มหาดไทย เปิดรับฟังความเห็น 14 ข้อ แก้ไข พ.ร.บ.พนัน ฉบับปี 2478 พบแก้ไขครอบจักรวาล เน้นเพิ่มโทษ ทั้งการพนันทั่วไป และพนันออนไลน์ เผยมิติใหม่ เปิดฟังความเห็น “เจ้าของบ่อน” ที่จัดให้เล่นพนัน พ่วงประชาชนผู้เข้าเล่นการพนัน รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่กำกับกฎหมาย 7 หน่วยงาน พบรับฟังความเห็น จนท.กระทรวงเกษตรฯ รวมอยู่ด้วย ย้ำ ข้อสั่งการ “อนุทิน” เพิ่มโทษหนักผู้ลักลอบทำผิด สกัดวงจรมอมเมาเยาวชน
วันนี้ (30 ม.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยความคืบหน้าตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้มีข้อสั่งการให้กรมการปกครองยกร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478
ล่าสุด เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้เผยแพร่เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมแสดงความเห็นให้เป็นการแก้ไขกฎหมายรับฟังเสียงประชาชนรอบด้าน ตั้งแต่วันนี้ (30 ม.ค.) ถึงวันที่ 14 ก.พ. 68
พบว่า การเปิดรับมุ่งเน้นไปที่ผู้ได้รับผลกระทบ เช่น ผู้ประกอบการ ได้แก่ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการจัดให้มีการเล่นการพนัน/ประชาชนผู้เข้าเล่นการพนัน
รวมถึง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
เว็บไซต์กำหนดแบบสอบถามอาชีพ/สังกัด ของผู้ตอบคำถาม จากเจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดกรมการปกครอง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงวัฒนธรรม และเจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
ขณะที่คำถาม 14 ข้อ มุ่งเน้นไปที่เห็นด้วยหรือไม่ เช่น กับการกำหนดบทนิยามที่ว่า “การพนัน หมายความว่า การเล่นที่เป็นการเสี่ยงโชคโดยอาศัยผลหรือเหตุการณ์อย่างหนึ่ง อย่างใดที่ยังไม่แน่นอนเป็นข้อแพ้ชนะกันและมุ่งประสงค์เอาเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อย่างอื่นแก่กันและกันหรือแก่ผู้จัดให้มีการเล่นนั้น” (ร่างมาตรา 3)
เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดบทนิยามที่ว่า “การพนันออนไลน์ หมายความว่า การพนัน หรือการเล่นผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือผ่านการสื่อสารระยะไกลด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์” (ร่างมาตรา 3)
เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดสาระสำคัญที่ว่า “ห้ามมิให้อนุญาตจัดให้มี หรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันออนไลน์อันระบุไว้ในบัญชี ก. หรือบัญชี ข. หรือมาตรา 4 ทวิ เว้นแต่ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน” (ร่างมาตรา 4)
เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับอำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478
ที่ว่า “ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า มีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับการพนัน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดังต่อไปนี้
(1) เข้าไปในสถานประกอบการหรือสถานที่อื่นที่เกี่ยวกับการประกอบการของผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน หรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าวได้ตลอดเวลา ในการนี้ มีอำนาจสั่งให้บุคคลดังกล่าวหรือบุคคลที่อยู่ในสถานที่นั้นปฏิบัติเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ
(2) ยึดหรืออายัดเงินหรือทรัพย์สินที่ใช้พนัน บัญชี เอกสาร หลักฐาน ข้อมูล อุปกรณ์การเล่นหรือสิ่งของอื่นใดที่อาจใช้พิสูจน์ความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับการพนัน
(3) มีหนังสือเรียกผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน หรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว หรือบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดให้มีการเล่นการพนัน มาให้ถ้อยคำหรือแจ้งข้อเท็จจริงหรือทำคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือให้ส่งบัญชี เอกสาร หลักฐาน หรือสิ่งอื่นที่จำเป็นมาประกอบการพิจารณาได้
ทั้งนี้ ต้องให้เวลาแก่บุคคลดังกล่าวไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งนั้น” (ร่างมาตรา 5)
เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับกำหนดโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและพนันออนไลน์ หรือผู้ควบคุมระบบ และผู้เข้าเล่นการพนันและพนันออนไลน์ให้เหมาะสมแก่สภาพและความร้ายแรงแห่งความผิด
ที่ว่า “ของที่พบในวงพนัน หรือใช้ในการเล่นการพนัน หรืออาจเกี่ยวข้องกับการเล่นการพนันเป็นของที่พึงต้องริบตามพระราชบัญญัตินี้” (ร่างมาตรา 6)
เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับกำหนดโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและพนันออนไลน์ หรือผู้ควบคุมระบบ และผู้เข้าเล่นการพนันและพนันออนไลน์ให้เหมาะสมแก่สภาพและความร้ายแรงแห่งความผิด
ที่ว่า “ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ มีอำนาจยึดหรืออายัดสิ่งใดๆ อันจะพึงต้องริบหรือเป็นที่สงสัยว่าจะพึงต้องริบตามพระราชบัญญัตินี้ไว้ได้ /สิ่งที่อายัดไว้นั้น
หากตรวจสอบแล้วพบว่าสิ่งนั้นไม่เป็นของอันพึงต้องริบ ให้เพิกถอนการอายัดสิ่งนั้น แต่กรณีเป็นสิ่งอันพึงต้องริบ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ มีอำนาจยึดสิ่งนั้น /สิ่งที่ยึดไว้นั้น
ถ้าเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด และเจ้าของหรือผู้มีสิทธิไม่มายื่นคำร้องขอคืนภายในกำหนดหกสิบวันหรือถ้าเป็นสิ่งอื่นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ยึด ให้ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีเจ้าของ และให้ตกเป็นของแผ่นดิน” (ร่างมาตรา 7)
เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับกำหนดโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและพนันออนไลน์ หรือผู้ควบคุมระบบ และผู้เข้าเล่นการพนันและพนันออนไลน์ให้เหมาะสมแก่สภาพและความร้ายแรงแห่งความผิด
ที่ว่า “ในกรณีของที่ริบได้เนื่องจากการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้มิได้เป็นของผู้กระทำความผิด
ให้ศาลมีอำนาจสั่งริบได้ถ้าเจ้าของนั้นรู้หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีหรือจะมีการกระทำความผิด แต่มิได้กระทำการใดเพื่อมิให้เกิดการกระทำความผิดหรือแก้ไขมิให้การกระทำนั้นบรรลุผล หรือมิได้ระมัดระวังมิให้ของนั้นไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด” (ร่างมาตรา 8)
เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับกำหนดโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและพนันออนไลน์ หรือผู้ควบคุมระบบ และผู้เข้าเล่นการพนันและพนันออนไลน์ให้เหมาะสมแก่สภาพและความร้ายแรงแห่งความผิด
ที่ว่า “บรรดาของหรือสิ่งที่ยึดไว้ตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับการพนันต้องส่งมอบให้พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ของหรือสิ่งที่ยึดและตกเป็นของแผ่นดินหรือที่ศาลสั่งให้ริบตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับการพนัน ให้จำหน่ายตามระเบียบที่อธิบดีกรมการปกครองกำหนด” (ร่างมาตรา 9)
เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับกำหนดโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและพนันออนไลน์ หรือผู้ควบคุมระบบ และผู้เข้าเล่นการพนันและพนันออนไลน์ให้เหมาะสมแก่สภาพและความร้ายแรงแห่งความผิด
ที่ว่า “ผู้ใดจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับอนุญาตแล้ว
แต่เล่นพลิกแพลงในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาต ผู้นั้นมีความผิดดังต่อไปนี้
(1) ถ้าเป็นความผิดในการเล่นตามบัญชี ก. หรือการเล่นตามบัญชี ข. หมายเลข 16 เฉพาะสลากกินรวบ หรือการเล่นซึ่งมีลักษณะคล้ายกันนี้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี
(2) ถ้าเป็นความผิดในการเล่นตามบัญชี ข. ยกเว้นหมายเลข 16 เฉพาะสลาก กินรวบ หรือการเล่นอื่นใดตามมาตรา 4 ทวิ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงเจ็ดปี” (ร่างมาตรา 10)
เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับกำหนดโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและพนันออนไลน์ หรือผู้ควบคุมระบบ และผู้เข้าเล่นการพนันและพนันออนไลน์ให้เหมาะสมแก่สภาพและความร้ายแรงแห่งความผิด
ที่ว่า “ผู้ใดจัดให้มีการพนันอันฝ่าฝืนมาตรา 3/2 [มาตรา 3/2 กำหนดว่า "ห้ามมิให้อนุญาตจัดให้มี หรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันออนไลน์อันระบุไว้ในบัญชี ก. หรือบัญชี ข. หรือมาตรา 4 ทวิ
เว้นแต่ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน] ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงสิบสองปี /ในการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง
หากผู้กระทำเป็นเจ้ามือ ผู้ควบคุมดูแลการเล่นหรือการพนัน ผู้เดินโพย หรือผู้เป็นเจ้าของสถานที่ซึ่งรู้เห็นหรือยินยอมหรือมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่ารู้เห็นหรือยินยอมให้มีการจัดให้มีการเล่นหรือการพนัน ต้องระวางโทษตั้งแต่ห้าปีถึงเจ็ดปี” (ร่างมาตรา 11)
เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับกำหนดโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและพนันออนไลน์ หรือผู้ควบคุมระบบ และผู้เข้าเล่นการพนันและพนันออนไลน์ให้เหมาะสมแก่สภาพและความร้ายแรงแห่งความผิด
ที่ว่า “ผู้ใดเข้าพนันอันฝ่าฝืนมาตรา 3/2 [มาตรา 3/2 กำหนดว่า “ห้ามมิให้อนุญาตจัดให้มี หรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันออนไลน์อันระบุไว้ในบัญชี ก. หรือบัญชี ข. หรือมาตรา 4 ทวิ เว้นแต่ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน] ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสามปี” (ร่างมาตรา 11)
เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับกำหนดโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและพนันออนไลน์ หรือผู้ควบคุมระบบ และผู้เข้าเล่นการพนันและพนันออนไลน์ให้เหมาะสมแก่สภาพและความร้ายแรงแห่งความผิด
ที่ว่า “ผู้ควบคุมดูแลระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องมือที่ใช้ในการจัดให้มีการเล่นการพนันต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้จัดให้มีการเล่นหรือการพนัน” (ร่างมาตรา 11)
สุดท้าย เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับกำหนดโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและพนันออนไลน์ หรือผู้ควบคุมระบบ และผู้เข้าเล่นการพนันและพนันออนไลน์ให้เหมาะสมแก่สภาพและความร้ายแรงแห่งความผิด
ที่ว่า “ผู้ใดประกาศ โฆษณา ชักชวน จูงใจ หรือหลอกลวง โดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันออนไลน์อันฝ่าฝืนต่อมาตรา 3/2
[มาตรา 3/2 กำหนดว่า “ห้ามมิให้อนุญาตจัดให้มี หรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันออนไลน์อันระบุไว้ในบัญชี ก. หรือบัญชี ข. หรือมาตรา 4 ทวิ เว้นแต่ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน] ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้จัดให้มีการเล่น หรือการพนัน (ร่างมาตรา 12)
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษก กล่าวว่า มีการเพิ่มโทษผู้กระทำผิด อาทิ ผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้เล่นการพนันในสถานที่ที่จัดให้มีการเล่นพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้รับโทษรุนแรงขึ้น
ขณะนี้กรมการปกครองได้ยกร่างแก้ไขฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้เริ่มกระบวนการรับฟังความคิดเห็นประชาชน
สำหรับความจำเป็นในการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้ เนื่องจาก พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ใช้บังคับมานาน บทบัญญัติบางมาตราล้าสมัยและมีอัตราโทษที่ไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน
รวมทั้งการเล่นพนันได้พัฒนาวิธีการเล่นซับซ้อนมากขึ้น มีการนําเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในรูปแบบที่หลากหลาย
โดยเฉพาะมีการใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเป็นสื่อกลางในการเล่น หรือพนันออนไลน์ ทำให้ยากต่อการควบคุมที่ปัจจุบันยังขาดมาตรการควบคุมการลักลอบเล่นการพนัน
รวมทั้งโทษที่กำหนดไว้เดิมนั้นไม่เหมาะสมกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัว เป็นช่องว่างให้ปัจจุบันมีประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนถูกเชิญชวน สร้างแรงจูงใจ รวมทั้งหลอกลวงให้เข้าสู่วงจรการพนัน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ จะเป็นขั้นตอนที่กระทรวงมหาดไทยได้รับฟังข้อคิดเห็นของประชาชนอย่างรอบด้าน
จึงขอเชิญชวนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงประชาชน ภาคประชาสังคมเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามที่อยู่ลิงก์นี้ https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDg4OERHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ= ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 14 ก.พ. 68
เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยได้นำความคิดเห็นประชาชนไปประกอบการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน เป็นกลไกดูแลความสงบเรียบร้อยของสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด.