xs
xsm
sm
md
lg

"มิน-แซม" พ้นมลทิน ขณะ "บอสพอล-บอสกันต์" และพวกไปต่อ คดีดิไอคอน ** ใบสั่งตาย อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ลอบยิงกลางกรุงเทพฯ “สม รังสี” ชี้เปรี้ยง “ฮุน เซน” ต้องสงสัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ยุรนันท์ ภมรมนตรี - พีชญา วัฒนามนตรี - ลิม คิมยา
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ "มิน-แซม" พ้นมลทิน ขณะ "บอสพอล-บอสกันต์" และพวกไปต่อ คดีดิไอคอน

คดีดิไอคอนกรุ๊ป มาถึงไฮไลต์สำคัญอีกครั้ง หลังจากที่สำนักอัยการสูงสุดรับสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.67 คิดเป็นค่าเสียหายรวมประมาณ 649,912,290 บาท นั้น แถลงสั่งฟ้องและไม่ฟ้องใครบ้างในจำนวนผู้ต้องหากว่า18 ราย

ผลปรากฏว่า "บอส" ทั้งหลายนำโดย "บอสพอล" วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ต้องหาที่1-15 ไปจนถึง และ กันต์ กันตถาวร หรือ "บอสกันต์" ผู้ต้องหาที่ 19 พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง ฐาน

"ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบ ธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต"
 

ยุรนันท์ ภมรมนตรี
ขณะที่ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง "แซม" ยุรนันท์ ภมรมนตรี พระเอกรุ่นใหญ่ ผู้ต้องหาที่ 17 และ ดาราสาว "มิน " พีชญา วัฒนามนตรี ผู้ต้องหาที่18 ตามข้อกล่าวหา เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ

“แซม”และ “มิน” ถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมาโดยอยู่ในเรือนจำเป็นเวลา 84 วัน ครบฝากขังพอดี

“มิน-พีชญา” กล่าวหลังได้รับอิสรภาพว่า ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ขอกลับไปฟื้นฟูร่างกาย จิตใจ ยืนยันว่า บริสุทธิ์ใจ ตั้งแต่เคยแถลงข่าวไปตั้งแต่แรก และวันนี้ก็เห็นชัดแล้วว่า ไม่มีเจตนา ตอนนี้ขอกลับไปพักฟื้นอยู่กับครอบครัว

อย่างไรก็ดี เมื่อพนักงานอัยการสำนักคดีพิเศษ มีคำสั่งไม่ฟ้อง "แซม-มิน" นั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะดำเนินการส่งสำนวนพร้อมความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้อง ไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่า จะมีความเห็นแย้งในคำสั่งไม่ฟ้อง หรือไม่

ถ้าหากอธิบดีดีเอสไอ มีความเห็นพ้องกับความเห็นของอัยการคดีพิเศษ ที่สั่งไม่ฟ้อง กระบวนการสั่งไม่ฟ้องก็จะสิ้นสุด
แต่ถ้าอธิบดีดีเอสไอ โต้แย้งมา ให้สั่งฟ้อง ก็เป็นดุลยพินิจของดีเอสไอ และขั้นตอนหลังจากนั้นก็จะต้องให้ “อัยการสูงสุด” พิจารณาชี้ขาด ความเห็นอีกครั้ง

พีชญา วัฒนามนตรี
ในชั้นนี้ก็ถือได้ว่า แสดงความยินดีกับ “แซม-ยุรนันท์” และ “มิน-พีชญา” ที่พ้นมลทิน โดยหลังจากข่าวแพร่สะพัดออกไปว่าอัยการสั่งไม่ฟ้องและจะได้รับการปล่อยตัว ก็มีเอฟซีของทั้งคู่ และชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจเป็นจำนวนมากส่วนบอสที่เหลือก็ไปต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

นับว่ามหากาพย์ “คดีดิไอคอน”คดีนี้ มีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 650 ล้าน มีเอกสารมากกว่า 3 แสนหน้า มีการสอบพยานหลักฐานหลายพันคน เมื่อไปจนถึงสุดซอย จะปรากฏผลเป็นอย่างไร ก็โปรดติดตามกันต่อไป.

ลิม คิมยา
++ ใบสั่งตาย อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ลอบยิงกลางกรุงเทพฯ “สม รังสี” ชี้เปรี้ยง “ฮุน เซน” ต้องสงสัย

กรณี นักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชา “ลิม คิมยา” อดีตสส.พรรคกู้ชาติกัมพูชา อายุ 74 ปี ที่ถือสัญชาติฝรั่งเศส ถูกมือปืนสังหารอุกอาจ ใจกลางกรุงเทพฯ ข้างวัดบวรฯ บางลำพู เวลา17.45 น. ของวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา

มือปืนผู้ก่อเหตุตอนนี้ถูกรวบตัวได้แล้ว ที่เมืองพระตะบอง กัมพูชา เป็นคนไทย ชื่อ “เอกลักษณ์ แพน้อย” อายุ 41 ปี อดีตทหาร อาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ในซอยสุขุมวิท 22 หรือ ซอยสายน้ำผึ้ง

ประเด็นที่คนสนใจและเกิดคำถามมากมาย ว่านี่เป็นใบสั่งฆ่าจากใคร? คนสั่งฆ่าคือนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลกัมพูชา ใช่ หรือไม่ !?
ลึกๆแล้วคนในรัฐบาลไทยรู้ล่วงหน้าหรือไม่ ว่าจะมีการใช้พื้นที่กรุงเทพฯ ปฏิบัติการปราบเสี้ยนหนามของรัฐบาลกัมพูชา?

ตามประวัติของผู้ตาย “ลิม คิมยา” เป็นไม้เบื่อไม้เมาของสมเด็จฮุนเซน มีจุดยืนต่อต้าน“ระบอบฮุนเซน” มาตลอด เขาเคยเป็นส.ส.พรรคกู้ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) หรือ CNRP ก่อตั้งพรรคเมื่อปี 2555 ซึ่งเป็นการรวมตัวกัน ระหว่างพรรคสม รังสี (Sam Rainsy Party) และพรรคสิทธิมนุษยชน (Human Rights Party)

สม รังสี
ในการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2556 พรรค CNRP ได้ ส.ส.55 ที่นั่ง จาก 123 ที่นั่ง ครั้งนั้น “สมเด็จฯฮุนเซน” เตือนว่า พวกเขาจะเผชิญกับนรก!!

ปี 2560 “เกิม โซะคา” หัวหน้าพรรค CNRP ถูกจับกุมข้อหากบฏ ทำเอาวงแตก ส.ส.ลูกพรรคหลายสิบคน ลี้ภัยออกนอกประเทศ เกรงว่าจะถูกกวาดล้างจับกุม

แต่ “ลิม คิมยา” และส.ส.บางส่วน ยังคงทำหน้าที่ต่อในกัมพูชา ก่อนที่พรรค CNRP จะถูกศาลสั่งยุบพรรค ในปีเดียวกัน โดยสมาชิกพรรค CNRP 118 คน ถูกห้ามยุ่งเกี่ยวการเมืองนาน 5 ปี

จากนั้นปี 2561 พรรคของสมเด็จฮุนเซน ก็ชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย เพราะไร้คู่แข่ง

“กรกิจ ดิษฐาน” นักวิเคราะห์ข่าว โพสต์ถึงคดีนี้ว่า ผู้ตายเป็นคนโจมตี "รัฐบาลตระกูลฮุน" เรื่องเกาะกูดอย่างหนักในระยะหลัง
เช่นเดียวกับ “สม รังสี” ที่หยิบประเด็นเรื่อง "รัฐบาลตระกูลฮุน" จะยกเกาะกูดซึ่งเขมรเรียก เกาะกจ ให้กับไทย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ผ่าน MOU 44

ในเฟซบุ๊กของ “ลิม คิมยา” ที่เขียนไว้ไม่กี่วันก่อนตาย โจมตีรัฐบาล และเอ่ยถึง “ทักษิณ” ในโพสต์เรื่องเกาะกูดเอาไว้
พรรคนี้และคนพรรคนี้ มักเล่นประเด็นว่า "รัฐบาลตระกูลฮุน" ขายชาติ และเชื่อว่าเกาะกูด เป็นของกัมพูชา พร้อมกดดันให้รัฐบาลฟ้องศาลโลก ให้เอาเกาะกูด มาเป็นของคนเขมร

ทำให้ “ฮุน เซน” ไม่พอใจมาก เรียกกลุ่มคนพวกนี้ว่าเป็น "พวกก่อการร้าย"

เรื่องนี้แปลกที่สุด เพราะฝ่ายต่อต้านรัฐบาลบอกว่า“รัฐบาลตระกูลชิน” จะยกเกาะกูดให้กัมพูชา ส่วนฝ่ายค้านกัมพูชา บอกว่า “รัฐบาลตระกูลฮุน” จะยกเกาะกูดให้ไทย

สมเด็จฮุนเซน
นอกจากนี้ ยังมีข่าวที่ไม่ได้รับการยืนยันว่า หนึ่งวันก่อนที่ “ลิม คิมยา” ถูกยิงนั้น “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลูกชายของ“ฮุนเซน” เพื่อนรัก “ทักษิณ” ได้เดินทางมาไทย เป็นการส่วนตัว

ขณะที่ “สม รังสี” อดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Sam Rainsy เป็นภาษาเขมร ภาษาฝรั่งเศส และภาษาอังกฤษ โดยกล่าวหาว่า “ฮุนเซน” ที่ปัจุบันเป็นประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และ บิดาของ “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา คนปัจจุบัน เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร

“สม รังสี” บอกว่า “ลิม คิมยา” นั้นเหมือนคนเอง คือไม่ยอมแพ้ในการต่อสู้กับ “ระบอบฮุนเซน” และก็ตกเป็นผู้ที่อยู่ใน “บัญชีดำ” ของฮุนเซน เหมือนตนเอง

ที่ผ่านมา สมาชิกฝ่ายค้านหลายสิบคน ถูกลอบสังหารอย่างเลือดเย็น เพียงแต่จับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน และไม่ได้รับการลงโทษ ซึ่งตนเองก็ตกเป็นเป้าหมายของการลอบสังหารหลายครั้ง และนับวัน “เผด็จการ” ได้หันมาใช้การปราบปรามข้ามชาติมากขึ้นเรื่อยๆ
จึงหวังว่า ทางการไทย จะให้ความร่วมมือกับตำรวจฝรั่งเศส ในการฉีกหน้ากากของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และมือไม้ที่ก่อการอยู่ในประเทศไทย

งานนี้ถ้าเป็นอย่างที่ “สม รังสี” ว่าโดยมีการใช้ประเทศไทยเป็นที่ก่อเหตุแล้วละก็ รัฐบาลไทยคงต้องอับอายไปทั่วโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น