วันนี้ (20 ธ.ค.) นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยข่าวดี โดยเป็นคำยืนยันจากนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากชาวบ้านประสบปัญหาน้ำแล้งขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูกข้าวในช่วงฤดูแล้ง และน้ำท่วมนาข้าวเสียหายในช่วงฤดูฝน
โดยนายอัครา ชี้แจงว่า การแก้ปัญหาน้ำแล้งกรมชลประทาน ต้องบริหารระบบแก้มลิงที่ขุดไว้ จะออกแบบการกระจายน้ำโดยใช้โซล่าเซลล์ ผันน้ำไปสู่บ่อขนาดกลางของกรมพัฒนาดิน และ ผันน้ำกระจายน้ำจากบ่อขนาดกลาง ลงบ่อจิ๋ว
ส่วนหน้าแล้งก็ใช้โซล่าเซลล์กระจายน้ำจากบ่อจิ๋วสู่แปลงเกษตรกร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำไว้ใช้เป็นการบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้กับเกษตรกร
สำหรับแผนการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน มีหลายโครงการ ในงบประมาณปี 2568 ไม่ว่าจะเป็นการขุดลอกลำน้ำเต่า อ่างเก็บน้ำหนองบ่อ รวมถึงโครงการผันน้ำชีสู่ลุ่มน้ำเสียวใหญ่
“ลำน้ำเสียวใหญ่ สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้แค่ 35 ล้านลูกบาศก์เมตร สิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปคือ ทำอย่างไร ให้ปริมาณน้ำฝนสะสมเป็น 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เก็บไว้ให้ได้ มากที่สุด นั่นก็คือ กรมชลประทาน มีนโยบายในการสำรวจพื้นที่สาธารณะที่สามารถทำแก้มลิงได้บรรจุเข้าไปในแผนเร่งด่วนในการแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วม และเพิ่มปริมาณเก็บกักน้ำโดยขุดแก้มลิงเพิ่มตลอดลำน้ำเสียวใหญ่“ นายอัครา กล่าว
ส่วนเงินเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้ง 7 อำเภอโดยเฉพาะ อ.เกษตรวิสัย และ อ.ปทุมรัตต์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้โอนเงินเข้าบัญชีของสำนักงานเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว(19 ธ.ค.) และทางเกษตรจังหวัด จะโอนเงินเข้าบัญชีของพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบถือเป็นของขวัญปีใหม่
นายเอกภาพ กล่าวว่า ช่วงหลังปีใหม่ รัฐมนตรีทั้ง 3 ท่านจะลงไปเยี่ยมเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อถอดแบบ และถกปัญหา ในการบริหารจัดการน้ำ ทั้งระบบ