ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ “อีแอบ” ทุบหุ้นกลุ่มซีพี ตลท.-ก.ล.ต. ควรต้องเข้าตรวจสอบขบวนการจับแพะชนแกะ!
ประเด็นหุ้นในกลุ่มซีพีร่วงรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯไม่น้อยที่เชื่อว่าเป็นฝีมือ "อีแอบ" อยู่เบื้องหลัง
เพราะพฤติการณ์ของ "อีแอบ" ที่จับกรณีการเข้าลงทุนในโครงการ "The Happitat" ของบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ชื่อย่อ CPAXT มาขยี้ บี้ตลาดไปจนถึง ก.ล.ต. โยงไปเป็นเรื่อง "พ่อ" อุ้มธุรกิจ "ลูกสาว" ตั้งคำถามถึง "ธรรมาภิบาล"!?
อ่านเจตนาก็ต้องบอกว่า ขบวนการนี้ต้องการ "ทุบหุ้น" สั่นคลอน "ความเชื่อมั่น" ธุรกิจเครือซีพี นั่นเอง
จะด้วยความสะใจที่เห็นกลุ่มซีพีซวดเซ หรือ ประสงค์ร้ายกันวงการธุรกิจเพื่อให้ใครได้ประโยชน์นั้น
เรื่องแบบนี้ ตลาดหุ้น และก.ล.ต. ควรต้องแสดงหน้าที่ปกป้องนักลงทุน
ปล่อยให้มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์มั่วซั่ว แล้วกระพือไปตามโซเชียลฯ เดี๋ยวนี้ทำได้ง่ายๆ รายย่อยไม่รู่อิโหน่อิเหน่ย่อมเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
ทั้งที่ความจริงกรณีนี้ อธิบายในภาพใหญ่ว่าเป็นเรื่อง "การบริหาร-จัดการ" ของบริษัทฯ และ เทียบเคียงกับกรณีของกลุ่มเซ็นทรัลได้ ให้เข้าใจกัน
เจาะลึกลงไปก็จะทราบ ว่า CPAXT เป็นเจ้าของ “แม็คโครและโลตัส” ทำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ในแต่ละปีต้องหาพื้นที่ขยายธุรกิจเป็นเรื่องปกติของการดำเนินงาน
การลงทุนในโครงการ "The Happitat" หรือ Lotus’s Mall Bangna โดยซื้อที่ดินประมาณ 30 ไร่ ติดถนนบางนา-ตราด กม.7 อันเป็นพื้นที่ของโครงการ "ฟอร์เรสต์เทีย" ที่มีอยู่กว่า 400 ไร่ เท่ากับโครงการนี้มีพื้นที่ประมาณ 7.5 % ของโครงการทั้งหมด
ประเด็นสำคัญ ไม่ได้เป็นการลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อื่นใดในโครงการ "The Forestias" และไม่มีแผนการลงทุนในโครงการอื่นๆ ของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)
งานนี้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงก.ล.ต.ทุกขั้นตอน
มองด้วยความเป็นธรรม ถ้าดีลมีประเด็น มีปัญหา ตอนที่ CPAXT ยื่นข้อมูลไปที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลท. ก็ต้องท้วงติงแต่แรกแล้ว นี่ไม่มีทักท้วง ก็แสดงว่าถูกต้องตามขี้นตอน
ตลท.และ ก.ล.ต. หากจะตื่นเต้นกับกรณีนี้ก็ต้องย้อนศรสอบที่มาของการ "ปั่นข่าว" ของขบวนการอีแอบ ถือเป็นการทำให้ตลาดหุ้น "ป่วน"
รวมไปถึงต้องเรียก "ชวินดา หาญรัตนกูล" นายกสมาคมจัดการการลงทุน (AIMC) มาชี้แจงด้วย เพราะออกข่าวเตรียมจัดประชุมว่า การลงทุนนี้ขัดเกณฑ์ธรรมาภิบาล และ จะพิจารณากำหนดแนวทางลงทุนด้วย
แม้ ตลท.และก.ล.ต.จะไม่เรียกแต่การผสมโรงโหนกระแสข่าวปั่น เพื่ออะไร? ชวินดา ควรที่ก็ต้องตอบสังคมในฐานะนายกฯ
ต้องไม่ลืมว่า "ความเชื่อมั่น" ในเรื่องธุรกิจเป็นเรื่อง "ได้-เสีย"ในตลาดหุ้น
หากการสร้างภาพให้ขาดความเชื่อมั่นกับธุรกิจใดก็ตามถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำจริงๆ
ในวงการลงทุน หรือ ธุรกิจ มีดัชนีชี้วัดที่เอาไว้พิจารณาว่า บริษัทไหนมั่นคง หรือควรให้ความเชื่อมั่นดูกันที่ "อัตราส่วนหนี้ต่อทุน"
ถ้าแฟร์ๆ ซีพี มีบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ 4บริษัทฯ มีตัวเลขอัตราส่วนหนี้ต่อทุน หรือ DE ratio ของ ซีพี เฉลี่ยอยู่ 2.5 – 3
CPAXT 0.8 ซีพีเอฟ อยู่ที่ 1.54 CPALL อยู่ที่ 1.9
ขณะที่เซ็นทรัลรีเทล 3.1 กัลฟ์ 2.3 AIS 3.9
สรุปว่า ธุรกิจของกลุ่มซีพี อัตราหนี้สินต่อทุน ไม่ได้สูงเกินกว่าปกติ
เพราะฉะนั้นขบวนการ "ปั่นข่าว"จับแพะชนแกะ "ทุบหุ้น" ของเครือซีพี โดย "อีแอบ" ก็ต้องถามดังๆ ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.
ทั้ง กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ - วิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ประธาน ก.ล.ต. และพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาฯ ก.ล.ต. สมควรจะพิจารณาตรวจสอบประเด็นนี้มากกว่าหรือไม่ !?
++ จับปฏิกิริยานักการเมือง หลังสื่อทำเนียบตั้งฉายารัฐบาล และบรรดารัฐมนตรี
ปีนี้ สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายารัฐบาลว่า “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง ฉายา “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ว่า “แพทองโพย” และยังมีรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลนี้อีกหลายคน ที่ได้รับฉายา แน่นอนว่าต้องมีที่แสบๆคันๆ กันบ้าง บางคนก็ทำใจว่าเป็นสีสัน แต่บางคนก็ชี้แจงแบบตอบโต้ ค่อนข้างเดือด
อย่างฉายา “แพทองโพย” นั้น นายกฯอิ๊งค์ บอกว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ฉายาอย่างเป็นทางการ แต่ไม่โกรธ แถมปล่อยมุกแซวตัวเองแบบทันสมัยกว่าสื่อ อีกว่า น่าจะเป็น “แพทองแพด” มากกว่า เพราะใช้ไอแพด ไม่ได้ถือโพย พร้อมบอกว่า ปีใหม่แล้ว สดใสกันหน่อย...
ส่วน “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” นั้น “ทักษิณ ชินวัตร” ตอบเองเลย แบบว่าตอนแรกก็เขินนิดหน่อย เลยเฉไฉไปว่า สงสัยสื่อฯ เห็นว่า พรรคเพื่อไทยและรัฐบาล เป็นคนเหนือ เพราะคนเหนือชอบเรียก“พ่อเลี้ยง” คอยดู เดี๋ยวพอพรรคเพื่อไทย ทำเศรษฐกิจดี คนเหนือก็จะเป็นพ่อเลี้ยงกันหมด
ส่วนที่ว่า “นายกฯอิ๊งค์” อาจไม่ได้เป็นนายกฯด้วยตัวเองนั้น “ทักษิณ” บอกว่า อิ๊งค์เก่งกว่าตนเองตอนเริ่มต้นด้วยซ้ำ เพราะออกตัวได้เร็วมาก แต่แน่นอนว่าไม่มีใคร ที่จะรู้ทุกเรื่อง ทำได้ทุกเรื่อง ก็ต้องมีทีมงานที่ช่วยกันเป็นธรรมดา ยอมรับว่าตนเองก็ได้ให้คำแนะนำไปบ้าง ก่อนจะทิ้งท้ายว่า อย่าลืมว่าลูกสาวคนเล็ก พ่อชี้นำไม่ค่อยได้ ส่วนใหญ่ลูกจะชี้นำพ่อมากกว่า
สำหรับ “สหายใหญ่” ภูมิธรรม เวชยชัย จาก“ทหารป่า” ได้มาเป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.กลาโหม คุม 3 เหล่าทัพ เลยได้ฉายา “สหายใหญ่ใส่บู๊ต” ...ภูมิธรรม ถือคติว่า “รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ” เลยบอกว่า อยากจะเย้า ก็เย้ากันไป ตามสบาย ปีละครั้ง ไม่มีปัญหา
ขณะที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ฉายา “ภูมิใจขวาง” เพราะสื่อไปจับประเด็นที่ว่า ตั้งแต่ลงเรือร่วมรัฐบาล ก็เล่นเกมในสภา ยืนทำท่าหล่ออยู่ข้างทหาร ไม่เอาร่างกฎหมายสกัดรัฐประหาร ล่าสุดยังยืนข้างวุฒิสภา (ของตัวเอง) โหวตสวน ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เห็นต่างจากพรรครัฐบาลอีก แบบว่าอยากจะขวางไปซะทุกเรื่อง
ความจริง “เสี่ยหนู” และพรรคภูมิใจไทย น่าจะได้ฉายา “ภูมิใจเขากระโดง” ดูจะเก๋กว่า ก็ขนาด องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ยังยกให้กรณี “เขากระโดง โกงที่รถไฟ” เป็น 1 ใน10 คอร์รัปชันแห่งปี 2567
เพราะพรรคภูมิใจไทย ปกป้องคนรุกที่เขากระโดงเหมือนเป็นภารกิจระดับ “วาระแห่งชาติ”
ส่วนรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ติดอันดับทั้ง สองคน โดย “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ฉายา “พีระพัง” เพราะแก้ปัญหาราคาพลังงานล้มเหลว ขณะที่ “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” รมว.อุตสาหกรรม เลขาธิการพรรคฯ ได้ฉายา “รวม(เพื่อ)ไทยอ้างชาติ”... นั่นเพราะใครจะไปคิดว่า รทสช. ที่เป็นพรรคของ “ลุงตู่ บวก ลุงกำนัน” จะมาร่วมรัฐบาลกับคนของ “ทักษิณ”ได้ แต่ที่เป็นเช่นนี้ เพราะ เอกนัฏ พร้อมพัง บอก “ทำเพื่อชาติ”
กับฉายา“พีระพัง”นี้ แม้เจ้าตัวจะไม่ได้ออกมาตอบโต้ แต่ลูกกะโล่ในพรรค ต่างออกมาตอบโต้แทนกันเป็นแถว อย่างเช่น “พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ” เลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม บอกพร้อม “พัง”กากพิษ ธุรกิจสีเทา สินค้าห่วยข้ามชาติ #รทสช. พังให้ทุกปัญหา หรือ “ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์” หัวหน้าคณะทำงานรมว.อุตสาหกรรม ก็โพสต์ว่า พีระ.. พัง...การผูกขาด
พีระ..พัง...ระบบที่เน่าเฟะ พีระ..พัง...การโกงกินทุกรูปแบบ
แม้แต่ “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” สมาชิกพรรค รทสช. ยังโพสต์ว่า พีระ..พัง...การผูกขาด พีระ.. พัง…ระบบที่เน่าเฟะ
พีระ..พัง...การโกงกินทุกรูปแบบ ส่วน“รมว.เอกนัฏ ก็“พร้อมพัง” สุดซอย ,พร้อมพัง=โรงงานเถื่อน, พร้อมพัง = โรงงานสายไฟไม่ได้มาตรฐาน เหล็กเบา สินค้าไม่ได้มาตรฐาน, พร้อมพัง = กากเพชรอุตสาหกรรม
แต่ละคนเหมือนใส่อารมร์กันดุเดือด
ขณะที่ “เสี่ยเท้ง” ณัฐพงษ์ เรื่องปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เมื่อถูกสื่อถาม ว่ารู้สึกอย่างไรกับฉายารัฐบาล และรัฐมนตรี “เสี่ยเท้ง”บอกว่าไม่ขอวิจารณ์ แต่อยากได้ยินฉายาผู้นำฝ่ายค้านมากกว่า
เอ้า...สื่อมวลชนประจำรัฐสภา รับรู้แล้วก็ช่วยจัดให้ “เสี่ยเท้ง”เขาหน่อย!!