“จักรภพ เพ็ญแข” พา “ป๊อป สุไพรพล” คู่ชีวิต เข้าพบ “ทักษิณ” ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ขอคำปรึกษาเรื่องฤกษ์ยาม-รูปแบบการจดทะเบียนสมรส และฉลองแต่งงาน โอ่ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เป็นผลงานเด่นของพรรคเพื่อไทย ที่ผลักดันมายาวนาน
วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพในเฟซบุ๊ก “จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair” เป็นภาพการเข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า พร้อมระบุข้อความว่า “ป๊อปกับเอก-จักรภพ ขอคำปรึกษาจากท่านนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย ดร.ทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสและการฉลองแต่งงานของเรา ท่านน่ารักมาก เมตตาเต็มที่ ให้คำปรึกษาอย่างผู้ใหญ่ในครอบครัวทั้งในเรื่องวัน เวลา รูปแบบ แม้แต่ฤกษ์ผานาที และเล่าเรื่องของบ้านเมืองและการเผชิญภัยของรัฐบาลอยู่นาน บ้านจันทร์ส่องหล้ามีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ เมื่อมีท่านกลับมาเป็นเสาหลักให้กับทุกคนอย่างนี้”
ทั้งนี้ เมื่อวานที่ผ่านมา นายจักรภพ พร้อมด้วย นายสุไพรพล ช่วยชู หรือ ป๊อป คู่ชีวิต ได้เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร เพื่อเรียนเชิญเป็นสักขีพยานในการจดทะเบียนสมรส ตาม พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 22 ม.ค. 2568 นี้
นายจักรภพ กล่าวว่า ได้ขอคำปรึกษานายทักษิณ เกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสและการฉลองแต่งงาน ในฐานะที่นายทักษิณเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ที่บทบาทสำคัญในการผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในนามพรรคเพื่อไทย จนนำไปสู่ประกาศใช้ในวันที่ 22 ม.ค.นี้ นับเป็นวันประวัติศาสตร์ของประเทศไทยและโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความหมายมาก เพราะว่าคนเพศเดียวกันหรือที่เรียกว่า LGBTQ+ ก็สามารถจดทะเบียนสมรสได้ เหมือนกับมนุษย์คนอื่นในโลกนี้ เพื่ออยู่ภายใต้ระบบกฎหมายเดียวกัน
นายจักรภพ กล่าวอีกว่า ได้คบหาดูใจกับนายสุไพรพล มายาวนานกว่า 23 ปี พอๆ กับ การผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เมื่อปี 2544 ที่รัฐบาลนายทักษิณเริ่มเสนอแนวคิดให้คนรักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสได้ตามกฎหมาย แต่ต้องยุติลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกระแสสังคมต่อต้าน รัฐบาลจึงมองเห็นว่าสังคมไม่พร้อม เรื่องนี้จึงตกไป ต่อมา ปี 2555 มีการเรียกร้องจากกลุ่ม LGBTQ+ ต้องการจดทะเบียนสมรส แต่ถูกปฏิเสธ จึงได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาในปี 2556 สมัยรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีผลักดันให้มีกฎหมายรองรับของกลุ่ม LGBTQ+ อีกครั้ง โดยได้ยื่นเสนอร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต เพื่อให้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่สำเร็จ และยุติลงในปี 2557 หลังจากนั้น ก็มีการเคลื่อนไหวจากภาคประชาชนและพรรคการเมือง และกระแสโลก ที่เรียกร้องสมรสเท่าเทียม และมีการเดินหน้าอย่างจริงจัง จนนำไปสู่การออก พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในสมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และจะประกาศใช้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการ ในรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร