อดีตรองโฆษก ปชป. ฟาด “ทักษิณ” มียางอาย หยุดเรียกตัวเองเป็นผู้เสียหายคดีอัลไพน์ ย้อนมหากาพย์อำนาจการเมืองโกงที่วัด ใครฉ้อฉลไปเรียกค่าชดเชยจากคนนั้น
วันนี้ (21 ม.ค.) นายเชาว์ มีขวด ทนายความ โพสต์ข้อความ เรื่อง ใครโกงที่วัด คนนั้นจ่ายค่าชดเชยคดีอัลไพน์ มีเนื้อหาระบุว่า เป็นตลกร้ายที่กรมที่ดินแสดงความพร้อมสุดฤทธิ์ในการจ่ายชดเชย ปม สนามกอล์ฟอัลไพน์ หลังมีการยกเลิกคำสั่ง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ทำให้ที่ดินกลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์ตามกฎหมาย แถมยังมีการเด้งรับเป็นทอดๆ จาก นายทักษิณ ชินวัตร ที่พูดในทำนองว่า เป็นที่ธรณีสงฆ์ก็ไม่เป็นไร ชดเชยมาก็แล้วกัน จนทำให้คนอดคิดไม่ได้ว่า “หรือจะเตี๊ยมกันมาแล้ว” ถึงขั้นมีการคำนวณวงเงินที่ต้องจ่ายไว้แบบแพงหูฉี่ที่ 7.7 พันล้านบาท
ถ้ากรมที่ดินของบประมาณไปจ่ายจริง ไม่ใช่ “ค่าโง่” แต่เป็น “คนโง่” เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่จะเอาเงินภาษีประชาชนไปจ่ายให้กับการฉ้อฉลแปลงที่ธรณีสงฆ์ไปเป็นที่เอกชน คนโกงต้องจ่ายไม่ใช่เอาเงินประชาชนไปจ่าย
นายเชาว์ ระบุด้วยว่า ปัญหาเริ่มต้นจาก นายเสนาะ เทียนทอง ขณะเป็น รมช.มหาดไทย ทำหน้าที่ รมว.มหาดไทย ลงนามไม่อนุญาตให้ที่ดินเป็นของวัดธรรมิการามวรวิหาร โอนกรรมสิทธิ์ไปให้มูลนิธิจัดการ เลวร้ายกว่านั้น คนที่ได้ประโยชน์ซื้อที่ดินไปคือ บ.อัลไพน์ ที่เมียและน้องชาย นายเสนาะ ถือหุ้นอยู่ ซื้อที่ดินในราคา 142 ล้านบาท ก่อนบริษัทนำไปจำนอง 220 ล้านบาทได้กำไร 78 ล้านบาท ภายในวันเดียว จากนั้นยังมีการนำที่ดินจำนองต่อได้เงิน 425 ล้านบาท เท่ากับกำไร 283 ล้านบาท ใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของตัวเองและเครือญาติ เป็นพฤติการณ์ที่ชัดเจนยิ่ง น่าเสียดายที่คดีเกี่ยวข้องกับนายเสนาะ ศาลฎีกาฯ ยกฟ้องไป เพราะคดีขาดอายุความ เรื่องนี้ ป.ป.ช.ก็ควรต้องรับผิดชอบ เพราะถ้าศาลได้มีโอกาสตัดสิน ผมฟันธงว่าผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ และการทำธุรกรรมที่ดินนี้เป็นโมฆะ จบปัญหาได้ตั้งนานแล้ว โดยไม่ต้องคาราคาซังมาหลายสิบปีแบบนี้ และถ้ามีการทำตามกติกาอย่างที่ นายทักษิณ ชินวัตร พูด ตั้งแต่ปี 2545 ที่ดินก็ต้องกลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์แล้ว แต่กลับมีการฉ้อฉลอีกครั้งยกเลิกการเพิกถอนกรรมสิทธิที่ดินดังกล่าว สุดท้าย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รับใช้นายจนติดคุก 2 ปี
ส่วนที่ นายทักษิณ บอกซื้อที่มาโดยสุจริต ต้องถามว่าสุจริตจริงหรือ เพราะในการถือหุ้น บ.อัลไพน์ 20 ก.ย. 41 ปรากฏชื่อ รปภ. แม่บ้าน และคนขับรถ นายทักษิณ เป็นที่มาของการซุกหุ้นรอบแรก ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นผู้ถือหุ้นตัวจริง คือ คุณหญิงพจมาน พิณทองทา และ แพทองธาร ในวันที่ 17 ส.ค. 44 ในระหว่างนั้นมีข่าวคราวการตรวจสอบปรากฏชัดถึงปัญหาที่ธรณีสงฆ์ แต่ นายทักษิณ นอกจากไม่พยายามทำให้ถูกต้องแล้ว ยังส่อว่าอาจมีการใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อให้เกิดการช่วยเหลือให้ บ.อัลไพน์ ได้ครอบครองที่ธรณีสงฆ์ต่อไปด้วย ดังจะเห็นได้จากเส้นทางการเติบโตของ นายยงยุทธ หลังลงนามได้เป็นปลัดมหาดไทย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรองนายกฯ-รมว.มหาดไทย ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เส้นทางไม่ต่างจาก นางเบญจา หลุยเจริญ ที่ช่วยไม่ให้ลูกชายและลูกสาวทักษิณต้องจ่ายภาษีในการซื้อขายหุ้นชินฯ ได้รับการตอบแทนเป็น รมช.คลัง ยุคยิ่งลักษณ์ และจบที่คุก 2 ปี จากกรรมเก่าที่ไปรับใช้เรื่องภาษี
“ถ้าจะมีใครต้องจ่ายเงินชดเชยกรณีอัลไพน์ คนที่ต้องจ่ายคือคนโกงที่วัด และถ้า นายทักษิณ ยังมียางอายอยู่บ้าง หยุดเรียกตัวเองว่า เป็น ”ผู้เสียหาย” ได้แล้ว” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย