เมื่อวันที่ 27 ม.ค.68 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายชาดา ไทยเศรษฐ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย สส.พรรคกล้าธรรม ได้ลงพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก บริเวณเวทีใหญ่สวนมิ่งขวัญประชา เพื่อปราศรัยหาเสียงช่วยนายอับดุลลักษณ์ สะอิ ( แบเลาะห์ )ผู้สมัครนายก อบจ.นราธิวาส หมายเลข 2 นอกจากนี้ ยังมี 2 สส.จากพรรคกล้าธรรม คือ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รวมถึงนายซาการียา สะอิ สส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะน้องชายนายอับดุลลักษณ์ ร่วมด้วย
โดยนายอามินทร์ สส.เจ้าของพื้นที่ กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งระบุว่า มีคนบอกว่าผมไปโจมตีฝ่ายตรงข้าม ผมขอชี้แจงว่า ผมไม่ได้โจมตี ผมแค่พูดเรื่องจริง สิ่งที่อยากจะทำก็ไม่ทำ สิ่งที่ควรทำก็ไม่ทำ คนนราฯเพิ่งจะผ่านน้ำท่วมใหญ่มา ความช่วยเหลือที่เราได้รับข้าวกล่องมากินประทังยังชีพวันละหมื่นกล่องมาจาก มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า นี่คนนอกพื้นที่ นะครับ แต่คนที่ควรทำ ควรดูแลพี่น้องประชาชน กลับไม่เห็นแม้แต่เงา มันไม่ใช่เรื่องยาก คุณกินภาษีของประชาชน เมื่อประชาชนเดือดร้อน คุณก็ต้องช่วย
จากนั้น นายชาดา ไทยเศรษฐ ขึ้นกล่าวปราศรัยกับชาวนราธิวาสว่า วันนี้โลกมันเปลี่ยนแล้วแต่สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนคือที่นราธิวาส นายก อบจ.คนเก่าไม่ใช่ไม่ดี ท่านกับผมก็ชอบพอกัน แต่มันดีเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ไม่ใช่วันนี้ ที่จังหวัดอุทัยธานี มีคนมุสลิมที่ลงคะแนนได้ไม่ถึง 100 คน แต่จังหวัดอุทัยธานีมี สส. 2 คนคือตนและหลานชาย นายกเทศบาลเมืองคือลูกสาวคนโตของตน พวกเราทำงานเป็นทีม เหมือนกับครั้งนี้ที่เบอร์ 2 จะทำงานเป็นทีม ตนเชื่อว่าหลายคนเฝ้ารอวันนี้ และจะมีการเปลี่ยนแปลงถ้าวันที่ 1 ก.พ.นี้ 2 เท้าของท่านก้าวออกจากบ้าน เจอบัตรสีแดง กาเบอร์ 2
“ผมคิดว่าการมาของผม และ ร.อ.ธรรมนัส รวมถึง สส.อีกหลายท่าน คือ สัญญาณที่จะร่วมมือกันพัฒนาจังหวัดนราธิวาส เพราะในพื้นที่นี้มีหลายอย่างที่มีความพร้อม มีศักยภาพ เมื่อช่วงเช้าตนได้ไปลงพื้นที่ปรากฏว่า ในหมู่บ้านมีฝายน้ำพัง มีคนเสียชีวิต ร.อ.ธรรมนัส ได้เรียกกรมชลประทานมาแล้วบอกว่า ให้ดูแล ต้องทำให้เสร็จ ให้ไว เพราะว่าประชาชนเดือดร้อน ผมยืนดูท่านสั่งงาน ผมก็ภูมิใจแทนคุณ นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วและก็กำลังจะเปลี่ยนครั้งใหญ่ ขอฝากพี่น้องว่า เลือกเบอร์ 2 แล้วนราธิวาสจะเปลี่ยนแปลงแน่นอน”นายชาดา กล่าว
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้กล่าวปราศรัยกับคนนราธิวาสว่า ก่อนหน้าที่ตนจะเดินทางมามันมีอุปสรรคมากมาย หลายท่านก็หวังดีว่า อย่ามาเลยมาทำไมนราธิวาส ไกลก็ไกล เดินทางมา 1,000 กว่ากิโลเมตร ถามว่ามาทำไม ก็มาเผื่อที่จะทำให้นราธิวาสดีขึ้น นี่คือบุญคุณของแผ่นดิน ผมเรียนจบจากที่นี่ ตั้งใจมาตลอดว่า หากวันหนึ่งที่ธรรมนัสมีโอกาส ตนจะกลับมาพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนไม่ให้น้อยหน้าใครๆ
”มันมีที่ไหนจังหวัดนราธิวาสมีพรมแดนติดกับประเทศบ้านเพื่อนบ้านตั้งกี่อำเภอ แต่ทำไมคนนราธิวาสมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวน้อยที่สุดในประเทศไทย มันน่าเจ็บใจ ก็เพราะพวกท่านใช้แต่ของเก่าๆแก่ๆ วันนี้ต้องเอาของเก่าถอดทิ้ง แล้วเปลี่ยนมาใช้ของใหม่ เราจะไม่ปล่อยให้คนนราธิวาสต้องถูกดูหมิ่นว่า เป็นจังหวัดที่มีรายได้น้อยที่สุดต่อหัวอีกแล้ว“ร.อ.ธรรมนัส
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า วันนี้ตนพาสักขีพยานมาด้วย หากท่านเลือก แบเลาะห์ เบอร์ 2 ท่านจะได้ สส.ไผ่ ลิกค์, สส.อรรถกร, สส.ภาคภูมิ,สส.นเรศ,สส.ชนนพัฒน์,สส.สะถิระ หากพวกท่านกล้าที่จะเปลี่ยน ท่านจะมีเพื่อนเป็น สส.จากหลาย ๆ จังหวัดที่จะเข้ามาร่วมพัฒนาบ้านเมืองของเรา นอกจากนี้ ภาคการเกษตรที่ตอนนี้คนของผมกำกับดูแลอยู่นี้ เราจะทำทุกที่ เราจะทำทุกอย่างเราจะทำให้สินค้าทุกอย่างมีราคา ตอนสมัยที่ ผมเป็นรัฐมนตรียางพารากิโลละ 100 บาท ไม่เคยราคาตก และอีกไม่กี่วันตนก็จะกลับไปเราจะช่วยเหลือพี่น้องคนไทยภาคการเกษตรให้เข้มแข็งต่อ
“พรรคภูมิใจไทยมีกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ เรามาบูรณาการกัน ผมพูดอีกครั้งหนึ่งว่า เราเล่นการเมือง เราต้องมีความชัดเจน เราอยู่พรรรกล้าธรรม ท่านชาดาอยู่พรรคภูมิใจไทย แต่วันนี้อยากจะกราบเรียนพี่น้องชาวนราธิวาสว่า ผมไม่ได้มาในนามพรรคกล้าธรรม แต่ผมมาในนามพรรคพวกผม ซึ่งพวกผมคือ แบเลาะห์ เบอร์ 2 ดังนั้นฝากพี่น้องชาวนราธิวาสว่า วันที่ 1 ก.พ.นี้ ตั้งแต่เวลา 8:00 - 17:00 น ท่านอย่าลืมเข้าคูหากาหมายเลข 2 ”ร.อ.ธรรมนัส กล่าว