นายกฯ ชวนเที่ยวตรุษจีนปี 68 สมทบทุนช่วยทหารผ่านศึก เนื่องในวันทหารผ่านศึก ผวากฎเหล็กเปิดซองดูยอดก่อนบริจาค หวั่นผิดกฎหมาย จับตา ครม.ถกฝุ่นพิษ PM 2.5 - สธ.ชง ครม.ให้ส่วนราชการนำร่อง WFH ด้านดีอีเสนอ พ.ร.ก.ไซเบอร์ ให้ ครม.ไฟเขียว
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 28 ม.ค.ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และผู้บริหารกระทรวง พบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานเทศกาลตรุษจีนประเทศไทย 2568 และมอบตุ๊กตางูเล็กสัญลักษณ์ของปีมะเส็ง และของที่ระลึกแก่นายกฯ โดย นายกฯ กล่าวหยอกล้อว่า “ตาตุ๊กตางูบ้องแบ๊ว” โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นายหาน จื้อ เฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และคณะ รับชมการแสดงของทางจีนและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า ในปีนี้ทางทำเนียบรัฐบาล ไม่มีการติดโคมเต็งลั้ง สัญลักษณ์มงคลที่ติดไว้ปัดเป่าสิ่งไม่ดี นิยมแขวนไว้ประดับตามประตู เพื่อฉลองเทศกาลตรุษจีน เหมือนครั้งที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 09.50 น.พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมป์ นำคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกฯ เพื่อมอบดอกป๊อบปี้ ดอกไม้ที่ระลึกเนื่องในวันทหารผ่านศึก ประจำปี พ.ศ. 2568 และประชาสัมพันธ์การจำหน่ายดอกป๊อปปี้ รายได้นำไปช่วยเหลือทหารผ่านศึก ก่อนที่ นายกฯ จะสมทบทุนช่วยเหลือทหารผ่านศึก ได้เปิดซองเงินที่เตรียมไว้ พร้อมกับหันไปถาม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า มูลค่าเกิน 3,000 บาทหรือไม่ เนื่องจากมีกฎหมายระบุไว้ ก่อนที่นายกฯจะสแกนโอนเงินสมทบเพิ่มเติมจากที่เจ้าหน้าที่ได้เตรียมไว้
จากนั้น นายกฯ ได้สอบถามราคาดอกป๊อบปี้ พร้อมระบุว่า ราคาไม่ขึ้นเลย จำได้ตอนเด็ก เคยมีไปขายที่โรงเรียนก็ราคา 20 บาท พร้อมกับอวยพรให้ตัวแทนทหารผ่านศึกและคณะ ที่จำหน่ายดอกป๊อบปี้ ให้มีสุขภาพแข็งแรง และกล่าวอวยพรวันตรุษจีน “ซินเหนียน ไคว่เล่อ”
จากนั้นเวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธาร เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีรัฐมนตรีลาการประชุม 5 คน ได้แก่ 1. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว. ศึกษาธิการ 2. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ 3. นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย 4. นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ 5. นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข และมีวาระเพื่อพิจารณา 28 เรื่อง วาระเพื่อทราบไม่มีข้อทักท้วง 21 เรื่อง วาระเพื่อทราบ 5 เรื่อง และเพื่อทราบข้อมูล 4 เรื่อง
โดยวาระ ครม.ที่น่าสนใจ เรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่น หมอกควัน และ PM 2.5 ที่นายกฯจะมีข้อสั่งการเพิ่มเติม และหารือรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าแนวทางปฏิบัติที่มอบหมายไปก่อนหน้านั้น
ส่วนวาระที่คาดว่ากระทรวงต่างๆ จะเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอ
ครม.เห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐนำร่องเวิร์กฟรอมโฮม Work From Home (WFH) หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ยังสูงต่อเนื่องหลายพื้นที่
กระทรวงคมนาคม ขออนุมัติงบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็น พ.ศ. 2568 วงเงิน 140 ล้านบาท เพื่อจ่ายชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการรถไฟฟ้า และ ขสมก. ตามมาตรการลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ส่งเสริมการใช้บริการขนส่งสาธารณะฟรี 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค. 68 เพื่อลดการก่อฝุ่น PM 2.5 ใน กทม.
กระทรวงมหาดไทย เสนอ ของบกลาง เพิ่มเติม 5,261.04 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ครัวเรือนละ 9,000 บาท สำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัยระหว่างวันที่ 3 พ.ย.- 31 ธ.ค. 67 รวม 1,136 ครัวเรือน ให้ได้รับการช่วยเหลือเช่นเดียวกับพื้นที่อุทกภัยในพื้นที่อื่นๆ
กระทรวงวัฒนธรรม เสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช โดยจะขอความเห็นชอบเอกสารที่จัดทำขึ้นตามหลักเกณฑ์ของยูเนสโก และนำส่งไปยังศูนย์มรดกโลก ณ กรุงปารีส ให้ทันกำหนดภายในวันที่ 31 ม.ค. 68 เพื่อให้ทันการเข้าสู่กระบวนการประเมินขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของคณะกรรมการมรดกโลกตามขั้นตอนต่อไป
ด้าน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะเสนอแก้ไขพระราชกำหนดว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมด้านไซเบอร์ (พ.ร.ก.ไซเบอร์) ใจความสำคัญ ว่าเรื่องที่ ธนาคาร และ ค่ายมือถือ ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ กรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเงินประชาชนหรือไม่