เมืองไทย 360 องศา
จะเรียกว่าเดินหน้ากันเต็มสูบแล้วก็ว่าได้ สำหรับ โปรเจกต์เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่สอดไส้ “กาสิโน” อยู่ข้างใน หลังจากที่ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา นายปกรณ์ นิลประพันธ์ ย้ำว่า จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ….. หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ให้แล้วเสร็จภายใน 50 วัน และที่ต้องจับตากันก็คือกรรมการที่ร่วมอยู่ในคณะดังกล่าว มีมือกฎหมายระดับชั้น “อ๋อง” อย่าง นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จนถูกมองว่า จะมีการออกแบบ เป็นแบบไหนกันแน่ แต่ด้วยชื่อชั้นคำว่า “เนติบริกร” ย่อมรับประกันอยู่แล้ว
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงความคืบหน้าว่า การหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะพิเศษในตอนนี้เรียกประชุม 3-4 ครั้งแล้ว ส่วนใหญ่เรียกกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือแล้ว
ส่วนกรณีที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช. คลัง ระบุว่า กฎหมายจะไม่มีการตราเรื่องสัดส่วนกาสิโน 10% ลงไปในนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงขนาดนั้น
ขณะเดียวกัน ยังมีการแก้ พ.ร.บ. การท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่เปิดช่องให้เอกชนสามารถเข้ามาร่วมทุน ด้วยการจัดตั้งบริษัทลูก ให้ร่วมลงทุนกับบริษัทมหาชน และบริษัทต่างชาติได้ ซึ่งจะขยายขอบเขตให้เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากวัตถุประสงค์เดิมตามผังเมือง คือ การขนส่งโลจิสติกส์
ทำให้มีรายงานว่า มีบริษัทของนายทุนพรรคร่วมรัฐบาล ตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อจะรับบริหารจากการท่าเรือฯกรุงเทพ หรือ “ท่าเรือคลองเตย” เนื่องจากมูลค่าที่ดินท่าเรือคลองเตย จำนวน 2,000 ไร่ โดยแบ่งอยู่ในเขตศุลกากร 1,000 ไร่ ที่จะใช้ทำอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่ามากถึง 4 แสนล้านบาท เทียบไม่ได้กับค่าออกใบอนุญาตที่มีมูลค่าเพียง 5 พันล้านบาท
ก่อนหน้านี้ ทั้ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เคยออกมาระบุหลายครั้งแล้วว่า พื้นที่ท่าเรือคลองเตย จะเป็นหนึ่งสำหรับโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ความหมายก็คือ จะมี “บ่อนการพนัน” รวมอยู่ในนั้นด้วย เนื่องจากรับรู้กันดีอยู่แล้วว่านั่นคือ “ทำเลทอง” ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังมีการสร้างทางด่วนเชื่อมต่อพื้นที่เอาไว้ล่วงหน้าอีกด้วย
จะเห็นว่าได้ทุกอย่างเกี่ยวกับโครงการ “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” กำลังเดินหน้าอย่างเต็มตัว การยกร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่จะออกมารองรับก็กำลังเดินหน้าอย่างเร่งรีบ มีกำหนดให้ทันเข้าสภาภายในสมัยประชุมนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินเมษายนนี้ ก่อนที่จะปิดสมัยประชุม
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวอย่างเอาการเอางานของ นายทักษิณ ชินวัตร ฉายา “พ่อเลี้ยง” หรือ “พ่อนายกฯ” เตรียมออกเดินสายไปต่างประเทศ เริ่มต้นที่ประเทศมาเลเซีย ที่เวลานี้อ้างอิงตำแหน่ง “ที่ปรึกษาประธานอาเซียน” ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 31 มกราคม ได้ขออนุญาตศาลอาญา เพื่อเดินทางไปต่างประเทศ และได้รับการอนุญาต โดยทำสัญญาประกันเอาไว้ที่ 5 ล้านบาท
ภายหลังศาลไต่สวน นายทักษิณ กรณีที่ยื่นคำร้องขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยนายทักษิณ ได้เดินทางมาไต่สวนการยื่นคำร้องด้วยตัวเอง ที่ศาลอาญา ซึ่งการยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักรครั้งนี้ เขาให้เหตุผลว่า ต้องการขออนุญาตเดินทางไปประชุมที่มาเลเซีย
ต่อมาเวลา 14.50 น. ศาลอาญามีคำสั่งพิเคราะห์ข้อเท็จจริงในทางไต่สวนแล้ว จำเลยอ้างตนเองเป็นพยาน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาเบิกความสนับสนุนพร้อมพยานเอกสารยืนยัน ให้เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ในระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ. 2568 เห็นว่า ช่วงเวลาที่จำเลยขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ไม่กระทบต่อวันนัดพิจารณาคดี เหตุผลและความจำเป็นที่จำเลยอ้าง เป็นประโยชน์ต่อประเทศและเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐ กรณีมีเหตุสมควร จึงอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ตามที่ขอ โดยวางหลักประกัน ตามที่เสนอ และให้มารายงานตัวภายใน 3 วัน นับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ โดยรายงานว่า นายทักษิณ ได้วางหลักประกันจำนวน 5 ล้านบาท
จากนั้น นายทักษิณ ชินวัตร กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มเเย้ม ว่า ไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยว และเมื่อถามว่า เดินทางไปพบใครและใครเป็นคนเชิญ นายทักษิณ หันมาตอบสั้น ๆ เพียงแค่ว่า รู้ ๆ กันอยู่ ก่อนขึ้นรถเดินทางออกจากศาล
มีรายงานว่า สำหรับคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามมาตรา 112 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยต่อศาลอาญาในคดีหมายเลขดำ อ1860/2567นั้น ศาลอาญาได้นัดสืบพยานโจทก์นัดแรก วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เวลา 09.00 น.
สำหรับโครงการ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่สอดใส้ “กาสิโน” อยู่ข้างใน ได้รับการผลักดันจาก นายทักษิณ ชินวัตร อย่างเต็มกำลัง ด้วยข้ออ้างในเรื่องการลงทุน ดึงดูดนักท่องเที่ยว ทำให้เกิดการจ้างงาน และทำให้เศรษฐกิจเติบโต อีกทั้งยังสนับสนุน “พนันออนไลน์” ให้ถูกกฎหมาย เรียกว่า นำธุรกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน เพื่อหารายได้เข้ารัฐ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของสังคมจำนวนมาก เนื่องจากได้ไม่คุ้มเสีย เพราะรับรู้ว่า เป้าหมายสำคัญของโครงการนี้อยู่ที่ “กาสิโน” ที่เอื้อต่อกลุ่มธุรกิจบางกลุ่มเท่านั้น อีกทั้งยังมีความเสี่ยงเปิดทางให้ “กลุ่มทุนสีเทา” การฟอกเงินสารพัด
ประกอบกับยังมีนโยบายให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี โดยอ้างว่าเพื่อกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทุกอย่างล้วนมีเงื่อนงำ ไม่น่าไว้วางใจ
เช่นเดียวกับการเดินทางไปต่างประเทศของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่จะมีขึ้นในต้นเดือนกุมภาพันธ์ ล่าสุดไปปรากฏตัวที่มาเลเซีย ล้วนทำให้เกิดความน่าสงสัยกันว่า เขามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไรกันแน่ ที่บอกว่าไปร่วมประชุมนั้น ประชุมเรื่องอะไร ไปในฐานะอะไร ที่ปรึกษาประธานอาเซียนหรือ หรือว่า มีวาระแอบแฝง เจรจากล่อมนักลงทุนโครงการ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่กำลังถูกจับตาว่า สอดใส้ “กาสิโน” หรือเปล่า !!