xs
xsm
sm
md
lg

“สุชาดา” เลขา รมว.อว. เปิดเวที "รู้น้ำ รู้อากาศ ปี 68: คาดการณ์และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ" ย้ำ 3 นโยบาย หนุนใช้ระบบข้อมูล-เทคโนโลยีบริหารจัดการน้ำ-ลดผลกระทบจากภัยพิบัติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้รับมอบหมายจากนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. ให้เป็นประธานเปิดงาน "รู้น้ำ รู้อากาศ ปี 68: คาดการณ์และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ" จัดโดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. โดยมี ดร.รอยบุญ รัศมีเทศ ผู้อำนวยการ สสน. กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม หัวหน้าผู้ราชการกระทรวง อว. รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวง อว. นางสาววราภรณ์ รุ่งตระการ ที่ปรึกษาด้านระบบบริหารการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวง อว. ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนฯ อว. ส่วนหน้า และสื่อมวลชนเข้าร่วม ณ ห้องบัญชาการวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำ สสน.

นางสาวสุชาดา กล่าวว่า กระทรวง อว. ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศเพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและเสริมสร้างความมั่นคงให้กับประชาชน เนื่องจากปี 2568 ประเทศไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านทรัพยากรน้ำและสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการน้ำจึงต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อถือได้ ซึ่งระบบคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติที่พัฒนาโดย สสน. เป็นเครื่องมือสำคัญในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลน้ำระดับประเทศ

นางสาวสุชาดา กล่าวต่อว่า นางสาวศุภมาส รมว.อว. ได้มอบหมายให้ตนเน้นย้ำนโยบายสำคัญ 3 ประการ คือ 1. การพัฒนาเทคโนโลยีและระบบข้อมูลเพื่อการคาดการณ์สถานการณ์น้ำที่แม่นยำ ครอบคลุม และตอบสนองความต้องการในระดับพื้นที่ 2. การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานท้องถิ่น และมหาวิทยาลัยในพื้นที่ โดยเชื่อมโยงการทำงานกับ "ศูนย์ปฏิบัติการผู้พันวิทย์" เพื่อให้เกิดการตอบสนองที่รวดเร็วและครอบคลุมทุกภูมิภาค และ 3. การถ่ายทอดองค์ความรู้และพัฒนาบุคลากรเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและทักษะการใช้ข้อมูลน้ำในงานวางแผนและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ

ด้าน ดร.รอยบุญ ผู้อำนวยการ สสน. เปิดเผยผลการคาดการณ์ปริมาณฝนปี 2568 ว่า ประเทศไทยจะมีปริมาณฝนมากกว่าปกติประมาณร้อยละ 9 โดยมีลักษณะใกล้เคียงกับปี 2542 ทั้งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศจะมีฝนมากกว่าปกติ ยกเว้นบางพื้นที่ในภาคเหนือ ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ และนครศรีธรรมราช อาจจะมีปริมาณฝนน้อยกว่าปกติ โดยช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมจะมีฝนตกตามปกติและมีโอกาสเกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันได้บางแห่ง ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในภาคอีสานตอนล่างอาจมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ และอาจเกิดฝนทิ้งช่วงในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมก่อนที่ฝนจะกลับมาตกในช่วงปลายเดือนกันยายน หลังจากนั้นช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมฝนจะตกหนักมากกว่าค่าปกติอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในบางแห่ง

"เราสามารถติดตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปมาแบบนี้ได้ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมในระดับพื้นที่ เช่น เครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) มหาวิทยาลัยในพื้นที่ หรือ อว. ส่วนหน้าหากเรารู้ทันถึงสภาพอากาศและเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที เราจะพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัยหรือภัยแล้งก็ตาม" ดร.รอยบุญ กล่าว

ทั้งนี้ สสน. ได้พัฒนาระบบติดตามสถานการณ์น้ำที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ผ่านทางเว็บไซต์ www.thaiwater.net และแอปพลิเคชัน ThaiWater สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ Android และ iOs โดยมีข้อมูลสถานการณ์น้ำปัจจุบันและคาดการณ์ฝนล่วงหน้า 7 วัน เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้วางแผนและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ








กำลังโหลดความคิดเห็น