เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีประชาชนชาวสุราษฎร์ธานี จำนวนหนึ่ง รวมตัวกันร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.สุราษฎร์ฯ ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีตสายท่าเพชร-นิคม ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เลขที่โครงการ 67039106242 งบประมาณ 24,350,000 บาท และโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายบ้านควนเจริญ ตำบลทุ่งหลวง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี งบประมาณ 7,490,000 บาท หลังถนนเพิ่งสร้างเสร็จเรียบร้อยเพียง 2 สัปดาห์ กลับเกิดปัญหาทรุดพังทลายลง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้เกิดขึ้นกับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
โดย ป.ป.ช.สุราษฎร์ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนนสายท่าเพชร-นิคม ตำบลขุนทะเล อบจ.สุราษฎร์ฯ โดยลักษณะงานเป็นการปูพื้นถนนใหม่พร้อมขยายให้กว้าง 12 เมตร ยาว 2.18 เมตร รวมทั้งงานติดตั้งไฟส่องสว่าง และสัญญาณไฟจราจร มีงานวางท่อ คสล.916 ตกราคาท่อละ 3,133 บาท รวมเป็นเงินค่าท่อทั้งหมด ประมาณ 2.8 ล้านบาท
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบกลับพบว่า มีการใช้ท่อเก่าแทนที่จะใช้ท่อใหม่มาทำการก่อสร้าง ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และเมื่อสืบเสาะข้อมูลลงไปยังพบพิรุธอีกในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างว่า โครงการนี้มีการซื้อซองประมูล 4 ราย ยื่นประกวดราคาประมูล 4 ราย แต่ปรากฎว่า รายที่เสนอราคามาต่ำสุด 20 ล้าน กลับไม่ชนะการประกวดราคา เพราะไม่ได้คะแนนรวมสูงสุด
ขณะเดียวกัน โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายบ้านควนเจริญ ตำบลทุ่งหลวง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ใช้งบประมาณก่อสร้าง 7,490,000 บาท โดยถนนเส้นดังกล่าวสร้างเสร็จเพียง 2 สัปดาห์ แต่กลับทรุดพังทลายยับเยิน
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า โครงการนี้ อบจ.สุราษฎร์ธานี เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2566 งานแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 หลังจากก่อสร้างถนนเสร็จเพียง 2 สัปดาห์ ถนนดังกล่าวทรุดพังทลายลง ไม่สามารถใช้งานได้ ปัจจุบันถนนสายนี้เสียหายมานานกว่า 6 เดือนแล้ว ทำให้ชาวบ้านสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก แต่ อบจ.กลับเพิกเฉย ไม่เร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขแต่อย่างใด
ครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ภาคประชาชนเกิดการตื่นตัวและเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเป็นหูเป็นตาและเข้ามาตรวจสอบการทำงานของข้าราชการการเมืองท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการปฏิบัติงานอย่างสุจริต และตรงไปตรงมา โดย ป.ป.ช.สุราษฎร์ฯ ได้เข้ามารับไม้ต่อในการตรวจสอบการก่อสร้างถนนทั้งสองโครงการ ซึ่งตอนนี้อยู่ในกระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการไต่สวนต่อไป
