เมืองไทย 360 องศา
ระยะหลัง นายทักษิณ ชินวัตร ที่แสดงบทบาทเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลลูกสาวของตัวเอง ประกาศอย่างมั่นใจหลายเวทีหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหลายจังหวัดว่า การเลือกตั้งใหญ่ หรือเลือกตั้ง สส.คราวหน้า พรรคเพื่อไทยจะกวาดที่นั่งไม่ต่ำ กว่า 200 ที่นั่ง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว หรือให้น้อยพรรค ด้วยเหตุผลที่อ้างว่าเพื่อลดปัญหาการทำงาน
ขณะเดียวกัน เขายังอ้างว่า ต้องการเชื่อมโยงการเลือกตั้งท้องถิ่น อย่างองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กับการเมืองระดับชาติเพื่อให้สามารถทำงานประสานกัน โดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณที่เชื่อมโยงถึงกัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นความสำคัญนี้มาก่อน
นายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ.ลำ พูน พรรคเพื่อไทย ว่า วันนี้เห็นลำพูนเจริญขึ้นกว่าแต่ก่อน ดูแล้วมีคนอยู่สองกลุ่มคือกลุ่มค้าขายกับกลุ่มเกษตรกรรม แม่บ้าน แต่เราจะต้องทำให้ลำพูนเป็นเมืองแฝดกับเชียงใหม่ เพราะหากลำพูนกับเชียงใหม่ สามารถประชาสัมพันธ์ร่วมกันในเรื่องของวัฒนธรรมด้วยกันได้นั้น ก็จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
เขากล่าวว่า ตอนนี้ปัญหาคือบ้านเราไม่ค่อยมีเงินใช้แต่ปีนี้รัฐบาลจะสร้างโอกาสหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนให้มีรายได้ที่ดีขึ้น และปรับโครงสร้างหนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะให้หนี้สินเบาบางลง ปีหน้าจะปลดหนี้ได้แล้วปีต่อไปคนก็จะมีเงินใช้ยังจำทางเลียบรถไฟลำ พูน-เชียงใหม่ ได้หรือไม่สมัยที่เป็นนายกฯ ได้สั่งให้ทำ ฝั่งหนึ่ง แต่ตอนนี้อีกฝั่งยังไม่เสร็จก็คิดว่าต้องทำต่อเพื่อจะสามารถแก้ปัญหาการจราจรเชื่อมเชียงใหม่ ลำพูน ให้ได้ดีขึ้น และคิดว่าจะทำอย่างไรให้เชียงใหม่กับลำ พูน เชื่อมเป็นเมืองแฝดกันให้ได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคมนาคม การจัดสรรงบประมาณ หรือแม้กระทั่งการสร้างแหล่งเที่ยวทางวัฒนธรรมร่วมกัน
นายทักษิณ กล่าวว่า การบริหารประเทศมีความจำ เป็นที่จะต้องให้รัฐบาลกลางได้เชื่อมกับท้องถิ่นให้ได้ไม่เช่นนั้นงบประมาณจะลงไม่ถึงประชาชนฉะนั้น วันนี้ที่ออกมาเดินสายเพื่อจัดส่งเสริมการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทาง อบจ. แม้บางคนบอกว่ามือไม้ไม่เกี่ยว ไม่ได้แต่มือไม้ตรงนี้จะทำให้ประชาชนใช้งานรัฐบาลได้เต็มที่ เมื่อมาที่นี่ก็อยากขอให้นายอนุสรณ์เป็นนายกอบจ.ลำพูน อีกครั้ง เพื่อจะได้ช่วยกันทำงานเพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ
“เมื่อสักครู่ไปไหว้พระธาตุหริภุญชัยก็บอกว่าผมจากไป 17 ปีอย่าพึ่งรีบเอาผมไปนะ ผมอยากรับใช้พี่น้องประชาชนเพื่อชดใช้เวลาที่หายไป พี่น้องอยากใช้ผมหรือไม่ ถ้าอยากใช้ต้องขอมือไม้ให้ผม ขอ อบจ.และ สจ.ให้ผมด้วย จะได้ช่วยสะท้อนปัญหาให้กันได้ทำ ให้พี่น้องประชาชนมีความสุข และมีโอกาสที่รัฐบาลส่วนกลางส่งมาผ่านนายก อบจ. ขอให้เอาพรรคเดียวกันจะได้ใช้งานได้เต็มที่” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวเรียกร้องว่า เลือกตั้งครั้งหน้าก็ขอให้เลือก พท.ให้หมด เพราะคราวที่แล้ว ได้น้อยไปหน่อย มีพรรคร่วมรัฐบาลเยอะ ทำงานได้แต่ช้า คราวหน้าให้มีพรรคร่วมน้อยๆ เอาเพื่อไทยเยอะๆ รับรองว่าทำงานแล้วจะรวย เหมือนสมัยพรรคไทยรักไทย มันใหญ่ ทำงานได้เร็ว เพราะรัฐมนตรีอยู่ด้วยกัน อยู่สังกัดเดียวกันหมด ไม่มีเลศนัยเล่ห์เหลี่ยม
“มั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะกลับมาที่หนึ่งให้ได้และได้ให้ถึง 200 กว่าให้เลือก อบจ. ไว้ทำ งานร่วมกันสองปีแล้วอีกสองปีเลือกตั้งใหญ่ เราจะแก้ปัญหาประชาชนได้หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด เรื่องเลียบทางรถไฟ และรัฐบาลจะพยายามเพิ่มรายได้ให้ประชาชนลดค่าใช้จ่าย ลดค่าน้ำมัน ลดค่าไฟฟ้า ทุกอย่างจะถูกปรับปรุงอะไรที่เอาเปรียบพี่น้องประชาชน จะถูกแก้รวมถึงจะเปิดให้มีการค้าเสรีไม่ให้มีเสือนอนกิน ฉะนั้นจึงขอให้ช่วยกันเลือก นายกอบจ.และ สจ.ให้เป็นมือไม้ให้ผม” นายทักษิณ กล่าว
แน่นอนว่า เขาเน้นย้ำ เรื่องตัวเลข สส.คราวหน้าต้องได้ไม่ต่ำ กว่า 200 ที่นั่งซึ่งก็ต้องพิจารณากันทั้งสองด้าน ทางหนึ่งอาจมีความมั่นใจจากการลงพื้นที่หาเสียงให้กับผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีลักษณะคล้ายกับแบบจำลองการเลือกตั้ง สส. มีการเลือกตั้งทั้งจังหวัด เป็นอำ เภอ ดังนั้นหากสามารถกวาดได้มาทั้งหมด หรือเกินครึ่ง มันก็สามารถสะท้อนไปถึงการเลือกตั้งใหญ่ได้เลย
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง มันอาจเป็นตรงกันข้าม เขากำลังสร้าง “อุปทานหมู่” เพื่อโน้มน้าวให้คล้อยตามให้ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย ไปตามกระแสที่กำ ลังสร้างขึ้นมา เพราะต้องไม่ลืมว่าการลงพื้นที่ตระเวนหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตรเที่ยวนี้มาเป็นขบวนใหญ่ ไม่ต่างจากการหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ เรียกว่า “คนละชั้น”กับการเมืองระดับท้องถิ่น ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขา“ลงทุนทุ่มเต็มที่” อุปมาตัวเองไม่ต่างนายกรัฐมนตรีมีการให้สัญญา มอบนโยบายสำ คัญมากมาย เรียกว่า สั่งได้ทุกอย่าง ทำให้เกิดความรู้สึกว่า หากเลือกผู้สมัครของเขา ก็จะสามารถบันดาลให้ได้ตามใจนึกอะไรประมาณนั้น เพื่อเชื่อมโยงไปถึงการเลือกตั้ง สส.อีกด้วย เพื่อให้เป็นทีมเดียวกันจนเคลิ้มตาม
อย่างไรก็ดีในตอนนี้และต่อเนื่องไปถึงการเลือกตั้งใหญ่คราวหน้าคู่แข่งในสนามจะเปลี่ยนอย่างชัดเจนว่า ทั้งตัวเขา และพรรคเพื่อไทย จะต้องเจอคู่แข่งใหม่ นั่นคือ พรรคประชาชน แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ทั้งคู่จะไม่ใช่ศัตรูคู่แข่งกันจริงจัง เพียงแต่ว่าในทางการเมืองมันบังคับให้ต้องมาแข่งขันกัน
และการเลือกตั้งล่าสุด พรรคเพื่อไทย ก็พ่ายแพ้ให้กับพรรคประชาชน(ก้าวไกล) เป็นครั้งแรก และคราวนี้ก็เช่นเดียวกัน ในสนามท้องถิ่นอย่างองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หลายพื้นที่ยังมีคะแนนสูสีหรือชนะกันไม่ขาดนักยังเป็นคู่แข่งที่สำคัญ ทำให้มีการจับตามองในพื้นที่สำ คัญที่เป็นสัญลักษณ์เช่นในภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และอีกหลายพื้นที่ ที่นายทักษิณยกทีมใหญ่ไปช่วยหาเสียง เพราะขนาดนำทีมลงไปทุ่มเทกันเต็มที่แต่หากผลออกมาแบบแพ้หรือชนะไม่ขาด มันก็เสียหาย เพราะจะสะท้อนให้เห็นถึงความถดถอย บารมีไม่เหมือนเดิม
ดังนั้น หากให้สรุปนาทีนี้ ก็เหมือนกับว่า การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดคราวนี้จะเป็นเดิมพันสำคัญของนายทักษิณ ชินวัตร เพื่อหวังกลับมาแบบเบ็ดเสร็จอีกครั้ง สำหรับการเลือกตั้ง สส.คราวหน้า ด้วยการสร้างกระแส “แดงกินส้ม” ส่วนจะเป็นไปได้แค่ไหน อีกไม่กี่วันก็รู้ เพียงแต่ว่ามันคงไม่ง่าย เพราะทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป และหากผลออกมาไม่ตามเป้าเต็มร้อย ก็ถือว่าขาดทุน!!.