ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ "ณวัฒน์-มิสแกรนด์" อาสาร่วมพิสูจน์คดีแตงโม ยกระดับนางงามต้องกล้าหาญ-เสียสละ-รักความยุติธรรม
ตอนนี้สังคมกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด ถึงความเคลื่อนไหวเพื่อพิสูจน์ความจริงคดี “น้องแตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” นักแสดงสาวที่เสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปีก่อนอย่างน่ากังขา
งานนี้ได้กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้ง ก็ต้องเท้าความกันสักหน่อยว่า จุดเริ่มมาจากหลังจาก “พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์” อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ติดต่อเข้ามาให้ข้อมูลที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนกับ "อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต หรือเจ้าของฉายา "อาจารย์ยิปมัน" ที่แฟนรายการ "โหนกระแส" มอบให้
ตามด้วยความเคลื่อนไหวของ “ลุงอัจ” อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรมที่ยื่นหลักฐานใหม่ต่ออัยการภาค 1 และกระทรวงยุติธรรม ไปจนถึงร้องต่อ กมธ.การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ขอให้รื้อคดีใหม่ มั่นใจว่า ไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ 16 มกราคม กระบวนการดำเนินการเพื่อจำลองเหตุการณ์อันจะไปสู่การพิสูจน์ความจริงใน "คดีแตงโม" ได้เดินหน้าไปอีกขั้น
ใครที่ติดตามคงได้ทราบกันไปแล้วว่า อาจารย์ปานเทพและคณะ ได้เปิดรับสมัครผู้มีจิตอาสาที่จะรับบทสาธิตเป็น “แตงโม” ในการจำลองเหตุการณ์บนเรือ
โดยเมื่อวันศุกร์ (10ม.ค.) ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกเพื่อจำลองสถานการณ์การปัสสาวะท้ายเรือ และการตกน้ำ
ผู้สาธิตแสดงเป็นแตงโม 5 คน ตกน้ำคนละ 1 ครั้ง ได้แก่ "น้องปอย" มิสแกรนด์นครพนม, "น้องเฟริน" มิสแกรนด์นครสววรค์, "น้องฟ้าบาร์บี้" มิสแกรนด์เชียงใหม่, "น้องนิวหยก" มิสแกรนด์ชุมพร และ "ครูลิต้า" ครูว่ายน้ำสอนนางเงือก, ขณะที่ผู้สาธิตแสดงเป็น "แซน" ได้แก่ "น้องหนูวรรณ" มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา
เบื้องหลังของการรับสมัครและประกาศผล ฟังว่า งานนี้ "บอสณวัฒน์" ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าของมิสแกรนด์ ตั้งใจเต็มที่
เจ้าตัวเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ได้ผลักดันสาวงามเวทีมิสแกรนด์ให้สมัครอาสาเป็นตัวแทนแตงโมหลายคน
“ณวัฒน์” เชื่อมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า คดีไม่ใช่อุบัติเหตุ เมื่อมีการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ และจะมีการจำลองเหตุการณ์ขึ้นจริงนั้น ตัวเองจึงได้เชิญชวนให้มิสแกรนด์ทั้ง 77 จังหวัด เป็นอาสาสมัคร
ขณะเดียวกัน อาจารย์ปานเทพ ได้โพสต์ขอบคุณ "บอสณวัฒน์" และ มิสแกรนด์ พร้อมกับบอกว่า ณวัฒน์ ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ กับการพิสูจน์ความจริง “คดีแตงโม”
ฟังว่า เจ้าตัวก็อาสาอยากจะลงเรือจำลองเหตุการณ์สาธิตเป็น "โรเบิร์ด" หนึ่งในคนบนเรือ แต่ติดที่ไม่มีใบอนุญาตขับเรือ
นอกจากนี้ “บอสมิสแกรนด์” ขออาสาดูแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมของผู้สาธิตทั้งหมดโดยจะหาช่างฝีมือดีพยายามให้เหมือนกับ “แตงโม” มากที่สุด
“ณวัฒน์”ยังจะเตรียมบรรจุคำถามในเรื่องของแตงโมขึ้นบนเวทีการประกวดสำหรับปีนี้ด้วย โดยหนึ่งในคำถามนั้นจะถามผู้สมัครมิสแกรนด์ว่า เชื่อว่าคดีแตงโมเป็นอุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม !
เพราะต้องการยกระดับสาวงามมิสแกรนด์ว่า นอกจากความสวยความงามแล้ว คุณสมบัติของมิสแกรนด์ ยังจะต้องมีความกล้าหาญเสียสละ และรักความยุติธรรม
“ณวัฒน์” ยังเล่าว่า ประกอบกับส่วนตัวของ “แตงโม” มีคนรู้น้อยว่าเธอเป็นแฟนคลับของมิสแกรนด์ตัวยง แต่ละปีจะขอเข้ามาชมเวทีประกวดอย่างใกล้ชิดเสมอ
เพราะฉะนั้นโดยส่วนตัวของ “ณวัฒน์” จึงรู้สึกผูกพันกับ “แตงโม” ที่ผ่านมาแตงโมให้อะไรกับมิสแกรนด์มาเยอะ ณวัฒน์ จึงบอกว่าปีนี้จะเป็นปีที่เวทีมิสแกรนด์ จะทำอะไรเพื่อแตงโมบ้าง
อย่างน้อยเพื่อพิสูจน์ความจริงความยุติธรรมและรักษาเกียรติของ “แตงโม” ไม่ให้ใครมาลบหลู่
นี่ก็เป็นเบื้องหลังที่เก็บมาเล่าสู่กันฟัง เพราะฉะนั้นงานนี้ก็คงต้องขอชื่นชม “มิสแกรนด์ และ ณวัฒน์” ดังที่อาจารย์ปานเทพ ได้โพสต์ทิ้งท้ายวันประกาศผลรายชื่อผู้สาธิตจำลองเหตุการณ์ไว้ว่า ...
มิสแกรนด์ กำลังจะเป็นเวทีที่ไม่ใช่แค่นางงามเท่านั้น แต่กำลังจะเป็นเวทีความงาม ที่เสียสละ กล้าหาญ รักความยุติธรรม เพื่อหาความจริงเพื่อหยุดใส่ร้ายแตงโมอย่างไม่เป็นธรรม.
++ อดีตคนเพื่อไทย บอกการเมืองยุคนี้ มือ กม.ตงฉิน ไม่เหมาะที่จะอยู่กับ พท.
จะเป็นเพราะ “ทักษิณ ชินวัตร” เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ที่ชอบทำอะไรที่คาบลูกคาบดอก หรือ ใช้ช่องว่างของกฎหมาย กระทั่งทำในสิ่งที่กฎหมายห้ามหรือไม่ จึงทำให้มือกฎหมาย “ตงฉิน” อยู่ร่วมไม่ได้
คนที่อยู่ด้วยได้ คือมือกฎหมายที่ ยินยอมรับใช้..ตามใจทักษิณ!
“สามารถ แก้วมีชัย” อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นคนโพสต์เรื่องนี้ บอกว่า “สุขุมพงศ์ โง่นคำ” อดีต สส.เพื่อไทย อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีต รมต.ประจำสำนักรัฐมนตรี ที่เป็นเพื่ิอนร่วมสถาบัน และเพื่อนร่วมงานกันมานาน โทรมาบอกว่า ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว
บอกพอกันทีสำหรับการเมือง!!
“สามารถ”บอกว่า “สุขุมพงศ์” เป็นนักกฎหมาย ที่เชี่ยวชาญ ทุ่มเททำงานแบบ ตรงไปตรงมา ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ยึดหลักนิติธรรมเป็นสำคัญ ไม่เอาใจใคร ไม่รับใช้ใครในทางที่ผิด ไม่แสวงหาผลประโยชน์อันมิควรได้จากตำแหน่งหน้าที่
อยู่มาได้ด้วยฝีมือล้วนๆ
สภาพการเมืองไทยในยุคนี้ จึงไม่เหมาะที่ “สุขุมพงศ์” จะอยู่ในพรรคเพื่อไทยและการเมืองอีกต่อไป
สำหรับ “สามารถ แก้วมีชัย” ผู้โพสต์นั้น เป็นคนเชียงราย จบรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เคยทำงานที่การเคหะแห่งชาติ ก่อนมาเล่นการเมืองท้องถิ่น และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2540
ได้เป็น สส.ครั้งแรกเมื่อปี 2544 สังกัดพรรคไทยรักไทย เมื่อพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ก็ตามมาอยู่ที่พรรคพลังประชาชน และ พรรคเพื่อไทย
ตำแหน่งทางการเมือง เคยเป็นที่ปรึกษารมว.วัฒนธรรม ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.คมนาคม วิปรัฐบาล ประธานวิปรัฐบาล และ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุด ในทางการเมืองของเขา ส่วนตำแหน่งในพรรคเคยเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ในเดือน ม.ค.63 “สามารถ” ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เหตุจากความขัดแย้ง เรื่องการส่งตัวผู้สมัคร นายก อบจ.เชียงราย เนื่องจากพรรคไม่ส่งคนของสามารถ ลงสมัคร ตามที่ได้ตกลงกันไว้ แต่ไปส่ง "วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ " ลูกสาว “วิสาร เตชะธีราวัฒน์” ลงแทน
ส่วน“สุขุมพงศ์ โง่นคำ” เป็นคนกาฬสินธุ์ ลูกชายของ “ประยูร โง่นคำ” อดีตสส.กาฬสินธุ์ จบนิติศาสตรบัณฑิต ม.ธรรมศาสตร์ รุ่นเดียวกับ “อดิศร เพียงเกษ - โภคิน พลกุล” เป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 16
เคยทำงานที่ธนาคารกรุงเทพ จนก้าวสู่ตำแหน่งผู้จัดการ สาขาหนองคาย และ สาขาเพชรบูรณ์ ก่อนลาออกมาลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ที่ กาฬสินธุ์ ในการเลือกตั้ง 2544 สังกัดพรรคไทยรักไทย และได้รับเลือกตั้ง
ตำแหน่งทางการเมือง เคยเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ “ทักษิณ ชินวัตร” และเป็น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล “สมชาย วงศ์สวัสดิ์”
นับได้ว่าเป็นสมาชิกพรรคมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย
เรียกว่า ทั้ง“สามารถ” และ “สุขุมพงศ์” อยู่กับ “พรรคตระกูลชินฯ” มาตั้งแต่เริ่มแรก จนกระทั่งลาออก
การลาออกจากสมาชิกพรรคครั้งนี้ ที่ “สามารถ” บอกว่า ยุคนี้มือกฎหมาย “ตงฉิน” ไม่เหมาะที่จะอยู่ร่วมพรรคเพื่อไทยนั้น น่าจะเป็นคำอธิบายที่ “ตรงไปตรงมา” ที่สุด