กฤษฎีกาชี้แล้ว “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” ขาดคุณสมบัติเป็น ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ เหตุเคยนั่งที่ปรึกษาของนายกฯ ถือว่าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอชื่อใหม่
วันนี้ (25 ธ.ค.) แหล่งข่าวในกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับคุณสมบัติของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ในการดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า นายกิตติรัตน์ ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อผลการตีความของกฤษฎีกาออกมาเช่นนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คงไม่เสี่ยงนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี กระบวนการหลังจากนี้ กระทรวงการคลังต้องเสนอชื่อผู้สมควรเป็นประธานบอร์ด ธปท.คนใหม่ ให้คณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มี นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นประธาน ดำเนินการคัดเลือกตามขั้นตอนต่อไป
มีรายงานว่า มีอีกรายชื่อที่เสนอมาจาก ธปท.ไว้แล้ว คือ นายกุลิศ สมบัติศิริ แต่ก็มีสถานะเดียวกับนายกิตติรัตน์ คือ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ จึงเหลือเพียง นายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่กระทรวงการคลัง น่าจะเสนอชื่อคนใหม่เข้าไป
ด้าน นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “สมชาย แสวงการ” ว่า “#ข่าวดี กรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มติเอกฉันท์กิตติรัตน์ขาดคุณสมบัตินั่ง ปธ.บอร์ด ธปท.
“มติเอกฉันท์ของกรรมการกฤษฎีกาวันนี้เกี่ยวพัน 3 คณะ
คณะที่ 1 (กฎหมายเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง)
คณะที่ 2 (กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน)
คณะที่ 3 (กฎหมายเกี่ยวกับการบรหารจัดการภาครัฐ)
“ต้องขอบคุณคณะกรรมการกฤษฎีกาทั้ง 3 ชุด ช่วยสร้างบรรทัดฐานกฎหมาย มิให้นักการเมืองตะแบงตีความอีก ที่คุณกิตติรัตน์ดำรงตำแหน่งอยู่ในรัฐบาลเศรษฐา จนถึงวันที่ 14 พ.ค. 67 ตะแบงอ้างว่า ไม่ใช่คุณสมบัติที่ต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.แบงก์ชาติ ขอบคุณ คณะกรรมการ 3 คณะ ในคณะกรรมการกฤษฎีกาทุกท่านครับ”