-โนแคร์
การเดินเกมแบบลุยถั่ว มั่วได้ใจของ “โจ๊ก” เพราะตัวเองหลังพิงฝา!!

เพราะว่าถ้าสรุป โดน ป.ป.ช.ฟันฉับ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ก็จบเห่ จบชีวิตราชการที่เจ้าตัวยังคิดว่ามีความหวังจะกลับมามีชีวิตที่ 9 ได้

ขณะที่เรื่องราวที่ สตช.ก็บีบกระชับเข้ามา ฟังว่าสัปดาห์นี้ วันพฤหัสฯที่ 20 ก.พ. คณะกรรมการพิจารณาวินัยร้ายแรงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะมีมติออกมาแล้ว

หากไม่เป็นคุณกับ"โจ๊ก" ถ้า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ผิดวินัยอย่างร้ายแรง ก็อาจจะถึงขั้นถูกให้ออกจากราชการ!

เพราะฉะนั้น กับเรื่องถูกจับโป๊ะ เรื่องคลิป ถูก “ประธานวันนอร์” ด่า หรือ "บิ๊กอรรถไซเบอร์" จะตามตรวจสอบ "โจ๊ก" ก็ยังเป็นโจ๊ก ไม่ว่าจะเละเทะ เลอะเทอะ ปากก็ยังขู่ฟ่อๆ แต่ขานั้นสั่นพั่บๆ

“โจ๊ก” บอกวันนี้ทุกคนพูดความจริงครึ่งเดียว ถ้าบอกให้ตัวเองพูดทั้งหมดแล้วไม่ฟ้อง จะพูดหมดเลย แต่วันนี้ไม่มีใครพูดความจริง จะให้ตัวเองไปพูดได้อย่างไร

งานนี้ “โจ๊ก” จะพูดอะไร ทำอะไร ก็เอาที่สบายใจ เพราะคงไม่มีใครไปว่า "โมฆะบุรุษ" แบบโจ๊ก สังคมกำลังตั้งตารอดูบทสุดท้ายว่า คนแบบนี้จะลงเอยอย่างไรมากกว่า ซึ่งก็อีกในไม่ช้าไม่นานแล้ว จะจบบริบูรณ์...นะครับนะ

ทักษิณ ชินวัตร
++ ได้คืบจะเอาศอก!! “ทักษิณ” ขอบินไปพบ “ฮุน เซน” แต่ศาลไม่อนุญาต

เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา “ทักษิณ ชินวัตร” ในฐานะที่ปรึกษาของ “อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน ขณะเดียวกันก็เป็นจำเลยในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ศาลห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ได้ขออนุญาตศาล เพื่อไปร่วมประชุมที่มาเลเซีย

ครั้งนั้นศาลได้ไต่สวน “ทักษิณ” โดยมี “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” รมว.การต่างประเทศ มาเบิกความสนับสนุน แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ “ทักษิณ” เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปร่วมประชุมได้ ในวันที่ 2-3 ก.พ. โดยต้องวางหลักประกัน 5 ล้านบาท และให้รายงานตัวภายใน 3 วัน เมื่อกลับมาถึงไทย

ฮุน เซน
ล่าสุด “ทักษิณ” กำลังจะได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร อีกเป็นครั้งที่ 2 ภายในเวลาห่างกันไม่ถึง 1 เดือน คราวนี้ไปประเทศบรูไน ดารุสลาม

เนื่องจาก “อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านมาทางสถานทูตไทย กระทรวงต่างประเทศ เพื่อขอให้ “ทักษิณ” ไปร่วมหารือเรื่องอาเซียน ต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว ในวันที่ 18-19 ก.พ.นี้

มีรายงานว่า “ทักษิณ” ได้ยื่นคำร้อง ขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักรต่อศาล ไปเมื่อวันที่13 ก.พ.68 และ ศาลอาญา ได้นัดไต่สวนพยาน วันที่ 14 ก.พ. 68 มีพยาน 2 ปาก คือ “ทักษิณ” เเละ “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” รมว.ต่างประเทศ เหมือนเช่นเคย

ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้อง จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ “ทักษิณ” เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ ระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ. 68 ให้วางหลักประกันเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท และให้กลับมารายงานตัวภายใน 3 วัน นับแต่วันที่เดินทางกลับ แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) รับทราบ

หลังจากศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว มีรายงานว่า “ทักษิณ” ยังได้ยื่นคำร้องขอเดินทางไป ประเทศเวียดนาม และ กัมพูชา ในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย

มาริษ เสงี่ยมพงษ์
กะว่า ในช่วงวันที่ 18-19 ก.พ.นี้ จะบินไปทั้ง 3 ประเทศเลย ...ร่วมประชุมที่บรูไน พอเป็นพิธี จากนั้นก็ไปทำธุระส่วนตัวที่เวียดนาม และกัมพูชา

อย่างนี้ ตรงตามสำนวนสุภาษิต คำพังเพยไทยว่า “ได้คืบ จะเอาศอก” คือคนที่ไม่รู้จักพอ!!

แต่ศาลไม่อนุญาต เพราะเห็นว่า การเดินทางไปประเทศเวียดนาม นั้นเป็นไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนาม ซึ่งมีตำเเหน่งเป็น ที่ปรึกษาในหน่วยงานรัฐของเวียดนาม เป็นการเชิญส่วนตัว ไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม

เช่นเดียวกับคำเชิญจากกัมพูชา ซึ่งเป็นของ “ฮุน เซน” ก็เป็นการเชิญในนามส่วนตัว ไม่ใช่ในนามรัฐบาลของกัมพูชา
เป็นกรณีไม่มีเหตุจำเป็น ศาลจึงยกคำร้อง!!

หลังปรากฏข่าวนี้ ในโซเชียลฯ ก็มีการวิพากวิจารณ์กันหลากหลาย

บรรดากองเชียร์ก็บอกว่า เห็นไหมต่างประเทศยังให้ความสำคัญ เชิญไปเป็นที่ปรึกษาแก้ปัญหาในกลุ่มอาเซียน

บางความเห็นยังหลับหู หลับตา อวยว่า ที่ไทยจัดการตัดไฟ ตัดเน็ต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ชายแดนเมียนมา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เป็นผลมาจากการไปประชุมของ “ทักษิณ” ในครั้งที่แล้ว

ทั้งๆ ที่ปฏิบัติการตัดไฟ ตัดเน็ต ครั้งนี้ เห็นกันอยู่ทนโท่ว่า “หลิว จงอี้” ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน บินมากำกับด้วยตัวเองถึงที่

บ้างก็ว่า เป็นการซักซ้อม เตรียมพร้อมเอาไว้เผื่อเจอวิกฤต

ส่วนที่ขออนุญาตไปพบ “ฮุนเซน” นั้น คนที่เข้ามาแสดงความเห็น พุ่งไปอยู่เรื่องเดียวคือ คงถูก “ฮุนเซน” กระตุ้นให้รีบไปเจรจาเรื่องผลประโยชน์ในแหล่งก๊าซ ทางทะเลแน่ๆ ไม่มีเรื่องอื่น พร้อมขอบคุณศาล ที่ไม่อนุญาต


กำลังโหลดความคิดเห็น