xs
xsm
sm
md
lg

'มาริษ' เยี่ยมแรงงานไทยในฟาร์มเกษตรอิสราเอล ยกย่องเป็นเกษรกรที่มีคุณค่า แนะดูแลกันและกัน อย่าประมาทแม้สถานการณ์คลี่คลาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



'มาริษ' เยี่ยมแรงงานไทยในนิคมเกษตรกรรม กรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล ยกย่องเป็นเกษตรกรที่มีคุณค่า ขอให้ดูแลกันและกันเหมือนคนในครอบครัว อย่าประมาทแม้สถานการณ์จะคลี่คลายแล้ว ให้ฟังคำเตือนของสถานทูต และซ้อมเข้าหลุมหลบภัยอยู่เสมอ

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ และ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเอกอัครราชทูต พรรณนภา จันทรารมย์ ได้เดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยที่นิคมเกษตรกรรม Moshav Bnei Atarot ในกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ได้เดินทางมาที่อิสราเอล เพื่อมาเยี่ยมตัวประกันคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวมาแล้ว ซึ่งทุกกคนคงจะได้รับทราบข่าวดีนี้แล้วว่าเพื่อนของเราปลอดภัยแล้ว จึงอยากมาเยี่ยมแรงงานไทย ที่ตนขอเรียกว่า เกษตรกร เพราะพวกคุณทำงานที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีคุณค่ากับประเทศของเรา และประเทศอิสราเอง ก็ชื่นชมการทำงานของคนไทย จึงอยากมาสอบถามและรับฟังความเป็นอยู่ของเกษตรกรทุกคน แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงมีการหยุดยิง แต่ขออย่าประมาท ขอให้ดูแลกัน สามัคคีกัน

"อย่าประมาท ดูแลกันและกัน ต้องช่วยกันเพราะครอบครัวมาไม่ได้ และอยากให้เชื่อฟังสถานทูต เวลาเตือนอะไร แม้สถานการณ์จะคลี่คลายอยู่ในช่วงการหยุดยิงเป็นสัญญานที่ดีในทางปฏิบัติอย่าประมาท ความสำคัญของครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อครอบครัวมาไม่ได้อยู่ด้วย อยากเห็นเพื่อนดูแลกันและกัน ความสามัคคี เป็นสิ่งสำคัญ คนไทยรักกัน มีความสุขดูแลกัน"


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เล่าถึงตัวประกันทั้ง 5 คน ก็ได้ช่วยกันดูแล เพราะมี 3 คนถูกจับไปอยู่ด้วยกัน อีกสองคนอยู่ด้วยกันจึงมีเพื่อน บางคนไม่ได้เจอครอบครัวในรอบ 7 ปี ก็อยากให้พวกเขาได้เจอครอบครัวโดยเร็ว

"สำหรับผมเชื่อว่าครอบครัวเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดของแต่ละคน จึงอยากให้ทุกคนเชื่อฟังคำเตือน อยากให้ทุกคนซ้อมเข้าหลุมหลบภัยอยู่เสมอ อย่าประมาทครับ"


นามาริษ ยังได้คุยกับเจ้าของฟาร์มเกษตร ซึ่งเป็นนายจ้าง เล่าให้ฟังว่า เกษตรกรไทยที่ทำงานที่นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเขา ได้ใช้ความเป็นมืออาชีพได้ใช้ความสามารถทางการเกษตรมาทำงานที่นี่ นายจ้างจึงขอขอบคุณรัฐบาลไทย ไปถึงนายกรัฐมนตรี สิ่งที่รัฐบาลสนับสนุนเกษตรกร ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน

"เกษตรกรที่มาได้รับรายได้ที่ดีในขณะเดียวกัน อิสราเอลได้ผลผลิตที่มั่นคง เติบโตทางการเกษตรด้วยกัน ทางนายจ้างก็อยากให้ความร่วมมือการเกษตรไทยอิสราเอลก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ไทยเราพร้อมช่วยเหลือในเรื่องเกษตรกรเราเป็นประเทศมีความสามารถด้านเกษตรกรรม สิ่งที่เขาใช้เทคโนโลยีความรู้ ให้นำเอาไปใช้ที่ไทยได้ เขายินดีสนับสนุน ให้เกษตรกรได้เป็นเกษตรกรทียั่งยืน" นายมาริษ กล่าวย้ำ


สำหรับแรงงานไทยในอิสราเอล ได้กลับมาทำงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่า 38,000 คน จากเดิมมีประมาณเกือบ 30,000 คน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จึงยังเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อความไม่ประมาท

ขณะที่นายจ้างกล่าวกับนายมาริษด้วยว่า ขอบคุณรัฐบาลไทย ที่สนับสนุนแรงงานมาไทยมาทำงานที่อิสราเอล จึงอยากตอบแทนประเทศไทยที่ใช้ความรู้ความสามารถของเขาในการร่วมพัฒนาการเกษตรของไทยด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น