“ภูมิธรรม” ระบุ ยังไม่พบปัญหาจ่ายไฟให้เมียนมา แต่ถ้าพบก็สั่งตัดไฟได้ ชี้ “มหาดไทย” ก็เป็นหน่วยงานความมั่นคง ต้องทำงานร่วมกัน เผยตัดไฟชายแดน ‘อ.แม่ระมาด-อ.แม่สอด’ แล้ว แต่ไม่ทราบว่าเขาจะปั่นไฟเองหรือไม่ ไม่กังวัลหากไทยถูกลดความเชื่อมั่น หลังมีข่าวค้ามนุษย์
วันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ หลังวานนี้ (29 ม.ค. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่าการตัดไฟเป็นอำนาจในการสั่งการของหน่วยงานความมั่นคง โดยนายภูมิธรรม ตอบคำถามนี้ว่า ถ้ามีการปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงหน่วยงานก็สามารถสั่งให้ตัดไฟได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะยังตรวจไม่พบ แต่หากมีการร้องเข้ามาหน่วยงานความมั่นคงก็พร้อมที่จะเข้าไปตรวจสอบ
ซึ่งเจ้าภาพของหน่วยงานความมั่นคงก็คือทหาร ตำรวจ และตน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ต้องช่วยประสานงานอีกทางหนึ่ง ส่วนหน่วยงานไหนส่งเรื่องร้องเรียนให้มหาดไทย ก็จะตัเไฟได้นั้น นายภูมิธรรม ตอบกลับว่า กระทรวงมหาดไทยก็เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งเมื่อวันนี้มีปัญหาเราก็พร้อมที่จะบูรณาการร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีศูนย์ Single Command คือ หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดน (นบ.ยส.)
เมื่อถามว่าขณะนี้กระทบความมั่นคงของประเทศหรือยัง นายภูมิธรรม เล่าว่า ในประเด็นที่หนึ่ง ไฟฟ้าที่เราจ่ายให้ประเทศเมียนมาทั้งหมด 2 จุด คือบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ขณะนี้ยังมีการตัดไฟเพราะมีการใช้กันตามปกติ เพราะมีศูนย์เด็กเล็กและมีศูนย์พยาบาล ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวพันกับค์ยาเสพติดหรือคอลเซ็นเตอร์ และอีกที่หนึ่งคือบริเวณแม่ฮ่องสอนซึ่งเป็นจุดเล็ก ๆ เราก็ยังจ่ายไฟให้กับชุมชนอยู่ ซึ่งจุดที่มีปัญหาคืออำเภอแม่ระมาด และอำเภอแม่สอด ซึ่งได้ตัดไฟฟ้าและสัญญาณอินเตอร์เน็ต ไปตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 แล้ว แต่หลังจากนี้ถ้าหากใครดำเนินการให้ไฟฟ้าก็ถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มอาชญากรรม ส่วนที่มีไฟใช้อยู่ขนาดนี้ ตนก็ไม่ทราบว่าจะมีการปั่นไฟใช้เพิ่มเติมหรือไม่ เราทำได้เพียงตามดู เพราะเป็นเรื่องภายในของเขา แต่ทางการไทย เราซีลและจัดการหมดเป็นที่เรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการที่รองผู้ว่าฯ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยว่าจะมีการประชุมกับหน่วยงานความมั่นคงในวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการสรุปเรื่องของความมั่นคงกับการขายไฟให้ประเทศเมียนมาหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า หลังจากการประชุมวันนี้ไปจะเป็นการ บูรณาการอย่างสูงสุดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองทัพ สตช. กระทรวงมหาดไทย ปปท. ปปง.และ กอ.รมน. ซึ่ง การประชุมกับ 51 อำเภอ 76 สถานีตำรวจ ในวันนี้ ครั้งนี้จะถือว่าเป็นการซีลชายแดนอีกชั้นหนึ่ง เพราะอาจจะมีการเล็ดลอด เข้ามาพักพิงในแต่ละอำเภอ โดยรัฐจะกำหนดกรอบเวลาในการประเมินโครงการนี้ทั้งหมด 6 เดือนหลังจากนี้
ส่วนในพื้นที่แม่สอด จังหวัดตาก ได้ใช้โมเดลการจัดการในสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยทำมาก่อน ซึ่งหากสำเร็จก็จะเป็นแบบอย่างให้กับในหลายๆเรื่อง
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าไทยยะถูกปรับลดไปอยู่เธียร์ 2 ในเรื่องของการค้ามนุษย์ นายภูมิธรรมระบุว่าเราทำงานตรงนี้เราไม่ต้องกังวลอะไร คำถามเหล่านั้นก็จะหายไปเอง แต่ถ้านิ่งเฉยไม่ได้ทำอะไร นี่ถึงจะควรถาม ตนย้ำว่าสิ่งที่ทำทั้งหมด เป็นการพูดคุยกับผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ไม่ใช่แค่เรื่องของยาเสพติดเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึง ปัญหาชายแดนอาชญากรรม คอลเซ็นเตอร์ และการจัดการฝุ่นทุกอย่างจะรวมอยู่ในนี้ พร้อมให้ความมั่นใจว่า เมื่อรัฐบาลนั้นมอบหมายแล้วฝ่ายความมั่นคงก็ต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรมภายใน 6 เดือนนี้ แต่สำหรับภารกิจนี้ยังไม่รวมในส่วนของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพราะต้องมีมาตรการเฉพาะ