xs
xsm
sm
md
lg

โฆษกกมธ. บุหรี่ไฟฟ้า ห่วงขนมเลียนแบบบุหรี่ไฟฟ้า ย้ำ ต้องเร่งควบคุมหวั่นเยาวชนไม่รู้เท่าทันสินค้ารูปแบบใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โอภาส” โฆษก กมธ. บุหรี่ไฟฟ้า เผยกังวลขนมรูปร่างคล้ายบุหรี่ไฟฟ้าระบาดหน้าโรงเรียน ย้ำต้องเร่งหาวิธีควบคุม กมธ. เตรียมเสนอแนวทางการควบคุมต่อสภาฯ เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนเป็นสำคัญ พร้อมชื่นชมกรมศุลกากรจับของเถื่อนเข้มข้น

นายโอภาส อาลมิสรี โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ในสัดส่วนของพรรคเสรีรวมไทยกล่าวว่า “ปัจจุบันมีบุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศที่อาจเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีคุณภาพ และอาจมีรูปลักษณ์ที่ดึงดูดเด็กและเยาวชน เหมือนขนมสีเขียวคล้ายบุหรี่ไฟฟ้าที่ระบาดน่าโรงเรียน น่ากังวลมาก เพราะอาจปลูกฝังพฤติกรรมผิดๆ ให้กับเด็กโดยไม่รู้ตัว เราทุกคนต้องตระหนักว่าตอนนี้บุหรี่ไฟฟ้ามีอยู่จริงในสังคมไทย แม้ว่าเรามีหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าให้หมดไปจากสังคมไทยไม่ได้ ดังนั้น เมื่อกฏหมายแบนบุหรี่ไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการเข้ามาบุกตลาดของสินค้านี้ เราก็ต้องหาวิธีควบคุมที่เหมาะสมผ่านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปิดช่องว่างที่เกิดขึ้นนี้ เพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค ปกป้องเด็กและเยาวชนไทยให้ได้มากที่สุด และเป็นการตัดช่องทางการทุจริตคอรัปชั่น เช่นเดียวกับที่เรามีกฎหมายควบคุมการสูบบุหรี่ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีไม่สามารถซื้อบุหรี่ได้”

“หน้าที่ของคณะกรรมาธิการฯ คือศึกษากฎหมายและหามาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยในปัจจุบัน เพราะเรายอมรับความจริงว่าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาบุกไทยแล้ว โดยที่ประเทศชาติไม่ได้อะไรเลย มีแต่เสียกับเสีย หากเราช้ากว่านี้ผลเสียย่อมมากขึ้น และผลเสียที่เกิดกับเด็กและเยาวชนเป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ กมธ. ได้สรุป 3 แนวทางควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร และน่าจะได้รับการพิจารณาเร็วๆ นี้ ได้แก่ 1) คงมาตรการแบนบุหรี่ไฟฟ้าในทุกประเภทและสนับสนุนให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดขึ้น 2) ทำให้ผลิตภัณฑ์ Heated Tobacco Products หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน ถูกกฎหมาย แต่ยังคงแบนบุหรี่ไฟฟ้าประเภทไอระเหย (Vaping) ที่ได้รับความนิยมในหมู่เยาวชน และ 3) ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าทุกประเภทเข้ามาถูกควบคุมโดยกฎหมาย และมีการควบคุมอย่างเคร่งครัด โดยอาจจะห้ามแต่งสีหรือกลิ่นที่อาจจูงใจเยาวชน โดยความเห็นของ กมธ.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการควบคุมให้ถูกกฎหมายเพื่อบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเข้มข้นเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน”

นายโอภาสยังกล่าวชื่นชมและขอบคุณกรมศุลกากรที่เข้มงวดปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกลักลอบเข้ามาในไทย โดยเพียง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – มกราคม 2568) ศุลกากรมียอดจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า /บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าสูงถึง 234 คดี มูลค่า 28.95 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก เทียบกับผลการจับกุมของปีงบประมาณ 2567 ทั้งปี จะพบว่าจับกุมได้ 393 คดี มูลค่า 145.63 ล้านบาท ขอป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกๆท่านที่เกี่ยวข้องขอให้ทำงานให้เต็มที่อย่างตรงไปตรงมาไม่เกรงกลัวผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังการนำเข้าสินค้าผิดกฏกมาย

ช่วงท้าย นายโอภาสย้ำว่า “ในรายงาน กมธ. ได้เสนอทางเลือก 3 แนวทาง เพื่อเสนอต่อสภาและให้คณะรัฐมนตรีรับไปพิจารณาต่อไป หน้าที่ของ กมธ. คือศึกษาปัญหาให้ครบทุกมิติและทำงานตามกลไกของระบอบประชาธิปไตยที่มีตัวแทนจากทุกฝ่ายทั้งนักการเมือง ข้าราชการ และภาคประชาชนเข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อศึกษาประเด็นปัญหาอย่างรอบด้านโดยไม่มีใครสามารถแทรกแซงหรือกดดันการทำงานของ กมธ. ได้ แม้คณะกรรมาธิการแต่ละท่านจะมีจุดยืนที่ต่างกัน แต่ทุกท่านมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการปกป้องเด็กและเยาวชนไทยให้ห่างไกลจากบุหรี่ไฟฟ้า”


กำลังโหลดความคิดเห็น