xs
xsm
sm
md
lg

ระหว่าง "นพดล" กับ "สนธิ-ปานเทพ" เชื่อใครดี !? คำถามที่ทุกคนก็รู้คำตอบ ** “เสี่ยเท้ง”ถูกใจ ฉายา“เท้งเต้ง” ส่วน“ลุงป้อม-แก้วตา”ไม่รู้พอใจหรือไม่ที่ได้ฉายา “ดาวดับ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สนธิ ลิ้มทองกุล - ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ - นพดล ปัทมะ
ข่าวปนคน คนปนข่าว




++ ระหว่าง "นพดล" กับ "สนธิ-ปานเทพ" เชื่อใครดี !? คำถามที่ทุกคนก็รู้คำตอบ

ประเด็นร้อนเรื่อง "MOU 2544" ที่ สนธิ ลิ้มทองกุล- ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และคณะ ได้ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อให้เพิกถอน
รัฐบาลเพื่อไทย นอกจากตีมึน โบ้ยใบ้ให้ข้าราชประจำตอบ ยังมอบ "นพดล ปัทมะ" อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และที่ปรึกษากฎหมายของตระกูลชินวัตร ซึ่งปัจจุบันเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มาหน้าที่ "ตอบโต้" และ"ด้อยค่า" ภาคประชาชน

“นพดล” มั่นหน้ามั่นตาว่ารัฐบาลตอบได้ทุกข้อพร้อมกับตีฝีปาก ฝากคำถามให้คิดว่า ระหว่าง “สนธิ-ปานเทพ” กับ กรมสนธิสัญญาฯ จะเชื่อใคร !?

สนธิ ลิ้มทองกุล
แหม..นักการเมืองพอได้พล่าม ก็ลืมดูเงาตัวเอง

คำถามนี้ยังไม่ต้องไปถึงรายละเอียด หรือ กรมสนธิสัญญาฯ เอาแค่ถามว่า ระหว่าง “นพดล” คนพูด กับ “สนธิ-ปานเทพ” คนไทยจะเลือกเชื่อใคร!?

เชื่อว่า ทุกคนรู้คำตอบอยู่แก่ใจ เอาแค่วันที่ “นพดล” ออกมาพูดเรื่อง MOU44 ถ้า “นพดล” ลองไถฟีดดูคอมเมนต์ อ่านความเห็นของประชาชนตามสื่อโซเชียลฯ ก็คงจะรู้ว่าประชาชนเขาคิดยังไงกับตัวเอง

“นพดล” จะยอมรับหรือไม่ว่า ในสายตาของประชาชนตัวเองถือเป็นโมฆะบุรุษ ที่ไม่เหลือความน่าเชื่อถือไปแล้ว

ประการสำคัญ กรณี “เขาพระวิหาร” นพดล พยายามพูดผ่านสื่อหลายครั้งว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ในกรณีที่ถูกกล่าวหาว่า ดำเนินการเรื่องปราสาทพระวิหาร

อ้างว่าศาลฎีกาตัดสินว่าไม่ผิด

ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
แต่ “นพดล” พูดไม่หมด พูดเฉพาะท่อนเอาดีใส่ตัว เพราะนั่นคือคดีกล่าวหาเรื่องของการทุจริตต่อหน้าที่ แต่ไม่ได้แปลว่า “นพดล”ไม่ได้ทำผิด

เพราะอีก 2 คดี คือ คดีของศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองสูงสุด ได้วินิจฉัยเสร็จสิ้นไปแล้วว่า กรณีที่ “นพดล” ไปลงนาม ในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อยกปราสาทพระวิหารและพื้นที่ของไทยบางส่วน ให้เป็นมรดกโลกของกัมพูชาฝ่ายเดียว เมื่อปี 2551 นั้นไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา

และที่ตัดสินไม่ให้ “นพดล” ผิดในคดีอาญาในชั้น ป.ป.ช. เพราะเห็นว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำความผิดต่อรัฐธรรมนูญ เท่านั้น
นี่คือสิ่งที่ “นพดล”ตีหน้าเศร้าเล่าความโกหกประชาชน แต่คนส่วนใหญ่ เขาก็รู้ทัน

“นพดล”ลืมตัว เพราะโดยสถานะจริงๆ มีตำแหน่งเป็นแค่ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร แต่กลับอ้างโน่น อ้างนี่ บอกยึดตามพระบรมราชโองการฯ ของในหลวงรัชกาลที่ 9

แต่ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ ทักษิณ ชินวัตร ผู้พ่อหรือ “นายกฯตัวจริง” กลับพูดมาตลอดหลายครั้งว่า ถ้าตกลงเรื่องเขตแดนกับกัมพูชาไม่ได้ ให้แบ่งกัน ?

แปลว่า รัฐบาลไทยจะไม่ได้ยึดตามพระบรมราชโองการตามที่ “นพดล” พูดเลย

ที่ประชาชนรับไม่ได้เลย คอมเมนต์ ด่าน “นพดล” รัวๆ ก็คือถ้านพดล แน่จริง แน่ใจว่าพูดความจริง “สนธิ-ปานเทพ” พูดไม่จริง ทำไมเมื่อรายการโทรทัศน์ หรือช่องแต่ละช่อง ที่เคยจะเชิญ “นพดล” ไปออกรายการ ซึ่งตัวเองก็รับปาก แต่พอรายการบอกว่าจะเชิญ “ปานเทพ” ไปร่วมพูดคุยด้วย นพดลกลับปฏิเสธ บอกปัดตลอด

ยกตัวอย่าง รายการของไทยพีบีเอส สองครั้ง ล่าสุด รายการของแนวหน้าออนไลน์ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่าน

ที่สำคัญทำไมรัฐบาลไม่เอา “นพดล กับ กระทรวงการต่างประเทศและข้าราชการ” มาขึ้นเวทีสาธารณะ ชี้แจงให้ความรู้กับประชาชน ผ่านช่องทางไหนก็ได้ ของรัฐบาลก็ได้ ของ NBT ก็ได้ ช่อง 5 ก็ได้ ช่อง 3 ก็ได้ ช่อง 7 ก็ได้

สรุปว่า “นพดล”ทำตัวเป็น “เต่าหัวหด" ปากกล้าแต่ขาสั่น ไม่กล้าดีเบตความจริงให้ประชาชนรับรู้

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
++ “เสี่ยเท้ง”ถูกใจ ฉายา“เท้งเต้ง” ส่วน“ลุงป้อม-แก้วตา”ไม่รู้พอใจหรือไม่ที่ได้ฉายา “ดาวดับ”

สองสามวันก่อน สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายารัฐบาล ฉายานายกฯ และบรรดารัฐมนตรี ... “เสี่ยเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร บอกไม่อยากวิจารณ์ แต่อยากรู้ว่าตัวเองจะได้รับฉายาอะไรมากกว่า จะได้เป็นข้อคิดเอาไปปรับปรุงการทำงาน

วันนี้ สื่อประจำรัฐสภา จัดให้แล้วว่า ...“เท้งเต้ง” ที่มีความหมายว่า ลอยไป ลอยมา แบบไร้ทิศทาง ไร้จุดหมาย

สื่อรัฐสภา ขยายความไว้ว่า การทำงาน-พฤติกรรม ของผู้นำฝ่ายค้านฯป้ายแดง ที่ถูกมองว่า ไม่เป็นโล้เป็นพาย ลูกพรรคหลายคนยังดูโดดเด่นกว่า การทำงานก็เหมือนเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว แม้จะ “มีพรรคลุงป้อม” มาเสริมทัพ แต่กลับไร้แนวร่วม กลายเป็นฝ่ายค้านโดดเดี่ยว บทบาทในสภา ก็เอาแต่จะเสนอกฎหมาย จะแก้รัฐธรรมนูญ ไม่คิดตรวจสอบฝ่ายบริหาร จนถูกมองว่า สภาชุดนี้ไม่มีฝ่ายค้าน!

อย่าว่าแต่บริหารพรรค บริหารฝ่ายค้านเลย แม้แต่ “บริหารเสน่ห์” ตัวเองยังทำไม่เป็น ถูก“เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ปาดหน้าเอาไปกินหมด ... ไปดูได้ ป้ายหาเสียง อบจ. ที่กำลังคึกคักในตอนนี้ มีแต่ผู้สมัคร ถ่ายรูปคู่กับ “เสี่ยทิม” พิธา ไม่เห็นมีใครอยากถ่ายรูปขึ้นป้ายหาเสียงคู่กับ “เสี่ยเท้ง” ทั้งที่เป็นหัวหน้าพรรค ...นี่แหละจึงเป็นที่มาของฉายา “เท้งเต้ง”

ลองไปฟังคำพูดหลังได้ฉายานี้ ... “เสี่ยเท้ง” บอกว่า พรรคประชาชนโดดเดียวนั้น ที่จริงไม่ได้โดดเดี่ยว เราพร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรค (แต่บางพรรคเขาไม่มาเอง) ... ส่วนที่ว่าพรรคประชาชนเอาแต่เสนอกฎหมาย ก็ล้วนเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งนั้น...

ธิษะณา ชุณหะวัณ
ทั้งด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม ปลดล็อกที่ดิน การปฏิรูปกองทัพ ทำยังไงให้เดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ เป็นครั้งสุดท้ายของการบังคับเกณฑ์ทหาร

ที่ว่าเราทิ้งการตรวจสอบ ก็ไม่จริง เพราะเดี๋ยวเราก็จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่แล้ว ถ้าใครมีข้อมูล เห็นว่ารัฐบาลทุจริตเรื่องอะไร ส่งข้อมูลมาได้เลย พรรคประชาชนพร้อมจะเป็นปาก เป็นเสียงให้

ส่วนที่เอาตนเองไปเปรียบเทียบกับ “เสี่ยทิม” พิธา นั้น “เสี่ยเท้ง” บอกว่า เรื่องกระแสความนิยม มีขึ้น ก็มีลง เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ได้ห่วงหรือกังวลในเรื่องนี้

ก่อนจบการแสดงความเห็น “เสี่ยเท้ง” บอกว่า ฉายาที่สื่อรัฐสภาให้มาทั้งหมดนั้น ชอบทุกฉายา แต่ ชอบฉายา “เท้งเต้ง” ของตัวเองมากที่สุด เพราะสะท้อนการทำงานของตนเองได้ตรงจุด

ก็ไม่รู้ว่าชอบจริงๆ หรือชอบแบบประชดประชัน

สำหรับ “วุฒิสภา”ก็น่าสนใจเช่นกัน โดยได้รับฉายา “เนวิ(น)เกเตอร์” ส่วนประธานวุฒิสภา “มงคล สุระสัจจะ” ได้รับฉายา “ล็อกมง”

ฉายา“เนวิ(น)เกเตอร์” มีคำอธิบายว่า จากผลการลงมติอย่างสม่ำเสมอของ สว.ในเรื่องต่างๆ ที่จะเกาะกลุ่ม 150-160 เสียง ซึ่งถูกมองเป็นเครือข่ายสายตรงพรรคการเมือง “สีน้ำเงิน” สะท้อนให้เห็นว่า เบื้องหลังการลงมติ มีบ้านใหญ่บุรีรัมย์ เป็น “เนวิเกเตอร์” ชี้นำอยู่เบื้องหลัง

ส่วนฉายา “ล็อกมง” ของประธานมงคล ก็เป็นเพราะมีกระแสมาตั้งแต่ไก่โห่ว่า ประธานวุฒิสภา ต้องเป็นคนนี้เท่านั้น แล้วตอนเลือกก็มติท่วมท้น 159 เสียง

ประธาน “ล็อกมง” พูดถึงฉายาที่ได้รับว่า แค่ น้องๆ หยอกเล่น ไม่คิดอะไร ยังตั้งใจทำงานเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือปีหน้าจะพบปะประชาชนมากขึ้น... ส่วนฉายาวุฒิสภา เนวิ(น)เกเตอร์ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ทุกคนล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ วัยวุฒิ ทุกคนมีอิสระทางความคิด และที่สำคัญเรา ทำเพื่อประเทศชาติกันอยู่แล้ว

อีกฉายาที่ได้รับความสนใจคือ "ดาวดับ" แห่งปี 2567 รอบนี้ มี 2 คน คือ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ “แก้วตา” ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน

“ลุงป้อม”นั้นบารมีหด หลังถูกเขี่ยไปเป็นฝ่ายค้าน แถม “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” คนนี้ ยังถูกร้องเรียนเรื่องจริยธรรม เพราะโดดประชุม 84 ครั้ง จากนัดประชุม 95 ครั้ง แบบว่า มาเซ็นชื่อแล้วชิ่ง ถูกแฉจะจะแบบนี้ เลยหนีไม่พ้น “ดาวดับ”

ส่วน “สส.แก้วตา” ธิษะณา หลานปู่ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 17 ของไทย แม้พรรคประชาชนจะพยามโปรโมต แต่เข็นไม่ขึ้น ... เวลาอภิปรายในสภา ตัวเลขหลักสิบ หลักร้อย เธอพออ่านได้ แต่พอเจอหลักร้อยล้าน พันล้าน ถึงกับไปไม่เป็น ออกอาการเอ๋อเลยอ่ะ แถมยังอินกับเรื่อง สิทธิเสรีภาพเกินเบอร์ ถึงขนาดให้รัฐบาล รับรองสิทธิชาวเมียนมา หนีสงคราม จนถูกโซเชียลฯ เปลี่ยนชื่อพรรค ว่าเป็น # พรรคประชาชนพม่า และ ถูกแซวว่า เธอผู้นี้เป็น สส.ราชเทวี หรือ สส.หงสาวดี กันแน่ ? แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เป็น “ดาวดับ” ได้ไง

แบบว่าทั้ง “ลุงป้อม” และ “แก้วตา”คุณสมบัติกินกันไม่ลง สื่อรัฐสภาเลยต้องมอบฉายาให้ทั้งคู่ แต่เจ้าตัวจะยินดีหรือเปล่าก็ไม่รู้


กำลังโหลดความคิดเห็น