ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ “พรรคลุงป้อม” เล่นบทไม่เต็มใจค้าน หวังรอเสียบ หลัง“รทสช.” ส่อถูกตะเพิด !?
ความระหองระแหงในพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย นั้น “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ตอนนี้ใหญ่คับประเทศ บอกว่าก็เหมือน “ลิ้นกับฟัน” แม้จะกระทบกระทั่งกันบ้างแต่ก็ยังต้องอยู่คู่กัน
เพื่อเป็นการยืนยันคำพูดที่ว่า จึงมีการปล่อยภาพ “ทักษิณ” กับ “อนุทิน ชาญวีรกูล”หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปออกรอบตีกอล์ฟกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ความสัมพันธ์ของคู่นี้ จึงเป็นไปในลักษณะ “ตบจูบ ตบจูบ” เสียมากกว่า !!
ต่างจาก “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่ออกไปในแนวมึนตึงต่อกัน หลัง “ทักษิณ”ออกปากไล่ “พรรคอีแอบ” ซึ่งนักวิเคราะห์การเมืองมองว่า พรรคนี้แหละเป็นพรรคที่ “ทักษิณ” กำลังจะหมดความอดทน
เพราะระยะหลังมานี้ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจ ไม่ตอบสนองต่อสัญญาณจากพรรคเพื่อไทย มากนัก
ในอนาคตข้างหน้า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือนเมษายนนี้ อาจมีการปรับครม. แล้วรวมไทยสร้างชาติ อาจถูกเขี่ยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ก็เป็นได้
ดังนั้น หากจะต้องหาพรรคอะไหล่มาแทนที่ ก็คงต้องมองไปที่ “พรรคพลังประชารัฐ” ของ“ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
อย่าไปมองว่า ไม่มีทาง เพราะ “ทักษิณ” กับ “ลุงป้อม” เป็นเหมือนเป็นขมิ้นกับปูน ไปกันไม่ได้
แต่ต้องไม่ลืมว่า สถานการณ์ภายในของพรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้ ก็ไม่ได้เป็นเอกภาพ หรือรักกันดูดดื่ม แต่ที่อยู่กันได้เพราะ “ผลประโยชน์ลงตัว” ต่างหาก ดังนั้นอย่าไปมองว่า เป็นไปไม่ได้
ดู พรรค รทสช. เป็นตัวอย่างก็ได้ ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นพรรคของ “ลุงตู่ กับ ลุงกำนัน” ที่เคยชุมนุมขับไล่ แล้วก็ปฏิวัติ รัฐประหาร “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ทำไมยังมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล กับเพื่อไทยได้... ก็เพราะต้อง “ทำเพื่อชาติ” ไง
คราวนี้ลองมาส่องกล้อง เพ่งพิศ พรรค พปชร. กันให้ดีๆ จะเห็นว่า สถานการณ์ระส่ำระสายภายในพรรคก่อนหน้านี้ เริ่มนิ่งแล้ว หลังมีมติขับ 20 ส.ส.ในกลุ่มของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ออกจากพรรคอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ สส.กลุ่มนี้ก็ได้ไปเข้าสังกัด “พรรคกล้าธรรม” เรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้ พลังประชารัฐเหลือ สส.อยู่ 20 คน ทำหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน ร่วมกับพรรคประชาชน แต่ดูเหมือนเป็นฝ่ายค้านแต่ในนาม ไม่ได้ทำหน้าที่ “ตรวจสอบ” รัฐบาลอย่าง แข็งขัน ขึงขัง และ ก็ไม่ได้ทำตัวเป็น “ฝ่ายแค้น”
ก็ตอนหาเสียงเลือกตั้งพรรคประชาชน ซึ่งก็คือพรรคก้าวไกลเดิม บอกว่า “มีลุง ไม่มีเรา ...มีเรา ไม่มีลุง” แล้วตอนนี้ “ลุงกับเรา” จะมาร่วมมือกันได้อย่างไร ผลประโยชน์อะไรก็ไม่มี
ดังนั้น ตอนนี้ พปชร. เหมือนใส่เกียร์ว่าง !!
ก็ขนาด “เสี่ยเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ นัดพรรคร่วมฝ่ายค้าน ดินเนอร์ ที่ร้านเอิกเกริก ริมน้ำเจ้าพระยา เมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อหารือเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังไม่มีระดับแกนนำพรรคพปชร.เข้าร่วมเลยซักคน
ฉะนั้น อย่าได้คาดหวังว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเที่ยวนี้ จะมีทีเด็ด หรือลำหักลำโค่นจากพรรคลุงป้อม
ไม่ได้ปรามาส แต่เป็นเพราะ... ไม่เต็มใจ ไม่มีตัว และ ไม่มีข้อมูลอีกต่างหาก!!
อีกทั้งหลายคน ก็มีมีดปักหลังอยู่ ซึ่งสามารถแทงตัดขั้วหัวใจได้ทุกเวลา จึงออกอาวุธไม่ได้เต็มที่
สำหรับตัว “ลุงป้อม” ก็เช่นกัน อย่าได้หวังว่าจะยึดมั่นในอุดมการณ์ หรือยังเอาเรื่องแค้นฝังหุ่น มาเป็นอารมณ์ เพราะการทำงานการเมืองนั้น การเป็นฝ่ายรัฐบาล ย่อมดีกว่าเป็นฝ่ายค้านหลายเท่าตัว มิเช่นนั้นพรรคประชาธิปัตย์ คงไม่ยอมพับเก็บหลักการ เอาไว้ใต้ฐานพระแม่ธรณี เพื่อไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
ดังนั้น บทบาทการเป็นฝ่ายค้านของพรรคพลังประชารัฐในวันนี้ จึงจำเป็นต้องเล่นหลายหน้า เป้าหมายคือ รอวันเข้าร่วมรัฐบาล
++ ทุกคน...พี่บัว เป็น “ผู้กองบัวขาว” แล้ว
ยินดีปรีดาไปกับยอดมวยไทย "บัวขาว บัญชาเมฆ" ด้วยกับการเติบโตบนเส้นทางการรับราชการทหารไปอีกขั้น
เมื่อเจ้าตัวบอกกล่าวให้เอฟซีได้ทราบ ในเฟซบุ๊ก Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) โดยโพสต์ภาพรับการประดับยศเป็น "ร้อยเอก สมบัติ บัญชาเมฆ" พร้อมระบุข้อความว่า “ทุกคน...พี่บัว เป็น ‘ผู้กองบัวขาว’ แล้ว”
ที่มาของภาพดังกล่าว เป็น “พลโท ทวีพูล ริมสาคร” ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน และ “พลตรี เกษม ตราชู” ผู้บัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาชั้นสูง ตามลำดับ ทำพิธีประดับยศ "บัวขาว" เป็น “ร้อยเอก สมบัติ บัญชาเมฆ” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 1465/2567 เรื่อง เลื่อนยศนายทหารสัญญาบัตร ด้วยผลงานการรับราชการที่ภูมิใจที่สุด คือ งานของบัวขาว เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์กองทัพบก คือ นำมวยไทยไปใช้ในการฝึกของกองทัพบก และการฝึกผสม และการฝึกร่วม/ผสม กับกองทัพต่างประเทศ
จากปี พ.ศ.2566 เข้าร่วมการฝึกร่วม/ผสม คอบร้าโกลด์ และการฝึกผสมรหัสหนุมานการ์เดียน ระหว่างกองทัพบกไทย และกองทัพสหรัฐอเมริกา
ตามด้วย พ.ศ.2567 ปีนี้ที่ เข้าร่วมการฝึกร่วม/ผสม คอบร้าโกลด์, การฝึกผสมรหัสหนุมานการ์เดียน ระหว่างกองทัพบกไทย และกองทัพสหรัฐอเมริกา, การฝึกผสม รหัส Strike 2023 ระหว่างกองทัพบกไทย-กองทัพบกสาธารณรัฐจีน, การฝึกผสม รหัส CHAPEL GOLD 2024 ระหว่าง กองทัพบกไทย-กองทัพบกออสเตรเลีย
ก่อนจะมาถึงวันนี้ "ผู้กองบัวขาว" ซึ่งประจำแผนกฝึก ศูนย์การกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน บัวขาวนั้นติดยศสิบตรี เมื่อปี 2558 อีกสองปีถัดมา ปี 2560 ได้สิบโท
ปี 2562 อบรมนายทหารชั้นประทวน เลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตร รุ่นที่ 46
ปี 2565 เป็นร้อยโท หลักสูตรส่งทางอากาศ รุ่นที่ 338 โรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ
ปี 2567 คือปีนี้ ก้าวขึ้นเป็น ร้อยเอก ในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ... ก็ต้องบอกว่า "พี่บัว" บนสังเวียนผ้าใบเป็นยอดนักชก บนชีวิตนอกสนามมวย รับราชการทหาร ก็ถือเป็นกำลังพลที่มีคุณภาพของกองทัพ
โดยเฉพาะการใช้ทักษะแม่ไม้มวยไทยที่ “บัวขาว” มีมาถ่ายทอดเป็นประโยชน์กับการฝึกวิชาทหารหาญทั้งในประเทศ และต่างชาติ
งานนี้ก็ต้องบอกว่า เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง แถมเป็นตัวอย่างที่ดี สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นหลัง และ นักกีฬารุ่นน้องได้เป็นอย่างดี และ เชื่อว่าเส้นทางการรับราชการทหารของ "ผู้กองบัวขาว"จะยังไปได้อีกยาวไกลแน่นอน.