xs
xsm
sm
md
lg

พัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กุญแจสู่ความมั่นคง-เศรษฐกิจยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
การพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทษในประเทศจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ลดการพึ่งพาต่างชาติ กระตุ้นการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถส่งออกเทคโนโลยีเหล่านี้ไปยังประเทศพันธมิตรในอนาคต


โดย…น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต สส.กทม. และอดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในฐานะอดีตผู้บังคับฝูงบินขับไล่สกัดกั้นที่ 102 (F-16) กองทัพอากาศ (ทอ.)

ในโลกยุคปัจจุบันที่สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์เต็มไปด้วยความซับซ้อน ประเทศต่างๆ ถูกผลักดันให้ต้องตัดสินใจเลือกฝ่ายในความขัดแย้งระดับภูมิภาคหรือโลก การกำหนดนโยบายที่เป็นกลางและยืดหยุ่นจึงกลายเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่พึ่งพาการจัดซื้อยุทโธปกรณ์จากต่างชาติ การพึ่งพาเหล่านี้ไม่ได้เพียงเพิ่มความเสี่ยงต่อความมั่นคง แต่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากงบประมาณของรัฐซึ่งเป็นเงินจากภาษีประชาชนจำนวนมหาศาลไหลออกนอกประเทศ

ในขณะที่เศรษฐกิจไทยเผชิญปัญหาอัตราการเติบโตของ GDP ที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน การเปลี่ยนแนวทางการใช้งบประมาณของรัฐในภาคการป้องกันประเทศให้สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศจะไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยเพิ่มศักยภาพด้านความมั่นคง สร้างงาน และพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีในระยะยาว

ความสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในประเทศ

การสร้างอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในประเทศ ช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงในหลายมิติ ดังนี้

1.หลีกเลี่ยงกับดักทางภูมิรัฐศาสตร์

การจัดซื้อยุทโธปกรณ์จากประเทศมหาอำนาจมักมาพร้อมเงื่อนไขหรือข้อผูกพันทางการเมืองที่อาจทำให้ประเทศไทยเสียอิสระในการกำหนดนโยบาย หากเกิดความขัดแย้งระดับภูมิภาค ประเทศที่พึ่งพาอาวุธจากต่างชาติอาจถูกกดดันให้เลือกข้าง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองและความมั่นคงในระยะยาว

2.การตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงได้ทันที

การพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศทำให้กองทัพสามารถปรับเปลี่ยนยุทโธปกรณ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น การพัฒนาระบบ UAV การออกแบบซอฟต์แวร์การรบ และการควบคุมยุทธการที่ออกแบบโดยคนไทย

3.การรักษาความลับทางยุทธศาสตร์

การผลิตยุทโธปกรณ์ในประเทศช่วยลดความเสี่ยงจากการเปิดเผยข้อมูลยุทธศาสตร์แก่ประเทศผู้ผลิตต่างชาติ อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจในความพร้อมรบของกองทัพโดยไม่ต้องรอการสนับสนุนทางเทคนิคจากภายนอก

ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจจากการผลิตยุทโธปกรณ์ในประเทศ

1.การแปลงงบประมาณจากลบเป็นบวก

การใช้เม็ดเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีในประเทศโดยการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เช่น การผลิตวัสดุคอมโพสิต เซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี่ และระบบซอฟต์แวร์ในประเทศ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ ทั้งภาคแรงงาน ภาคบริการ และภาคการผลิต

2.การกระตุ้น GDP และลดค่าเสียโอกาส

งบประมาณที่ถูกใช้ในประเทศช่วยเพิ่มผลผลิตทางเศรษฐกิจได้หลายเท่า เมื่อเทียบกับการนำเข้ายุทโธปกรณ์จากต่างชาติที่ไม่เพียงแต่เป็นการสูญเสียเม็ดเงิน แต่ยังเสียโอกาสในการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี และบุคลากรในประเทศ

3.การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว

การพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ลดการพึ่งพาต่างชาติ และกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถส่งออกเทคโนโลยีเหล่านี้ไปยังประเทศพันธมิตรในอนาคต

ผลกระทบเชิงบวกต่อกองทัพและความมั่นคงของชาติ

1.การตอบสนองในระดับยุทธวิธี

ระบบยุทโธปกรณ์ที่พัฒนาในประเทศช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่สามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้ทันที เช่น การปรับปรุงเซ็นเซอร์ การอัปเดตแอปพลิเคชันทางยุทธวิธี และการรวมข้อมูลข่าวกรองเพื่อการตอบสนองที่แม่นยำ

2.การควบคุมในระดับยุทธการ

การบูรณาการระบบเซ็นเซอร์และซอฟต์แวร์ที่ผลิตในประเทศ ช่วยให้กองทัพสามารถควบคุมยุทธการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อจำกัดจากผู้ผลิตต่างชาติ

3.การสนับสนุนยุทธศาสตร์ระดับชาติ

เทคโนโลยีที่พัฒนาโดยคนไทยช่วยให้เกิดความร่วมมือระหว่างกองทัพและหน่วยงานต่างๆ ในระดับยุทธศาสตร์ เช่น การบริหารงานร่วมกันในภาวะวิกฤต และการป้องกันประเทศในระยะยาว

การเตรียมพร้อมเทคโนโลยีสำหรับอนาคต

1.การพัฒนาทักษะบุคลากรรุ่นใหม่

การลงทุนในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศช่วยสร้างบุคลากรที่มีทักษะสูงในเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI การพัฒนาเซ็นเซอร์ และซอฟต์แวร์ควบคุมยุทธการ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศในอนาคต

2.การสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืน

การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศช่วยสร้างนวัตกรรมที่สามารถประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น การบิน เทคโนโลยีสารสนเทศ และพลังงาน

3.การส่งออกเทคโนโลยีที่แข่งขันได้

การสร้างผลิตภัณฑ์ยุทโธปกรณ์ในประเทศช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก โดยไทยสามารถเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บทสรุป: ความมั่นคง เศรษฐกิจ และอนาคตของประเทศ

การพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในประเทศเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นคงทางการทหาร เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี การใช้งบประมาณเพื่อสนับสนุนการผลิตภายในประเทศไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังลดความเสี่ยงจากข้อจำกัดและเงื่อนไขของการจัดซื้อจากต่างชาติ


ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ ไทยจะสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็ว รักษาความลับทางยุทธศาสตร์ และส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว ความร่วมมือระหว่างกองทัพและอุตสาหกรรมในประเทศคือพื้นฐานของความมั่นคงที่ยั่งยืนและการสร้างอธิปไตยถาวรสำหรับประเทศไทยในยุคที่ความซับซ้อนของภูมิรัฐศาสตร์ทวีความสำคัญมา.


กำลังโหลดความคิดเห็น