xs
xsm
sm
md
lg

ไอเอฟดีโพล ชี้ ปชช.หวั่นเลือกตั้ง อบจ. แทรกแซง-ทุจริต-ขัดแย้ง-พัฒนาท้องถิ่นสะดุด “เกรียงศักดิ์” ฟันธง พรรคบ้านใหญ่ พท. ชน ภท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้( 23 ม.ค.)ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (ดร.แดน) ประธานสถาบันการสร้างชาติ ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา และนักวิชาการอาวุโส มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริก และนางจิตติมา บุญวิทยา ผู้อำนวยการไอเอฟดีโพลและเซอร์เวย์ ร่วมแถลงผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ประชาชนหวั่นเลือกตั้ง อบจ. แทรกแซง-ทุจริต-ขัดแย้ง-พัฒนาท้องถิ่นสะดุด" ว่า ไอเอฟดีโพลและเซอร์เวย์ สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD) ได้สำรวจความเห็นคนไทยอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีสิทธิ์เลือกนายกฯ อบจ. 1,222 ตัวอย่าง สำรวจช่วง 15-20 มกราคม 2568 ใน 6 ภูมิภาค โดยสุ่ม‍ตัวอย่างความน่าจะเป็นแบบ Stratified Five-Stage Random Sampling แต่ละตัวอย่างที่ถูกเลือกมีค่าถ่วงน้ำหนัก ค่าความผิดพลาด 3% และที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

ไอเอฟดีโพลชี้ ประชาชนเลือกนายกฯ อบจ. ที่เข้าใจปัญหาท้องถิ่น มีวิสัยทัศน์-นโยบายจับต้องได้สร้างการเปลี่ยนแปลง มีผลงาน/มีประสบการณ์บริหารท้องถิ่น ประวัติดี และสังกัดพรรคที่ชื่นชอบ ขณะเดียวกัน ประชาชนกังวลการแทรกแซงของพรรคการเมืองระดับชาติสู่การบริหารท้องถิ่น กังวลว่าหากผู้สมัครจากพรรคบ้านใหญ่ได้เป็นนายกฯ อบจ. จะเน้นประโยชน์พรรค/พวกพ้อง ทุจริต ผูกขาดการพัฒนาทำงานแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และกลุ่มผู้มีอิทธิพลขยายตัว ส่วนผู้สมัครจากพรรคประชาชนถูกจับตาเรื่องขาดการหนุนจากรัฐบาลและเครือข่ายพรรครัฐบาลในท้องถิ่น ไม่แน่ใจฝีมือในการทำตามที่พูดหาเสียงไว้เน้นประโยชน์พรรค/พวกพ้อง ความขัดแย้งในท้องถิ่น และทำงานไม่ต่อเนื่องจากทีมเดิม อีกทั้ง ประชาชนกังวลต่อทั้งสองฝ่ายในประเด็นคล้ายกัน คือ มุ่งผลประโยชน์เพื่อพรรค/พวกพ้อง นโยบายไม่ตอบโจทย์ท้องถิ่น ความขัดแย้งในท้องถิ่น และการไม่ทำตามสิ่งที่หาเสียงไว้

ทั้งนี้ ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ได้วิเคราะห์จากผลโพลเพิ่มเติมใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1) การเลือกตั้งครั้งนี้โยงการเมืองระดับชาติและการเมืองท้องถิ่นอย่างไร้รอยต่อ ทุกพรรคการเมืองต่างใช้เวทีเลือกตั้ง อบจ. เป็นฐานสร้างคะแนนนิยม โดยระดมทั้งคน เงิน และนำนโยบายระดับชาติมาใช้หาเสียง เพื่อตุนฐานเสียงหวังผลเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2570
2) ความเข้าใจ ความคุ้นเคย และการรู้ความต้องการของคนในท้องถิ่น เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเลือกตั้ง อบจ. รอบนี้ อย่างชัดเจน 3)นโยบาย/แนวทางพัฒนาจังหวัดสำคัญ แต่ถูกพูดถึงน้อย พรรคการเมืองต่างนำนโยบายระดับชาติมาใช้หาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเสนอนโยบายจังหวัดอย่างเต็มที่ ทำให้ประชาชนอาจไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร และ 4) ศึก อบจ. จุดเปลี่ยนสำคัญของการพัฒนาท้องถิ่น ประชาชนหวังการเปลี่ยนแปลง แต่หวั่นเกมการเมืองฉุดรั้งการพัฒนาท้องถิ่น การสู้ศึก อบจ. ร้อนแรงในทุกมิติ โจมตีดุเดือด จนประชาชนกังวลว่า อาจนำไปสู่ความขัดแย้งในพื้นที่ และเป็นอุปสรรคทำให้การพัฒนาท้องถิ่นสะดุด

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ วิเคราะห์จากผลโพล ว่า การเลือกตั้งอบจ. รอบนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างบ้านใหญ่แข่งกับบ้านใหม่ และบ้านใหญ่อันดับ 1 บ้านใหญ่อันดับ 2 แข่งกันเอง อาจจะมีบ้านใหญ่อันดับ 3 อยู่บ้างแต่จะเลือดใช้บ้านใหญ่ที่มีฐานการเมืองที่หนักแน่นสู้กับบ้านใหม่คือพรรคประชาชน ตนคิดว่า เมื่อดูสิ่งเหล่านี้จึงเห็นชัดว่ามีการต่อสู้กันอย่างชัดเจน โดยบ้านใหญ่จะได้คะแนนอบจ.เป็นส่วนใหญ่ แต่บ้านใหม่ แทบจะไม่ได้เลย อาจจะได้เพียงนิดเดียว ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งอบจ.ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างกระแสกับกระสุน ซึ่งใช้วิธีการสร้างกระแสให้ได้ผลลัพธ์แข่งกับกระสุนในพื้นที่ อย่างจริงจังในอบจ. โดยมั่นใจ ว่าครั้งนี้ กระสุนจะชนะ

ส่วน การเลือกตั้งอบจ. ครั้งนี้แตกต่างกับการเลือกตั้งระดับชาติ เนื่องจากครั้งที่แล้ว ที่เป็นการต่อสู้ระหว่างมีลุงและไม่มีลุง แต่รอบนี้ลุงไม่เกี่ยวเพราะลุงเลิกไปแล้ว ฉะนั้นไม่มีกระแส “มีลุง ไม่มีเรา” มาช่วย ดังนั้นบ้านใหม่จึงจะไม่ได้ประโยชน์อานิสงส์จากความกลัวลุง หรือความไม่อยากได้ลุงตอนนี้จึงอยากให้คิดว่าบ้านใหม่ลำบากขึ้นโดยเฉพาะระดับอบจ.

โดยครั้งนี้เป็นการโยงคะแนนระดับชาติกับท้องถิ่นเข้าหากัน เป็นครั้งสำคัญที่ไม่ค่อยมี คือการเอากระแสระดับชาติมาปนกับระดับท้องถิ่น จะสังเกตจากการหาเสียง จะชูประเด็นนโยบายระดับชาติมาหาเสียง ทั้งที่ท้องถิ่นไม่เกี่ยวกับระดับชาติมากนัก แต่มีการชูประเด็นนี้แสดงว่ามีการหมายมั่นจะให้ผลลัพธ์เลือกตั้งอบจ.นำไปช่วยในระดับชาติในที่สุด และสิ่งที่ประชาชนจะได้รับการปั่นให้เกิดความรู้สึกคือถ้าเลือกตามกระแสระดับชาติ ในที่สุดท้องถิ่นจะได้อานิสงส์ด้วย ดังนั้นประชาชนจึงไม่สนใจเรื่องท้องถิ่นเป็นหลักแต่สนใจเลือกกระแสระดับชาติถือเป็นครั้งแรกที่ชัดเจนที่สุดที่นำกระแสชาติมาปนกับกระแสท้องถิ่น โดยในอดีตพรรคการเมืองระดับชาติ เช่นสส.จะไม่ค่อยฟันธงเลือกใครเป็นพวก จะเอาทุกฝ่ายที่พอจะร่วมมือกันได้เพื่อเวลาระดับชาติทุกฝ่ายที่ขัดแย้งกันในท้องถิ่นก็จะมาหนุนในระดับชาติได้ แต่ครั้งนี้ ฟันธงยอมตัดใจ ตัดทิ้งในส่วนที่ไม่ค่อยแข็งแรงเพื่อให้ได้คะแนนเป็นกอบเป็นกำในท้องถิ่น เพื่อจะมาหนุนในระดับชาติ นั่นหมายความว่าอยากได้นายกอบจ.สังกัดพรรค ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

“วันนี้การเมืองระดับชาติและท้องถิ่น โยงกันแบบสนิทเกือบจะไร้รอยต่อ ทำให้การเมืองระดับชาติตัดสินใจชูกระแสพรรคระดับชาติ มาครอบคลุมพื้นที่ท้องถิ่นด้วย นี่เป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่เห็นอาการชัดเจนที่สุดตั้งแต่ที่เคยเห็นมาตลอดชีวิต นั่น หมายถึงว่าการเมืองได้เปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม่ โยงระดับชาติกับท้องถิ่นเข้าหากันเป็นเนื้อเดียวกัน และทำให้ต้องเลือกว่า หากถ้ายังทำคลุมเครือเหมือนเดิม เพื่อหวังว่า รักพี่เสียดายน้อง ได้ทุกฝ่ายใน ท้องถิ่น มาหนุน ตัวเองในระดับชาติแม้เป็นศัตรูกันในท้องถิ่นแบบนี้เลิก เอาวิธีการที่ต้องเลือกว่าจะเอาพี่หรือเอาน้อง เลือกตัวที่มีผลคะแนนเยอะที่สุดที่ คิดว่าจะเป็นประโยชน์ในระดับชาติ เช่นที่จังหวัดอุบลราชธานีมีการสู้กันเองของพรรคเพื่อไทย ตระกูลกัลป์ตินันท์ ยอมตัด ฝังแป้งมัน อีกฝั่งหนึ่งเพราะความสัมพันธ์ห่างชั้นกันเพราะแข่งกันเองตกลงกันไม่ได้ นี่คืออีกประเด็นที่เห็นชัดในการเลือกตั้งอบจ. รอบนี้ และอีกหลายจังหวัดจะเป็นอาการเดียวกันนี้“

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า อีกหนึ่งประเด็นคือ ทุกพรรคการเมืองพยายามชี้ให้เห็นว่าพรรคของตนเองมีฝีมือและประสบการณ์การบริหาร ไม่มีการทุจริตตามที่ผลโพลประชาชนกังวล ซึ่ง สิ่งเหล่านี้เป็นแค่ทฤษฎี และเป็นภาษาดอกไม้ แต่เรื่องจริงคนจะเลือกภาคปฏิบัติ คือเลือกตามกระสุน ใครกระสุนมากกว่ามีโอกาสชนะ ความคุ้นเคยการรู้จักผู้สมัครในพื้นที่และ กระแสระดับชาติ พรรคการเมืองระดับชาติ ซึ่งชาวบ้านจะเลือกบนพื้นฐานภาคปฏิบัติ

นอกจากนี้เรื่องจริงในการจะมีผลลัพธ์อีกหนึ่งเรื่องคือการมี “กลไกราชการ” ย่อมมีโอกาส คือพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะฮั้วกัน เพื่อจะสั่งให้กลไกราชการช่วยโดยที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามดังนั้นคราวนี้พรรคประชาชนจึงเสียเปรียบ พรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยเพราะมีกลไกราชการอยู่ในมือฝ่ายรัฐบาล
ส่วนเรื่องหัวคะแนนจัดตั้งกับหัวคะแนนธรรมชาติครั้งนี้หัวคะแนนธรรมชาติยังมีน้ำหนักน้อย แต่หัวคะแนนจัดตั้งมีน้ำหนักมากที่สุด และเชื่อมโยงกับพวกกระสุน

“ฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าพรรคประชาชนจะได้อบจ.น้อยมาก และพรรคที่จะแย่งคะแนนกันจะเป็นบ้านใหญ่ทั้งสิ้น”

ทั้งนี้การเลือกตั้งระดับชาติทุกครั้งจะมีประชาชนที่อาศัยในชุมชน ลักษณะบ้านไม้ และที่อาศัยในตัวเมืองลักษณะบ้านตึกกับบ้านรั้วออกมาใช้สิทธิ์มากกว่า การเลือกตั้งท้องถิ่น แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนที่อาศัยในชุมชนลักษณะบ้านไม้มาใช้สิทธิ์มากกว่า ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นวันเสาร์ ระหว่างวันเสาร์และวันอาทิตย์มีนัยยะสำคัญ เพราะหากเลือกวันอาทิตย์จะเห็นคนบ้านตึกกับบ้านรั้วที่เป็นชนชั้นกลางออกมาเลือกมากขึ้น แต่ครั้งนี้เลือกวันเสาร์ ซึ่งแปลกจากเดิม จะเป็นการจงใจหรือไม่ก็ตาม ที่เลือกวันเสาร์เป็นการช่วยคนชุมชนบ้านไม้ให้ออกมาและเป็นการลงโทษคนบ้านรั้วและบ้านตึก จึงมองว่ามีความพยายามช่วยบ้านใหญ่ มากกว่าบ้านใหม่ หรือไม่

“วิเคราะห์ว่า การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ บ้านใหญ่ที่มาจากพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยจะได้มากกว่าบ้านใหม่ที่มาจากพรรคประชาชน ขอย้ำว่า ตนไม่ได้แช่งและไม่ได้ลำเอียงแต่วิเคราะห์จากผลโพล การสำรวจความคิดเห็นประชาชนและวิเคราะห์จากสภาพจริง” ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ระบุ






กำลังโหลดความคิดเห็น