xs
xsm
sm
md
lg

“สะถิระ”หนุน พ.ร.ก.ภาษีส่วนเพิ่ม แนะ รบ.ต้องเก็บรายได้ 1.2 หมื่นล้านเข้ารัฐได้จริง พร้อมย้ำให้ทำหน้าที่ด้วยความสุจริต และโปร่งใส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(8 ม.ค.)ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาพระราชกำหนดภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ.2567 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ และได้ประกาศใช้พระราชกำหนดฉบับดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568

โดย นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส. ชลบุรี เขต 10 พรรคกล้าธรรม(กธ.)ร่วมอภิปรายในประเด็นนี้ว่า ตนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับทางรัฐบาล เพราะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เพราะสามารถจัดเก็บภาษีได้ 1.2 หมื่นล้าน เพื่อนำมาพัฒนาประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของ ประชาชน แต่สิ่งที่ตนอยากเสนอแนะก็คือ 1.2 หมื่นล้านนั้น รัฐจะเก็บได้อย่างไร เก็บได้ตรงเป้าหรือไม่ ตรงนี้คือสิ่งที่ตนเป็นกังวล เพราะต้องไปสู้กับบริษัทข้ามชาติ ที่มีขนาดเงินทุนถึง 750 ล้านยูโร

นายสะถิระ กล่าวต่อว่า ภาษีส่วนเพิ่มทั้งโลก ส่วนมากประเทศพัฒนาแล้วจะได้ประโยชน์ เช่น สหรัฐอเมริกา ได้ 89% แต่จีน, แอฟริกาใต้, บราซิล ได้เพียง 10% แล้วที่เหลือเป็นของประเทศกำลังพัฒนาได้เพียงแค่ 1% จากภาษีส่วนเพิ่ม นี่คือสิ่งที่ผมเป็นกังวลว่าเราจะเก็บได้ตรงตามเป้าหมายอย่างไร โดยภาษีสวนเพิ่มเกิดจากความร่วมมือระหว่างประเทศหรือสมาชิก OECD มีทั้งหมด 140 ประเทศ และไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่มีแนวทาง ตกลงความร่วมมืออย่างเช่น 2 แนวทาง แต่ที่สำคัญคือ pillar 2 ที่มีจุดประสงค์เพื่อหยุดการแข่งขันทางด้านภาษีเพื่อดึงดูดการลงทุน และป้องกันการเลี่ยงภาษีของ MNEs ที่อาจย้ายกำไรไปยังบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ในประเทศที่มีภาษีต่ำ โดยกำหนดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก หรือ Global Minimum Tax 15% สำหรับ MNEs ที่มีรายได้รวมเกิน 750 ล้านยูโรต่อปี

“คำถามคือ ประเทศไทยมีบริษัทลูกประมาณ 5,000 แห่ง ยกตัวอย่างง่ายๆ บริษัท A เสียภาษีอยู่แค่ 5 บาท แต่เขาต้องเสียเพิ่มอีก 10 บาท เพื่อเต็มร้อยละ แต่ถ้าเขาต้องเสีย 30 บาท เพื่อเป็น Effective Tax Rate จะเก็บเพิ่มฃได้อย่างไร เพราะท่านต้องไปสู้กับบริษัทข้ามชาติระดับใหญ่“นายสะถิระ กล่าว

นายสะถิระ กล่าวต่อว่า ตนมีข้อสังเกตว่า ถ้าต่างชาติ หรือประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ในภาคี เขาคิดร้อยละ 10 เขาจะย้ายฐานลงทุนบริษัทลูก ที่เรามี 5,000 แห่งไปประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ หากเมื่อมีการย้ายแล้ว จะดึงเขากลับมาอย่างไร เราต้องมีการช่วยเหลือหรือจัดแคมเปญ เพื่อช่วยเหลือบริษัทลูกเหล่านั้นหรือไม่ หากจะมีแคมเปญจะใช้งบประมาณจากที่ใด เพราะเป็นภาษีของพี่น้องประชาชน

“บางประเทศภาษีส่วนเพิ่ม เขาจัดเก็บเป็นภาษีเงินได้ และบางประเทศไม่ใช่ภาษีเงินได้ ตนไม่ทราบว่า กรมสรรพากร และกระทรวงการคลัง พิจารณาเป็นแบบใด ซึ่งการจัดสรรรายได้จากภาษีส่วนเพิ่มให้กับกองทุนขีดความสามารถ ผมขอให้พิจารณาในเรื่องของพรบ.ระเบียบวินัย การเงิน การคลังด้วย และกองทุนขีดความสามารถนั้นจะเน้นในลักษณะใด เพราะกองทุนนี้จะได้งบประมาณจากการเก็บภาษีนี้หลักหมื่นล้าน อย่างไรก็ตามการเก็บมาจากภาษีต่างชาติ เขาจะชำระเป็นเงินสกุลใด เพราะค่าเงินมีขึ้นมีลง“นายสะถิระ กล่าว

นายสะถิระ กล่าวทิ้งท้ายว่า วันนี้ท่านพร้อมแล้วหรือยัง ตนให้กำลังใจทางรัฐบาล อยากให้จัดเก็บได้ตรงตามเป้าหมาย และเกินเป้าหมายด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ท่านต้องทำก็คืออะไร ขอให้ทำหน้าที่ด้วยความสุจริต และโปร่งใส เพื่อนำงบประมาณภาษีเหล่านี้ มาพัฒนาประเทศ และยกระดับ คุณภาพชีวิต ของพี่น้องประชาชนไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น