xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ”พลิ้วบูลลี่ เชิญ“ผิวสี”สอนนางแบบไทย !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร  - นาโอมิ แคมป์เบลล์
เมืองไทย 360 องศา

จะเรียกว่า “เหลี่ยม” ของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ส่วนจะเป็นเพราะตั้งใจจาก “นิสัยดั้งเดิม” หรือเปล่าก็ไม่อาจทราบได้ จากคำพูดบนเวทีระหว่างหาเสียงที่จังหวัดเชียงรายเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ที่ดูถูก เหยียดหยาม “คนผิวสี” กำลังจะสร้างผลกระทบทางลบทั้งกับตัวเอง และรัฐบาลภายใต้การนำของลูกสาวตัวเอง เพราะถูกวิพากษ์วิจารณ์กลับมาอย่างรุนแรง

ล่าสุดเขาก็พยายามแก้เกมอย่างรวดเร็ว ด้วยการอ้างว่า ได้ทุ่มทุนส่วนตัวประเดิมเงินจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนในการคัดเด็กไทยจากทุกจังหวัด สำหรับมาเป็นนางแบบ เพื่อสร้างรายได้ สร้างชื่อเสียงกับตัวเอง และประเทศชาติ

“ส่วนเรื่องซอฟต์เพาเวอร์ต่อไปนี้ จะจริงจังในการคัดเลือกคน โดยจะให้มหาวิทยาลัยเป็นแกนนำร่วม อบจ. เพื่อคัดคนที่อยากเพิ่มความชำนาญให้ตนเองเพื่อเป็นอาชีพและมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าแรงงานขั้นต่ำ ที่ผ่านมา ผมได้ประชุมกับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์เพาวเวอร์แห่งชาติ ว่า จะคัดคนสวยแบบธรรมชาติไม่ต้องศัลยกรรม เพื่อให้มีโอกาสเท่าเทียมกัน ใครอยากเป็นนางแบบระดับโลก ก็จะคัดมาฝึก ซึ่ง นพ.สุรพงษ์ บอกว่าอยากได้งบกลาง 20 ล้านบาท ผมเลยบอกว่าเดียวผมออกให้เอง เดี๋ยวหาสปอนเซอร์มาช่วย แต่ทุกคนต้องเป็นแมวมองผ่านกองทุนหมู่บ้าน ไม่จำกัดเพศจะเป็นชาย หญิง หรือเพศที่ 3 หากดูแล้วเหมาะที่จะเดินแบบได้ ก็คัดไปเอามาฝึก แต่อย่าพึ่งทำศัลยกรรม” นายทักษิณ ระบุ

นายทักษิณ กล่าวว่า เราอยากได้คนที่มีความงามแบบไทยแท้ ปนเจ๊ก ปนแขก ปนลาว ก็ได้ ไม่ว่ากัน แต่ต้องงามแบบออริจินัล แบบที่ออกมาจากท้องแม่ เพราะในโลกคงอยากเห็นคนไทยแท้เป็นอย่างไร ถ้าบุคลิกดีเดินแบบได้ แป๊บเดียวก็มีโอกาสทำเงินได้เป็นล้านๆ เรียนหนังสือไม่เก่งไม่เป็นไร แต่ขอคนที่ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน นายกฯ บอกปีนี้เป็นปีแห่งโอกาส ก็อยากจะสร้างโอกาสในทุกมิติ

“ในวันที่ 8-10 กุมภาฯ นาโอมิ แคมป์เบลล์ นางแบบระดับโลกจะเดินทางมาที่ประเทศไทย ก็จะมาคุยกับตนว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยได้เป็นนางแบบระดับโลกได้” นายทักษิณ กล่าวอ้าง

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ได้กล่าวบนเวทีหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จังหวัดเชียงราย กล่าวเหยียดหยามคนผิวสี จนเรียกเสียงประณามไปทั่ว

“หมู่คนแอฟริกา ดำก็ดำ แล้วก็จมูกก็แหมบ จมูกดั้งแหมบ แต่ปรากฏว่าเขาจ้างไปเป็นนางแบบระดับโลก เดินทีได้เป็นล้าน บ้านเราหน้าตาก็ยังดีกว่านะ เรื่องอะไรต้องไปใส่ดั้ง เสริมกราม ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น” นั่นคือคำพูดบางส่วนของเขาบนเวทีหาเสียงดังกล่าว

จนต่อมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ได้แถลงตำหนิทันที ว่า การปราศรัยดังกล่าว แม้จะเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล แต่เมื่อคำนึงถึงสถานะทางสังคมของผู้พูดซึ่งเป็นบุคคลสำคัญทางการเมืองและมีอิทธิพลต่อสังคม การสื่อสารอันเป็นการเหยียด และด้อยค่ากลุ่มชาติพันธุ์อื่น จึงเป็นการกระทำที่ไม่สมควรยิ่ง เพราะพื้นฐานความคิดที่ว่าคนเชื้อชาติหนึ่งเชื้อชาติใดเหนือกว่าชนเชื้อชาติอื่น อาจนำไปสู่การเลือกปฏิบัติระหว่างมนุษย์ และเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความสัมพันธ์และสันติภาพระหว่างชาติ ดังจะเห็นได้จากบทเรียนในอดีตของมนุษยชาติซึ่งการเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของเชื้อชาติ สีผิว และเผ่าพันธุ์ ได้ก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและนำมาซึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่มาแล้วหลายครั้ง อันเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้

กสม. เห็นว่าในขณะที่รัฐบาลไทยในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญา CERD มีหน้าที่ต้องจัดให้มีนโยบายและการปฏิบัติที่นำไปสู่การขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติทุกรูปแบบรวมทั้งส่งเสริมความเข้าใจระหว่างคนทุกชนชาติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ไทยเพิ่งได้รับเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญ คือ การเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council – HRC) วาระปี 2568 – 2570 นี้ บุคคลสาธารณะและผู้มีบทบาทสำคัญทางการเมืองของไทยจึงต้องเป็นแบบอย่างที่ดีและร่วมส่งเสริมให้สังคมตระหนักและเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลอื่นโดยไม่แบ่งแยกและเลือกปฏิบัติต่อกันด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ สีผิว หรือสถานะทางสังคมอื่นใด รวมทั้งไม่สื่อสารในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเกลียดชังต่อกลุ่มคนอื่น ทั้งนี้ เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและสร้างสรรค์บนพื้นฐานของการเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของคนทุกคน

แน่นอนว่า จากท่าทีและคำพูดดังกล่าวของ นายทักษิณ ชินวัตร ในลักษณะ “เหยียด” หรือ “บูลลี่” อย่างชัดเจน จนสร้างความเสื่อมเสียมาถึงรัฐบาลไทย ที่เขามีบทบาทสำคัญ ทั้งเรื่องนโยบาย และสั่งการอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งยังเป็น “พ่อนายกฯ ” ที่ได้รับฉายา “พ่อเลี้ยง” เสียอีก ดังนั้นการที่เขาบอกว่าได้ควักเงินส่วนตัวจำนวน 20 ล้านบาทเพื่อเป็นทุนสำหรับกิจกรรม “ซอฟต์พาวเวอร์” เพื่อค้นหานางแบบที่มีพรสวรรค์ในต่างจังหวัด และจะเชิญนางแบบชื่อดังระดับโลกอย่าง “นาโอมิ แคมป์เบลล์” มาช่วยฝึกสอนให้ โดยบอกว่าเธอจะเดินทางมาไทยในวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์นี้

อย่างไรก็ดีหากพิจารณากันในรายละเอียดจะพบว่า “นาโอมิ แคมป์เบลล์” เป็นชาวอังกฤษ และที่สำคัญเธอเป็นผู้หญิง “ผิวสี” มีประวัติครอบครัวจากทวีปแอฟริกา ซึ่ง นายทักษิณ ชินวัตร เคย “บูลลี่” เปรียบเทียบอย่างคะนองปากมาก่อน และจากคำพูดดังกล่าวกำลังจะทำให้ทั้งตัวเขา และรัฐบาลที่นำโดยลูกสาวของเขา คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้รับความเสียหายและอับอาย ส่งผลกระทบด้านนโยบายด้านการต่างประเทศ ที่ไทยเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายด้านภาพลักษณ์

อีกทั้งจากคำพูดที่ว่านี้ มีสื่อต่างประเทศรายงานออกไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งพวกเขาถือว่า “ซีเรียส” อย่างมากกับเรื่องแบบนี้ แต่ถึงอย่างไร ยังไม่มีการเอ่ยคำขอโทษออกมาจากปากของ นายทักษิณ ชินวัตร แต่อย่างใด มีแต่คนใกล้ชิดกระทั่ง นายกรัฐมนตรี ที่พยายามออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้มีความหมายแบบนั้น

อย่างไรก็ดีจากท่าทีล่าสุดของ นายทักษิณ หากพิจารณาจากแบ็กกราวด์ ด้านนิสัยใจคอ และคำพูดที่มักมักไม่ระวังปากมักส่งผลกระทบทางลบอยู่เสมอ และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อรู้ว่า “พลาด” ก็รีบแก้เกมด้วยการ “ใช้เงิน” คนผิวสี และเมื่อพูดถึง “นางแบบ” ก็เลือก นาโอมิ แคมป์เบลล์ มาเสียเลย ส่วนจะควักเงินส่วนตัว 20 ล้านบาทจ้างมานั้น จะเป็นจริงหรือไม่ และนางแบบชื่อดังคนดังกล่าว จะมาจริงหรือไม่ ยังเป็นคำถาม และเป็นกลลวงสร้างกระแสกลบเกลื่อนหรือไม่ !!



กำลังโหลดความคิดเห็น