“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” สั่งกรมฝนหลวงปฏิบัติการเจาะชั้นบรรยากาศเร่งระบายฝุ่น PM 2.5 พร้อมกำชับกรมส่งเสริมการเกษตร หาแนวทางสนับสนุนเกษตรกรลดการเผาในพื้นที่เกษตร เหตุบังคับอย่างเดียวไม่ได้ ต้องหาทางออกให้เกษตรกรด้วย
วันนี้ (10 ม.ค.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวว่า สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรปฏิบัติการต่อเนื่องในการลดการสะสมของฝุ่น PM 2.5 ซึ่งระยะนี้การสะสมเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศผิวพื้นปิดและอัตราการระบายฝุ่นต่ำ โดยกรมฝนหลวงได้ใช้เทคนิคลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศอุณหภูมิผกผันด้วยการใช้น้ำแข็งแห้ง รวมถึงการสเปรย์น้ำซึ่งผสมน้ำแข็งเพื่อปรับลดอุณหภูมิซึ่งจะทำให้เกิดช่องในชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้ฝุ่น PM 2.5 ที่ปกคลุมอยู่สามารถระบายผ่านช่องบรรยากาศขึ้นไปได้
สำหรับปีนี้เป็นปีแรกที่กรมฝนหลวงสามารถบินปฏิบัติการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ โดยได้รับอนุญาตจากบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย โดยกรมฝนหลวงใช้ฐานปฏิบัติการ 3 แห่ง ได้แก่ ฐานปฏิบัติการที่จังหวัดกาญจนบุรี ระยอง และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งต้องส่งพิกัดและระดับความสูงที่จะปฏิบัติการมายังล่วงหน้าเพื่อที่วิทยุการบินจะกำหนดชั้นความสูงที่เครื่องบินฝนหลวงสามารถบินได้และไม่กระทบต่อเส้นทางเดินอากาศของเครื่องบินพาณิชย์ เมื่อได้รับอนุญาตจึงบินเข้ามาปฏิบัติการในกรุงเทพฯ ชั้นในได้ และจากการปฏิบัติในหลายพื้นที่และได้ตรวจสอบปริมาณฝุ่น PM 2.5 เปรียบเทียบก่อนและหลังปฏิบัติการ พบว่า สามารถลดค่าฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 50% ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรให้ความรู้แก่เกษตรกรในการทำเกษตรกรรมแบบปลอดการเผา พร้อมทั้งหามาตรการต่างๆ ไปช่วยเหลือและสนับสนุนเนื่องจากการจะให้เกษตรกรลดและเลิกเผา จะบังคับอย่างเดียวไม่ได้ เพราะหากไม่เผาก็จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ดังนั้น จึงต้องหาทางออกให้ด้วย เช่น การวิจัยและพัฒนาจุลินทรีย์ย่อยสลายฟางข้าวและตอซังข้าวซึ่งได้ผลดี จึงจะขยายผลเพื่อช่วยลดวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ที่ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากการเผาในภาคการเกษตร