ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ ได้เวลา “ทักษิณ” ล้วงลูก! บอร์ดรัฐวิสาหกิจ-องค์กรรัฐระส่ำ “บิ๊กปั๊ด” โผล่หน้าเป็นขาประจำจันทร์ส่องหล้า ได้รางวัลจ่อนั่งประธานบอร์ดบางจาก?
ว่ากันว่า ตอนนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงในบอร์ดรัฐวิสาหกิจและองค์กรรัฐที่สำคัญๆ หลายแห่ง
เล่นเอาบอร์ดทั้งหลายระส่ำระสาย กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะข่าว “รื้อ-ถอน-ปลด” ตัวเองลอยมาเข้าหูหลอกหลอนทุกวี่วัน
ขณะเดียวกัน สายข่าวรายงานมาว่า ที่บ้าน “จันทร์ส่องหล้า”เกิดฝุ่นตลบคละคลุ้งหนักกว่าฝุ่น PM2.5 ด้วยมีคนมากหน้าหลายตาวิ่งเข้าหา “ทักษิณ ชินวัตร”
คนเหล่านี้ มีทั้งรู้จัก และเคยรับใช้ทักษิณมาก่อน ต่างรู้ “นิสัยถาวร” ที่แก้ไม่หายของพ่อนายกฯดีว่า เป็นคนประเภท “หลงอำนาจ” ชอบให้คนอวยยศ และสรรเสริญเยินยอ ตัวเองจะรู้สึกถึง “เพาเวอร์พูล” การมีอำนาจเบ็ดเสร็จ สามารถควบคุมได้ทุกอย่าง
หลังจากเหาะเหินเดินอากาศลงมาจาก “ชั้น14” พ้นคุกมาได้ ก็หวนคืนสู่การเมืองมาระยะหนึ่ง ได้ยืดเส้นยืดสายไปลงพื้นที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงให้พรรคเพื่อไทย เช็กเรตติ้ง ประกาศศักดาคุยโม้โอ้อวดสรรพคุณ “ทักษิณคิด รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ทำ” เป็น “ตัวพ่อ” ที่แท้ทรูของอำนาจรัฐออกสื่อ
บัดนาว “ทักษิณคิด” สะระตะแล้วว่าถึงเวลาลงรายละเอียด ตรวจแถวเช็กขุมกำลังในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ และ องค์กรรัฐ ที่ใครๆ ก็รู้ว่า เป้าหมายการ "วางคน" ในหน่วยงานสำคัญๆ นั้นเพื่อ "วางงาน" ไปด้วย หรือ พูดง่ายๆ ภาษาชาวบ้าน ช่วยกันทำมาหากิน นั่นไซร้
ทีนี้จะมีใครบ้างที่เข้าตาทักษิณ ก็ต้องบอกว่า “โทนี่” ไม่คิดอะไรมาก ใครพินอบพิเทา ใครเชลียร์เก่ง หรือใครที่โผล่มาให้เห็นหน้าถี่ๆ ก็มีสิทธิ์คั่วตำแหน่งสำคัญเป็นรางวัล
เรื่องคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่ กับองค์กรนั้นๆ เป็นเรื่องรอง ทักษิณยึดเอาว่า “สั่งได้” คือเงื่อนไขหลัก และทำให้รู้โดยทั่วกันว่านี่ "คนของข้า"
ข่าวว่า คนที่วิ่งเข้าวิ่งออกบ้านจันทร์ส่องหล้าถี่ๆ เสนอหน้าไปให้ทักษิณเห็นหน้าบ่อย หนึ่งนั้นไม่ใช่ใครอื่น เป็น “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร.
ระหว่าง “ทักษิณ” กับ “พล.ต.อ.สุวัฒน์” ก่อนหน้านี้จะอุปถัมภ์ค้ำจุนกันอย่างไร ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ แต่เมื่อปัจจุบันไหนๆ “บิ๊กปั๊ด” มาเป็นขาประจำบ้านจันทร์ส่องหล้า ทักษิณ ก็ตบรางวัลให้ด้วยตำแหน่งประธานบอร์ด
แว่วว่า เมื่อ “ทักษิณ” ไฟเขียว “พล.ต.อ.สุวัฒน์” กลายเป็นหล่อเลือกได้ขึ้นมาพลัน อยู่ระหว่างจะเอา “บางจาก” หรือ อื่นๆ ที่อยากได้ ก็ขอให้บอกมา
ขณะเดียวกัน ประธานบอร์ดการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย หรือ ทอท. ที่ว่างลง หลังการลาออกจากตำแหน่งของ “พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ” แว่วว่า ทักษิณ สั่งการให้เด็กในคาถา “บิ๊ก อ.” คนในกระทรวงคมนาคม แต่งตัวรอขึ้นแทน
“บิ๊กอ.” คนนี้ก็ไม่ต่างกับ “บิ๊กปั๊ด” ขยันวิ่งเข้าหาทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เช้าถึงเย็นถึง บางวันก็เพิ่มรอบค่ำ เพราะรู้ๆ กันว่า ทอท.นั่น ทักษิณหมายมั่นปั้นมือกับ “โปรเจกต์ยักษ์” เหมือนที่เคยทำมาแล้วกับสนามบินสุวรรณภูมิ
ทีนี่มาถึงคำถามว่า แล้วท่านประธานบอร์ด และคณะทั้งหลายที่ยังอยู่ในตำแหน่งองค์กรของรัฐ รัฐวิสาหกิจจะทำอย่างไร?
ต้องบอกว่า รีบเช็กตัวเองได้เลยว่า เคยเข้าบ้าน “จันทร์ส่องหล้า” หรือยัง เคยเข้าหา “ทักษิณ” หรือไม่
ใครยังไม่เคยให้ “ทักษิณ” เห็นหน้า หรือไม่พร้อมทำตามสั่ง ก็พึงรู้ตัวไว้ว่า... คุณจะไม่ได้ไปต่ออย่างแน่นอน
ทางเลือกมีให้เลือกอยู่สองสถาน คือ จะยินยอมลาออกเองโดยที่ “ไม่มีงาน” หรือจะอยู่ให้ “ถูกบีบ” แถมพ่วงด้วยงานหรือ คดี
จะเลือกทางไหน? บอร์ดทั้งหลายย่อมต้องมีคำตอบให้ตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกเอาที่สบายใจแบบไหน
แน่นอนว่า ส่วนของทักษิณ “โนสน โนแคร์” อยู่แล้ว เพราะตอนนี้ มีอำนาจ ใช้อำนาจ และกำลังบ้าอำนาจ!!
++ “โกงลำไย” ตามหลอน!! ว่าที่นายกอบจ.ลำพูน พรรคส้ม
“เฮง” วีระเดช ภู่พิสิฐ หนึ่งเดียวของ พรรคประชาชน ว่าที่นายก อบจ.ลำพูน ที่ฝ่าด่านหิน อย่าง “อนุสรณ์ วงศ์วรรณ” อดีตนายกอบจ. คนของพรรคเพื่อไทย ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ลงทุนลงแรงไปช่วยหาเสียง ขายฝันว่าจะทำ ลำพูนให้เป็นเมืองพี่ เมืองน้อง กับเชียงใหม่ ยังพ่ายแพ้
พลิกปูมประวัติ “วีระเดช” เป็นลูกชายของ “โกเก๊า” ประเสริฐ ภู่พิสิฐ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน และ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดลำพูน อีกทั้งเป็นญาติกับ “ชัยณรงค์ ภู่พิสิฐ” อดีต รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน และ อดีตผู้สมัคร สส.ลำพูน พรรคไทยสร้างไทย
เรียนจบระดับมัธยมฯ จากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย และ ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เชียงใหม่ จบมาก็ประกอบอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ก่อนมายึดอาชีพการเมืองตามรอยพ่อ โดยหันหน้าเข้าหาพรรคส้ม เมื่อ ปี 2561 พร้อมกับ “เต๋อ” วิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก ซึ่งปัจจุบันเป็น สส.ลำพูน เขต 1
เรียกได้ว่า “วีระเดช” ไม่ใช่เด็กหนุ่มโนเนม ที่มากับ “กระแสส้ม” ของคนรุ่นใหม่ แต่เป็นลูกชายของ “บ้านใหญ่” เมืองลำพูน คนหนึ่ง ที่มีการวางเครือข่าย เตรียมพร้อมล่วงหน้าสำหรับการเลือกตั้ง มาไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี
ดังนั้น 109,372 คะแนน ที่ได้มา จึงมาจากทั้งคนรุ่นใหม่ และรุ่นพ่อ พูดง่ายๆว่า งานนี้ต้องใช้ทั้ง กระแส และกระสุน !!
สำหรับ “โกเก๊า” ประเสริฐ ภู่พิสิฐ ผู้เป็นพ่อนั้น เมื่อเสิร์ชเข้าไปดูประวัติ และผลงาน ว่าเคยทำอะไรให้ชาวลำพูนบ้าง ในฐานะที่เป็น อดีตนายก อบจ. ที่มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองใหญ่ของลำพูน ในยุคนั้น กลับเจอเรื่อง “โกงลำไย”
ตามข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.58 “โกเก๊า” ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ตามหมายจับของศาลจังหวัดลำพูน ในฐานความผิดรวม 8 ข้อหา ที่เกี่ยวกับการฉ้อโกง ปลอมแปลงเอกสาร เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดย “พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ในยุคนั้น ตั้งโต๊ะจัดแถลงข่าวด้วยตัวเอง เพราะเป็นคดีใหญ่
คดีโครงการลำไยอบแห้งใน จ.ลำพูน เกิดขึ้นเมื่อปี 2547 ในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร มีผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมส่งฟ้องศาลไปแล้ว 44 คน ทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ และพ่อค้ารับซื้อ มีมูลค่าความเสียหาย195 ล้านบาท โดยมี “โกเก๊า” นายกอบจ.ลำพูน ในขณะนั้น เป็นหัวหน้ากลุ่ม พร้อมกับสมาชิก อบจ.ลำพูน และผู้ประกอบการหน่วยรับซื้อลำไย ในเครือข่ายเป็นผู้ร่วมขบวนการ จนเป็นข่าวครึกโครม
โครงการรับซื้อลำไย เพื่อแก้ปัญหาลำไยล้นตลาด ยุค “รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร” จนสร้างความเสียหายไปประมาณ 5,000 ล้านบาท มีลักษณะะเหมือนกับ โครงการรับจำนำข้าวในยุค “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ทุกอย่าง มีการให้เกษตรกรมาลงทะเบียน เหมือนกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว มีการเอาเงินงบประมาณมารับซื้อลำไยในราคาประกัน กิโลกรัมละ 5-15 บาท มีเจ้าหน้าที่อ.ต.ก.มาเป็นเจ้าภาพ และมีเอกชนมารับช่วง
มีการระบายลำไยออกไปบางส่วน มีการนำเกษตรกรมีตัวตนบ้าง ไม่มีตัวตนบ้าง มาใช้ชื่อนำลำไยมาขาย และมีโกดังเก็บ ที่เรียกว่า "สต๊อกลม" มีการนำลำไยเกรดเอ ไปขาย แต่แทงบัญชีเป็น เกรดบี เพื่อกินส่วนต่าง สุดท้ายลำไยอบแห้งที่เหลือเน่าเสียคาโกดัง ต้องเสียเงินจ้างคนมาเอาไปทำปุ๋ยอีก
ไม่ว่าถึงที่สุดแล้ว ผลทางคดีของ “โกเก๊า” จะเป็นอย่างไร แต่เมื่อใดที่ “เฮง” วีระเดช ขึ้นเป็น นายกอบจ.ลำพูน เรื่อง “โกงลำไย” ก็จะยังคงตามมาหลอน