หนาวกว่าอากาศก็ "ดิไอคอน ภาคต่อ" นี่ละ "บอสพอล" ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง!! ** เดือด!! “เด็กชวน” สวนกลับ “เด็กแม้ว” ท้าปรับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

ข่าวปนคน คนปนข่าว


++ หนาวกว่าอากาศก็ "ดิไอคอน ภาคต่อ" นี่ละ "บอสพอล" ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง!!

คืบหน้าคดี "ดิไอคอน" ฟังว่าจะประเดิมปีใหม่ไม่จบอยู่แค่ "18 บอส" มี "ภาคต่อ" มาแน่

เพราะนี่ยืนยันจากปากของ “พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ” ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ “ดีเอสไอ” เอง

จากที่ ดีเอสไอ ได้สรุปสำนวนคดีพิเศษ ที่ 119/2567 กรณี การดำเนินคดีอาญากับ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก หรือ แชร์ลูกโซ่ โดยมีการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 18 ราย และ 1 นิติบุคคล ต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษ ในฐานความผิด ฉ้อโกงประชาชน , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ , พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545


อัยการได้ตรวจสอบรายละเอียดสำนวนแล้ว ยังไม่มีการตีกลับสำนวนแต่อย่างใด มีเพียงการขอให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการสรุปประเด็นรายละเอียดทั่วไป เนื่องจากเอกสารค่อนข้างมีจำนวนมาก

ภาคต่อที่ว่า มาแน่ คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการขยายผลและวิเคราะห์จากข้อมูลทั้งหมดที่มี ทั้งข้อมูลคำให้การจากพยานทั้ง 7,000 กว่าราย มาตรวจสอบความเชื่อมโยง ประกอบกับข้อมูลหลังบ้านของ บริษัทฯ ที่ดีเอสไอ ได้ลงไปตรวจค้น และตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุมา เพื่อให้เห็นโครงสร้างของการจ่ายผลตอบแทน การรับผลตอบแทน
การลงทุนเปิดบิล การชักชวนคนอื่นมาเป็นแม่ทีม เพื่อค้นหาบุคคลที่มีบทบาทเป็นตัวกลาง หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับ ดิไอคอนฯ นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง18 ราย


เพื่อพิจารณาตามองค์ประกอบว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอต่อการดำเนินการ หรือไม่ รวมถึงจะต้องมีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกหรือไม่ จึงจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน

ตอนนี้ใครที่อยู่ในข่ายใจก็ต้องเต้นๆ ตุ้มๆ ต่อมๆ ก็ต้องบอกว่า หนาวกว่าอากาศก็เป็น 'หมายเรียก' หรือ 'หมายจับ' ที่จะตามมา
แน่นอนว่า กลุ่มคนเหล่านี้ มีทั้งที่เคยมีข่าวพัวพันก่อน และเป็น "ตัวละครลับ" ที่สังคมไม่เคยรับรู้มาก่อน ต้องรอเวลา “ดีเอสไอ” สแกนขยายผลดังว่า

ระหว่างที่ ดีเอสไอ ยังสแกนไม่ชัดไม่เสร็จย่อมมีคนที่เหล่าโซเชียลฯ ทั้งหลายคอยชี้เป้า และ คนที่ "บอส" ทั้งหลายให้การต่อเจ้าหน้าที่สอบสวน

ที่เป็นกระแสมาแรงก่อนจะสิ้นปีที่แล้ว ก็อย่าง เช่น "ดีเจปากกล้า" ที่ว่ากันว่า "บอสพอล" วรัตน์พล วรัทน์วรกุล แค้นนักหนา เพราะ เอาดีใส่ตัว โยนชั่วมาให้เต็มๆ เพื่อเอาตัวรอด

ทั้งๆ ที่รับผลประโยชน์จาก “ดิไอคอน” ตอนสมัยอู้ฟู่ รวมแล้วเป็นเงินกว่า 10 ล้าน!

ส่วนคนอื่นๆ ใครจะเป็นผู้โชคดีถูกหวยดีเอสไอ ต้องคดี “ดิไอคอน ภาคสอง” ก็โปรดติดตามอย่ากระพริบตา

งานนี้ ที่เรียกกันว่า "บอสพอล" ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ช่างขลังเสียนี่กระไร


++ เดือด!! “เด็กชวน” สวนกลับ “เด็กแม้ว” ท้าปรับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

กรณี “ชวน หลีกภัย” อดีตประธานรัฐสภา และสส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมือง ในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

ช่วงหนึ่ง นายชวน ได้เตือนสติ “ทักษิณ ชินวัตร” เพื่อให้รู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ จาก 8 ปี เหลือ 1 ปี ซึ่งยังไม่มีใครเคยได้รับอย่างนี้มาก่อนเลย แต่ทำไมนายทักษิณ ยังหาทางเลี่ยงออกไป โดยไม่ยอม “ติดคุก” แม้แต่วันเดียว และยังสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง


เรื่องนี้ “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาตอบโต้นายชวน ว่า ดีแต่พูด หลงยุค ไม่ปรับตัว วิพากษ์วิจารณ์ด้วยอคติ เหมือนแผ่นเสียงตกร่อง... ทำตัวเป็นฤาษี ขึ้นธรรมาสน์ แต่ไม่ล้างเท้า มือถือสากปากถือศีล!!

ขณะที่ “พายัพ ปั้นเกตุ” ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (ภูมิธรรม เวชยชัย)นั้น ถึงกับออกปากไล่ “ชวน” กลับไปกวาดบ้านตัวเอง ทำความสะอาดพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะกลายเป็น “พรรคต่ำสิบ” ... นิสัยเดิมๆของนายชวน ไม่เคยเปลี่ยน ชอบยกตนข่มท่าน มองตัวเองดีเหนือใครๆ ดีอยู่คนเดียว นี่แหละที่ทำให้ประชาธิปัตย์อยู่ในสภาพ สาละวันเตี้ยลง ต่างจาก “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ห่วงใยบ้านเมือง จะทำอะไรก็ทำตามกฎหมาย ตามกรอบรัฐธรรมนูญ

ไม่เพียงด้อยค่า “นายชวน” แถมยังเชิดชู “ทักษิณ” เสียอีก

ทำให้ นายราเมศ รัตนะเชวง อดีตเลขานุการประธานรัฐสภา ในฐานะเลขานุการ นายชวน หลีกภัย ออกมาสวนกลับ “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ว่าเป็น “ลิเกโสโครก”


...นายชวน ไม่ได้เป็นฤาษี ไม่ได้เป็นพระ ไม่ต้องขึ้นธรรมาสน์ แต่มือสะอาด ซื่อสัตย์ ไม่โกงกินชาติบ้านเมืองแน่นอน เท้าที่ไม่สะอาด คือเท้าที่ไปพยายามวิ่งเต้นศาล ข่มขู่ทำลายศาล ทำตัวสกปรก ให้แปดเปื้อนกระบวนการยุติธรรม เท้าที่พยายามวิ่งเต้นข่มขู่ตุลาการ สกปรก ยากที่จะล้างออก นั่นถึงจะต้องเรียกว่าไร้ยางอายของแท้!!

ที่ “ราเมศ” ยกเรื่องข่มขู่ศาลมาตอบโต้ เพราะ “เด็จพี่” เคยถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปี ในคดีหมิ่นประมาท “วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์” อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วน “พายัพ” ก็เคยติดคุก 4 ปี ในคดีขัดขวางการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่พัทยา เมื่อปี 2552
“ราเมศ” บอกว่า คงเป็นเพราะคำพูดของ “ชวน หลีกภัย” ไปจี้จุดสลบรัฐบาลเข้าให้ จึงส่งลิ่วล้อออกมาตอบโต้ พูดจาให้ร้าย “นายชวน” แล้วไปเชิดชู “ทักษิณ”

“...นายชวน ไม่เคยติดคุกคดีทุจริต นายชวนเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ในคดีนายทักษิณฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท แม้เหลืออายุความเพียง 2 วัน ส่วนนายทักษิณหนีคดี หนีกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีรัฐมนตรีที่ติดคุกมากที่สุด... และรัฐบาลชุดนี้ จะพังเพราะคนชื่อทักษิณ...”

“ราเมศ” ยังออกปากท้าว่า ถ้าไม่พอใจก็ให้ “ทักษิณ” สั่งนายกฯ ปรับพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้เลย !!

ก็ถือว่าเป็นการปะทะเดือด รับปีใหม่ ระหว่าง “เด็กชวน” กับ “เด็กทักษิณ” แต่เรื่องจะปรับพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากพรรคร่วมนั้น คงไม่

เพราะวันนี้ กลุ่มของ “นายชวน” เป็นเสียงข้างน้อยถึงน้อยมาก ในพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนคนที่มีอำนาจคือ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน- เดชอิศม์ ขาวทอง -ชัยชนะ เดชเดโช” ซึ่งในสายตาคนกลุ่มนี้ “ทักษิณ” ทำอะไรก็ดี ก็ถูกต้องไปหมด