“ทักษิณ” ลุยหาเสียง อบจ.เชียงราย ซัดพวกด่าเช้าด่าเย็น เหน็บสงสัยอยากได้เชือก เหน็บไอ้พวกควายมาหาว่าเอาตังค์จากไหน กูรวยมาตั้งแต่ปี 35-36 ลั่นปี 68 ยาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้องเอาให้เกลี้ยง การผูกขาดทุกรูปแบบต้องเอาให้หมด สั่งทุบค่าไฟลง คาด ได้ 3.70 บาท
วันนี้ (5 ม.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของ นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 ที่โรงเรียนปล้องวิทยา ว่า วันนี้ ตนใส่แว่นเพื่อปกปิดความแก่ จะได้ไม่รู้ว่าแก่ ตนอายุ 75 จะ 76 ปีแล้ว แต่ใจก็ยังนึกเป็นห่วงพี่น้อง วันนี้ได้มาเชียงรายอีกครั้ง ก็มาดูความเรียบร้อย วันนี้มาด้วย 3 เหตุผล เหตุผลที่ 1 คือ คิดถึงชาวเชียงราย ไม่ได้เจอกันมา 20 กว่าปี ที่มาที่นี่เพราะอยากจะมาหาชาวเชียงรายที่ไม่ได้เจอกันนาน เหตุผลที่ 2 คือ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นน้องรักของตน เป็นน้องที่สร้างพรรคมาด้วยกัน และตอนตนที่เป็นนายกฯ เขาก็เป็นเลขาธิการนายกฯ มาตลอด วันนี้ นายยงยุทธ ตัดสินใจว่า จะส่ง นางสลักจฤฎดิ์ ลงนายก อบจ. ที่มา ก็คือ มาสนับสนุน นางสลักจฤฎดิ์ ให้ชนะเลือกตั้ง และเหตุผลที่ 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นลูกสาวตน ตนก็มีหน้าที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นพรรคที่ตนสร้างมา วันนี้เลยตัดสินใจต้องมาเชียร์ นางสลักจฤฎดิ์ เต็มที่ และหวังว่า ประชาชนชาวเชียงรายจะเลือกเบอร์ 2
นายทักษิณ กล่าวว่า ตนก็ไม่ได้สนใจกับการเมืองท้องถิ่น เพราะก่อนหน้านั้น เป็นรัฐบาลมาจากพรรคใหญ่ เรามีกลไกในทุกกระทรวง แต่วันนี้เราไม่ได้มี ส.ส. 200 เหมือนเมื่อก่อน ในการเลือกตั้งสมัยหน้า ก็ขอให้คืน ส.ส. ให้กับพรรคเพื่อไทยให้หมด ดังนั้น พรรคเพื่อไทย จึงมองว่า การเมืองท้องถิ่นเป็นกลไกสำคัญ และตอนที่ตนกลับมา มานั่งดูปัญหาทุกเรื่อง สิ่งที่เคยแก้ไว้ในสมัยก่อน มันหาย หายไปหมด 17-18 ปีที่ตนไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ระบบเสียหายไปหลายอย่าง วันนี้เลยต้องมานั่งดูว่าจะทำอย่างไรบ้างที่จะทำให้ต่างจังหวัดฟื้นก่อน หากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดฟื้น มีกินมีใช้ อีกหน่อยเศรษฐกิจประเทศก็จะดี
“หมู่คนแอฟริกา ดำก็ดำ จมูกก็แหมบ หายใจก็ยาก โดนเขาจ้างไปเป็นนางแบบ เดินแบบครั้งหนึ่งเป็นล้านบาท เด็กบ้านเรายังหน้าตาดีกว่า ไม่ต้องไปทำจมูก เสริมกราม ต่อไปนี้เราจะคัดคนบ้านเราที่เป็นชนชาติไทย คนดอย คนกะเหรี่ยง ที่สวยธรรมชาติ ไม่ต้องไปเสียเงินทำจมูก เสริมนม ใครบุคลิกดีก็ส่งไปเป็นนางแบบระดับโลก”
นายทักษิณ ได้ถามพี่น้องที่มาฟังปราศรัยว่าใครเล่นติ๊กต็อกบ้าง 2-3 วันนี้ ตนว่างวันหยุดก็เลยนั่งดูตามโซเชียล “ไอ้พวกนี้นะ ชีวิตมันอีกนิดเดียวก็จะผูกคอตาย เพราะมันมองโลกแย่ไปหมด ตื่นมาก็เห็นว่าโลกไม่ดีแล้ว อีกไม่กี่วันจะส่งเชือกให้ ตื่นเช้ามาก็ด่ารัฐบาล บ่ายมาก็ด่ารัฐบาล ด่าอยู่นั้น มีอยู่ 4-5 ตัวที่ด่า พวกนี้สงสัยคงอยากได้เชือก แต่มีอยู่ไม่กี่คนตื่นเช้ามาก็ด่ารัฐบาล เหลือแต่ด่าพ่อด่าแม่ตัวมัน รู้สึกสมเพชคนพวกนี้ อยากจะเอามาฝึกอาชีพ แต่ดูท่าแล้วจะเป็นคนไม่ขึ้นซ้าง ทำนองว่ามีหลักไว้ให้แต่ไม่เลื้อยขึ้น เลื้อยลงตลอด เราเอาคนไทยทั้งหมดอยากขึ้นซ้าง งั้นเรามาทำซ้างให้คนไทยขึ้น”
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลประกาศไว้ เทคโนโลยีจะเสร็จเดือน มี.ค พอเสร็จแล้วเราก็จะโอนเงินให้คนที่มีอายุ 60 ลงมา ส่วนวันที่ 29 ม.ค. นี้ จะเป็นเงินให้สำหรับคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และจะให้คนหนุ่มสาวเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี เพราะอีกหน่อยการติดต่อกับรัฐบาลจะผ่านดิจิทัลวอลเล็ตหมด เงินไม่ใช่ทุกอย่างแต่เป็นเกือบทุกอย่าง ถ้าไม่มีเงินไม่รู้จะทำอย่างไร ใช้เงินสร้างเศรษฐกิจ สร้างความสุขในครอบครัว ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีก็ลำบาก ตนได้ไปพบกับคนๆ หนึ่ง เขามาหาตน บอกมีวันนี้ได้ เพราะสมัยที่ตนเป็นนายกฯ กลับมาวันนี้ตนเห็นประเทศทรุดไปมาก ถามว่า จะทำได้หรือไม่ ทำได้ แต่อาจจะยากหน่อย
นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไปถามคนในครอบครัวว่าใครจะอาสาเป็นนายกฯ นายกฯ อิ๊งค์ ลูกคนเล็ก ก็อาสาเพื่อจะเสียสละทำงานให้บ้านเมือง ที่ผ่านมา มีคนไปกระท่อนกระแท่น ว่า น.ส.แพทองธาร มีเครื่องแต่งตัวเยอะ เพราะนายกฯ อิ๊งค์ เป็นลูกคนสุดท้อง ตนเป็นคนหลงลูกสาว ตนจึงซื้อของแต่งตัวให้เยอะ มีอะไรก็ซื้อให้หมด ก็เลยมีของเยอะเพราะพ่อซื้อให้ ซื้อให้เอาใจแล้วปีนี้เลยต้องใช้งาน และมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนายกฯ แพทองธาร จะแก้ปัญหาประเทศรอบนี้ได้ ปีนี้ ปี 68 ประชาชนจะเห็นว่าเริ่มฝันได้ และปลายปีก็จะต้องฝันแล้วว่าปีหน้าเราจะทำอะไร ปี 68 ต้องเป็นปีที่ทุกคนขยันทำงาน ทั้งรัฐบาลและองค์กรท้องถิ่น รวมถึงจะจัดการให้เรียบทั้งปัญหายาเสพติด และ Call Center
ช่วงหนึ่งมีมวลชนตะโกนขึ้นมาบอกว่า ให้นายทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงตอบกลับว่า แก่แล้ว ขอสนับสนุนให้ลูกเป็น แล้วคอยส่งเสริมดีกว่า ได้ค่าช่วยหาเสียงวันละ 300 บาท วันนี้มา 3 เวที ได้เวทีละ 100 บาท มาลำบากก็ตอนแก่ เมื่อตอนไม่เล่นการเมืองก็สบาย มีเงินอยู่ 60,000 ล้านบาท พออยู่ไปอยู่มา ก็จนลงเพราะโดนยึดบ้าง โดนหาเรื่องบ้างสารพัดอย่าง
“ไอ้พวกควายพวกนี้ หาว่าผมไปเอาตังค์ที่ไหนมา ก็กูรวยตั้งแต่ปี 35-36 แล้ว ตอนนั้นผมรวยที่สุดในประเทศ แต่ตอนนี้จนพอๆ กับชาวเชียงราย” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ความคิดของคนไม่เหมือนกัน ตนมีความคิดแบบคนสมัยใหม่ คนรุ่นเก่าบางคนออกมาด่าตนสารพัด มีอยู่คนหนึ่งหาว่าตนสร้างความวุ่นวาย ตั้งแต่แพ้การเลือกตั้ง ตนเมื่อปี 44 ก็แค้นจนถึงทุกวันนี้ คนที่มาด่าตน เขตเลือกตั้งมี 450 คน เลือกเขาแค่ 47 คน แก่แล้วยังลงเลือกตั้งอยู่ แต่ตนพอแล้ว ไม่อยากอะไรแล้วช่วยประชาชนดีกว่า ทำงานให้บ้านเมือง ไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร ตอนตนเป็นชาวเกาะ แก่แล้วกลับมาเป็นชาวเกาะ เกาะเมียกิน ต้องยอมรับว่า ตอนนี้บ้านเราหนี้ประชาชนสูง หนี้ประเทศสูง ขอเวลาอีก 2 ปี หนี้ประเทศจะลดลง
นายทักษิณ กล่าวว่า บ้านเรามีเสือนอนกิน มีทุกที่ทุกวงการ กำลังนั่งไล่ให้รัฐมนตรีไปพูดกับข้าราชการ ก็มีคำแก้ตัวสารพัด นายกฯ ก็ไปพูดกับรัฐมนตรีว่าต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้จะเปลี่ยนคนมาแทน รัฐมนตรีจึงจะกระเตื้อง อย่างเช่น เรื่องข้าว เรื่องไฟฟ้า ปีนี้ค่าไฟฟ้าจะต้องลงไปอยู่ที่เลข 3 ไม่ใช่เลข 4 ใจตนอยากให้เหลือ 3.50 บาท แต่คงได้แค่ 3.70 บาท กำลังให้เค้าช่วยทุบอยู่ ปีนี้ค่าไฟลงแน่ เห็นตัวเลขแล้วทุบได้ ต่อไปค่าอาหารสัตว์ ค่าปุ๋ย ค่ายา ก็จะให้ลง เรื่องนี้จะต้องทำให้เป็นจริงภายในปีนี้ให้หมดทุกอย่างถึงบอกว่า ปีนี้รัฐบาลต้องทำงานหนัก 1. ยาเสพติด ต้องเอาให้เกลี้ยง 2. Call Center ต้องเอาให้เกลี้ยง 3. การผูกขาดทุกรูปแบบต้องเอาให้หมด เพื่อให้พี่น้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตต่ำลง ทำรายได้ให้ดีขึ้น มีโอกาสดีขึ้น ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในปี 68
จากนั้นได้มีชาวบ้านตะโกนขึ้นมาบอกนายทักษิณให้ข่วยเหลือเรื่องที่ดินทำกิน นายทักษิณ จึงตอบกลับไปว่า ส่วนเรื่องโฉนดที่ดินทำกินทั้งหลาย กำลังคุยกันอยู่ อย่างที่ดิน สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) จะให้เป็นแค่โฉนด ส.ป.ก.ไม่ได้ แต่ต้องเปลี่ยนเป็นโฉนดจริง ที่สามารถทำมาหากินได้ ส่วนที่ถูกนายทุนยึดไป ถ้ายึดไปได้ก็ยึดคืนมา แต่ถ้าเขาเอาไปสร้างสิ่งปลูกสร้างแล้ว ก็ต้องให้เขาเสียค่าเช่า เพราะเจตนารมณ์ของ ส.ป.ก. เพื่อที่จะช่วยชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินและไม่มีเอกสารสิทธิที่แน่นอน
ทั้งนี้ เชื่อว่า รัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาประเทศได้ไม่เกินมือ แต่ยาก เมื่อก่อนต่างจังหวัดบ้านเรายังโอเคมันพังแค่ที่กรุงเทพฯแต่ตอนนี้มันพังทั้งประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมวลชนที่เดินทางมาร่วมฟังนายทักษิณปราศรัยในเวทีนี้ มีกว่า 10,000 คน โดยเดินทางมาจาก 4 อำเภอ คือ อำเภอเทิง อำเภอพญาเม็งราย อำเภอขุนตาล และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย