นายกฯ ไม่โกรธฉายาการเมือง มองเป็นสีสัน บอกตัวเองไม่ได้เป็นแพทองโพย แต่เป็นแพทองแพด ยอมรับวาทะแห่งปี ก็สามีเป็นคนใต้ เผย นึกไม่ออกว่าเกลียดใคร ไม่ชอบก็ถอยห่าง เพราะหากเกลียด-เครียดแล้วเหนื่อย ส่วน ฉายา รัฐบาลพ่อเลี้ยง ก็ดีช่วยทำงาน เพราะพ่อมีประสบการณ์
ทำเนียบ วันนี้ (23 ธ.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า มาหาสื่อประจำทำเนียบรัฐบาล โดยอ้างว่า มาพบสื่อเพื่อจะสอบถามเรื่องอาหารที่จะนำมาจัดเลี้ยงปีใหม่ทำเนียบรัฐบาล ในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค.) พร้อมพูดติดตลกว่า ”พรุ่งนี้ไม่สัมภาษณ์นะ” และกล่าวถึงฉายาที่ได้รับเป็นปีแรก ว่า “แพทองโพย” ว่าเราเป็นแพทองแพด เราใช้ไอแฟด ไม่ได้ใช้โพย ซึ่งสื่อก็บอกว่าข้อมูลอยู่ในไอแฟด ซึ่งนายกฯ ก็ตอบกลับว่าแซวเล่น ก่อนตอบกลับ ว่า ปีใหม่แล้วสดใสกันหน่อย พร้อมชี้ตัวเองว่าใส่เสื้อสีสัน และบอกกับสื่อว่าไม่โกรธสื่อ และพูดถึงฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง พร้อมหัวเราะ และกล่าวว่า ไม่โกรธเลย โดยสื่อพยายามอธิบายกับนายกรัฐมนตรี ว่า พ่อส่งในเรื่องของแนวทางการทำงาน ซึ่งนางสาวแพทองธาร กล่าวตอบว่า เป็นเรื่องดี เพราะคุณพ่อมีประสบการณ์ เรื่องเศรษฐกิจคุณพ่อก็ดี บางอย่างที่ปรับใช้กับยุคนี้ได้ ยิ่งเป็นเรื่องดี เราต้องหัดมองมุมที่มันดีบ้าง
“อย่าให้เป็นดรามา ต้องทะเลาะกัน เหนื่อย ชีวิตทุกคนทำงานมาทั้งปีแล้ว เป็นโหมดต้องแฮปปี้แล้ว ทำงานผ่านมาแล้วปีหนึ่ง แฮปปี้ มีความสุข ภูมิใจกลับอะไรบ้าง ให้ทุกคนคิดแบบนี้ รวมถึงจะปรับปรุงอะไรบ้าง อย่าไปบี้ตัวเอง หรือทำให้รู้สึกว่าแย่ มันจะปีใหม่แล้ว อากาศก็ดี สดชื่น สดใส ขอให้ทุกคนได้พักผ่อน อย่าไปเครียดมาก มีเรื่องเครียดในชีวิตเยอะแล้ว” น.ส.แพทองธารกล่าว
ส่วนวาทะแห่งปี สามีเป็นคนใต้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ก็ยอมรับสามีเป็นคนใต้ คุณพ่อเป็นคนเหนือ คุณแม่ภาคกลาง ส่วนพี่ๆ เป็นลูกครึ่ง ดีค่ะ เพราะเป็นเรื่องจริง เป็นความจริง ก็เป็นคนใต้จริงๆ พร้อมย้ำว่า ตัวเองเป็นลูกครึ่ง พ่อคนเหนือ แม่เป็นคนภาคกลาง ก่อนถามสื่อว่าทุกคนเป็นคนภาคไหนกันบ้าง
เมื่อสื่อถามว่า คำว่าสามีเป็นคนใต้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ซึ่งนายกฯก็ย้อนถามกลับว่าวิจารณ์ในเรื่องอะไร สื่อกล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีไม่ลงพื้นที่ภาคใต้เพราะไม่มีฐานเสียงในภาคใต้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวเน็ตสะท้อนมา น.ส.แพทองธาร ก็กล่าวว่า ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน ต้องดูแลหมด การที่จะลงพื้นที่ สมมติว่า น้ำท่วมทุกจังหวัด นายกฯไปคนเดียวไม่ไหวแน่นอน ครม.มีหลายคนก็ช่วยกันไป รวมถึง สส. ขั้นแรกต้องดูแลประชาชนในพื้นที่ก่อน ยืนยันตนเองถ้าไปเองได้ไปทันที ตอนต้นเดือนสื่อก็น่าจะเห็นตารางงานแล้วว่าแน่น ตั้งแต่เดือน พ.ย.จนถึง ธ.ค. ซึ่งถ้าไปได้ก็ไป ส่วนการเยียวยาเคาะให้ภาคใต้เร็วที่สุด ซึ่งถ้ามีประเด็นกับภาคใต้คงไม่เคาะให้เร็วที่สุด และคงไม่ทำ พร้อมบอกว่าตนเองเป็นหนึ่งคนที่ผ่านอะไรมาเยอะในชีวิต ตั้งแต่เด็กที่เจอเรื่องการเมือง แต่จะให้นึกว่าให้เกลียดใครนึกไม่ออก เพราะไม่ค่อยเกลียดใคร เพราะมันเหนื่อย
“จึงรู้สึกว่าไม่ต้องเกลียด ถ้าเราไม่ชอบ เอนเนอร์จี้เรากับคนนั้นๆ ไม่ได้ ก็แค่ถอยมา ถ้าจะต้องไปเกลียดหรือไม่ชอบใครมันเหนื่อย พร้อมถามกลับว่าเคยไม่ชอบคนหรือไม่ มันเหนื่อย” น.ส.แพทองธาร กล่าว
เมื่อสื่อถามว่า แสดงว่า นายกรัฐมนตรีมีภูมิคุ้มกันทางการเมืองมาตั้งแต่เด็ก นายกฯ กล่าวว่า ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเรียกว่าภูมิคุ้มกันหรือไม่ แค่รู้สึกว่าเราไม่ชอบตรงไหนเราก็ถอยออกมา อยู่ในจุดที่เราโอเค เราแฮปปี้ เราเป็นประโยชน์ได้ก็ตรงนั้น อย่าไปเกลียดใครมากเพราะมันเหนื่อย
เมื่อถามว่า เมื่อฟังเสียงสะท้อนจากสื่อและโซเชียลในปีหน้า นายกฯ ตั้งเป้ายังไง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เป้าของตัวเองคือความเดือดร้อนของประชาชน จะต้องได้รับการแก้ไข อะไรเดือดร้อนต้องแก้ก่อน แต่บางอย่างต้องใช้เวลาในการแก้ เช่น การวางแผนในเรื่องเศรษฐกิจ เพิ่มการสร้างรายได้ ต้องรีบทำคู่กัน อะไรที่คิกออฟได้ต้องออกให้หมด อะไรที่จะซัปพอร์ตประชาชนได้ต้องออกให้หมด นั่นคือเป้าหมาย ส่วนจะมีการดราม่าก็ขอให้เป็นเรื่องๆ ไป