“ธนกร” หนุนร่าง พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฉบับ ครม. แนะต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส ขอสภาเห็นชอบ หวังใช้ปกป้องประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบโกง อีกด้านระวังขรก.-นักการเมืองถูกกลั่นแกล้ง สกัดการเติบโตในหน้าที่ ชม “วิทยา” ปรับการทำงาน ทำคดีค้างลดลง
วันที่ 20 ธ.ค.2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่..) พ.ศ.....ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ว่า ในร่างพ.ร.ป.ฉบับนี้มีการแก้ไขในมาตรา 132 และมาตรา 162 (2) ซึ่งตนเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะทำให้การป้องกันการทุจริตประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน โดยความสำคัญในมาตรา 132 นั้น มีเป้าหมายเพื่อปกป้องผู้ที่แจ้งเบาะแสให้ข้อมูลต่างๆ วันนี้ต้องยอมรับว่าปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นมันเกาะกินสังคมไทยมาอย่างยาวนานมาก และผู้ที่แจ้งเบาะแสส่วนใหญ่ไม่ค่อยกล้าแจ้งเพราะถ้าแจ้งเมื่อไหร่ก็ถูกฟ้อง ถูกดำเนินคดีมากมาย ยกตัวอย่างที่เห็นชัดเจน ไม่มีใครกล้าเหมือนกรณีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพราะฉะนั้นในวันนี้คนทั่วไป พี่น้องประชาชนคนทั่วไปย่อมไม่กล้าแจ้งเบาะแส
ขณะที่ตนเห็นด้วยที่จะต้องมีกระบวนการแก้ไขกฎหมายให้มีการคุ้มครองผู้แจ้งความ แจ้งเบาะแส คุ้มครองผู้ถูกฟ้อง ถูกกล่าวโทษหรือถูกดำเนินการทางวินัยดังนั้น กฎหมายฉบับนี้ถือว่าดีและชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อช่วยให้ประชาชนที่มีจิตสำนึกรักประชาธิปไตย รักความถูกต้อง รักประเทศ พร้อมที่จะออกมาให้ข้อมูลและได้รับการปกป้องคุ้มครอง ตนจึงเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้การแก้ไขในมาตรา 162(2) เรื่องกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนผู้แจ้งเบาะแส ตนสนับสนุนเพราะจะช่วยสร้างกลไกในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินในขณะที่ประชาชนถูกฟ้อง เพราะฉะนั้น ตนจึงเห็นด้วยอย่างยิ่งกับกฎหมายฉบับนี้ ที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
"เหรียญย่อมมี 2 ด้านแม้ว่าเห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ก็ตามที แต่ขณะเดียวกันเราต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีการกลั่นแกล้งผู้ให้เบาะแส จึงน่าเห็นใจข้าราชการและนักการเมือง บางครั้งถูกตั้งอนุกรรมการไต่สวนหรือถูกตรวจสอบโดยป.ป.ช.ทำให้ไม่สามารถที่จะเติบโตในหน้าที่ข้าราชการ ในมุมนี้จึงคิดว่าควรมีกลไกในการป้องกันไม่ให้มีการแจ้งข้อมูลเท็จหรือกลั่นแกล้งกัน เพราะทุกวันนี้นักร้องเรียนมีมาก บางคนเป็นคนบาปในคราบนักบุญ มีการร้องแล้วนำมาไถเงิน ก็มีอยู่มากมาย แต่คนดีก็มี ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องดูให้ดีเพราะเหรียญมี 2 ด้าน"
ทั้งนี้ขอให้สมาชิกรัฐสภาช่วยให้การสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้และขอให้กำลังใจคณะกรรมการป.ป.ช.เพราะวันนี้คดีต่างๆลดลงอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้มีคดีค้างในป.ป.ช.จำนวนมาก ซึ่งมาจากการปรับวิธีและกระบวนการทำงาน ทำให้คดีที่ค้างอยู่ลดลง โดยเฉพาะนายวิทยา อาคมพิทักษ์ รักษาการประธานคณะกรรมการป.ป.ช. ทำงานได้ดีและฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสมาชิกวุฒิสภาขอให้มีการพิจารณาคัดเลือกคณะกรรมการป.ป.ช.ให้ครบ 9 ท่านโดยเร็ว เชื่อว่าการทำงานจะรวดเร็วยิ่งขึ้นและทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นต่างๆ จะได้ลดลง
"ที่ผ่านมาเวลาสังคมจะโทษก็โทษแต่นักการเมือง ต้องไปดูในระบบราชการด้วยซึ่งไม่ได้แตกต่างกัน ทั้งนี้คนดีมีมากกว่าคนไม่ดี และขอให้กำลังใจคนดี เพราะฉะนั้นแล้วเราอย่าไปโทษนักการเมืองเพราะนักการเมืองที่ดีก็มีเยอะแยะ แต่กระบวนการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยหัวใจสำคัญต้องการให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ มีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตในประเทศจึงขอให้กำลังใจทุกท่าน" นายธนกร กล่าว