xs
xsm
sm
md
lg

"พัชรี" เข้าพบที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ หารือแบ่งโควต้านมโรงเรียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อวันที่ 6 ก.พ. นางพัชรี วัฒนวิชัยกุล ตัวแทนกลุ่มโรงผลิตนมโรงเรียนภาคเอกชน พร้อมผู้ประกอบการกว่า 20 คน เข้าพบนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหารือเรื่องหลักเกณฑ์การแบ่งโควต้านมโรงเรียน

นางพัชรี กล่าวว่า หลักเกณฑ์ที่ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งขึ้นในปี 2567 มีความไม่เป็นธรรม เนื่องจากกระทรวงเกษตรฯให้สหกรณ์ได้สิทธินมโรงเรียน 50% และภาคเอกชนได้ 50%  ซึ่งหลักเกณฑ์นี้ออกโดยคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน โดยมีนายประยูร  อินสกุล  ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน และมีการแต่งตั้งอนุกรรมการหลักเกณฑ์นมโรงเรียน  ซึ่งสหกรณ์บางแห่งไม่สามารถรับโควต้าได้ทั้งหมดเนื่องจากในพื้นที่มีปริมาณน้ำนมดิบน้อยกว่าโควต้าที่ได้รับ  จึงมีการจัดให้สหกรณ์จากเขตอื่นขึ้นมารับสิทธิในพื้นที่ภาคอีสาน  เช่น  สหกรณ์ฯหนองโพ , สหกรณ์ฯกำแพงแสน , สหกรณ์ฯพัทลุง , สหกรณ์ฯอ่าวน้อยประจวบคีรีขันธุ์ และสหกรณ์ฯชะอำห้วยทราย  

ซึ่งตามหลักเกณฑ์เดิมโรงงานในเขตพื้นที่ 2 และ 3 ที่อยู่ภาคอีสาน  ก็ได้รับการจัดสรรสิทธิจำหน่ายตรงตามเขตพื้นที่อยู่แล้ว  เหตุการณ์นี้ทำให้สหกรณ์บางแห่ง  เมื่อได้รับสิทธิแล้วไม่สามารถผลิตนมเองตามที่ได้รับจัดสรรสิทธิ์ได้ เช่น สหกรณ์ฯไทยมิลค์  และสหกรณ์ฯมวกเหล็ก ได้นำสิทธิที่ได้รับจัดสรรแล้วไปสละสิทธิให้บริษัทเอกชนบางแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ แบบเฉพาะเจาะจง  ซึ่งหลักเกณฑ์เดิมจะต้องสละสิทธิลงส่วนกลางเพื่อให้คณะกรรมการเขตนั้น  จัดสรรให้หลายโรงงานเพื่อความเป็นธรรม  

"โดยหลักเกณฑ์ที่ออกมาให้ อ.ส.ค. ที่เป็นภาครัฐมาจัดสรรสิทธิร่วมอยู่กับเอกชน คือต้องการสกัดให้เอกชนได้โควต้ารับจัดสรรสิทธินมโรงเรียนน้อย เพื่อให้สหกรณ์ได้โควต้ามากกว่าจำนวนจริง ซึ่งหลักเกณฑ์  ประจำปี 2567- 2568  นั้น ไม่คุ้มครองให้กับโรงงานเล็กจนทำให้ไม่สามารถประกอบธุรกิจอยู่ได้  และให้เอานมที่ออกจากโรงงานเล็กไปเพิ่มยอดให้สหกรณ์" ตัวแทนกลุ่มโรงผลิตนมโรงเรียนภาคเอกชน กล่าว

นางพัชรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนและตัวแทนจึงขอให้คณะกรรมการ ปปช.ตรวจสอบประธาน คือนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกรรมการอีกหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย 1.อธิบดีกรมปศุสัตว์ 2.ผู้แทนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  กรมส่งเสริมสหกรณ์ 3.สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 4.สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 5.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 6.ผู้ทรงคุณวุฒิ




















กำลังโหลดความคิดเห็น