สธ.ปล่อยรถดูแลสุขภาพจิตเคลื่อนที่พร้อมนวัตกรรมสุดล้ำที่ช่วยชาวใต้ หวังลดความเครียด แจง ปมตระเวนรักษาเอายาไปขาย เป็นเรื่องระบบ สปสช. ยัน ตรวจสอบได้-ดำเนินคดีไปบางรายแล้ว ย้ำจากนี้ต้องตรวจสอบเข้ม
วันนี้ ( 19 ธ.ค.2567 ) ที่ลานพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว. สาธารณสุข เป็นประธานพิธีปล่อยขบวนคาราวาน “รถเพื่อนใจ สู้ภัยน้ำท่วม ”โดยมี นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่าในช่วงเวลานี้ ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาอุทกภัยรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต หลายครอบครัว ต้องเผชิญกับความเครียด วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า จึงจำเป็นที่เราจะต้องมีมาตรการเชิงรุก และสนับสนุนบริการสุขภาพจิตในพื้นที่อย่างทันท่วงที โดยรถเพื่อนใจ เป็นหนึ่งในนวัตกรรมด้านสุขภาพจิตที่สำคัญ ของกระทรวงสาธารณสุข สามารถเข้าไปให้บริการด้านสุขภาพจิต ในพื้นที่ที่เดินทางยากลำบาก ทั้งบริการพบจิตแพทย์ผ่านระบบเทเลเมดิซีน ตรวจวัดระดับความเครียดด้วยเครื่องไบโอฟีดแบ็ค ลดความเครียด ด้วยแว่นวีอาร์ และเก้าอี้คลายเครียด ให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยา และส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลที่เหมาะสม
“โดยรถเพื่อนใจทั้ง 3 คันนี้ จะมุ่งตรงไปช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต แก่ผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อให้ประชาชนสามารถฟื้นฟูจิตใจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมขอขอบคุณกรมสุขภาพจิต และบุคลากรทุกท่าน ที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดบริการสุขภาพจิตเชิงรุกนี้ ซึ่งผมขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทุกคน เดินทางไปช่วยเหลือประชาชนอย่างปลอดภัย และช่วยให้คนไทย ผ่านวิกฤตอุทกภัยนี้ ไปด้วยกัน” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ทั้งนี้นายสมศักดิ์เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข มีรถเพื่อนใจ ทั้งหมด 9 คัน โดยในรถจะมีบริการดูแลประชาชนด้านสุขภาพจิตแบบเคลื่อนที่ เพื่อไปให้ใกล้บริเวณที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งรถเพื่อนใจ ต้องมีครบทุกเขตสุขภาพ คือ 12 คัน โดยถึงแม้ขณะนี้ จะมี 9 คัน แต่เวลาเกิดเหตุ ก็จะระดมไปทั้งหมด ซึ่งในรถเพื่อนใจ จะมีระบบได้พูดคุยกับหมอจากส่วนกลาง มีโปรแกรมช่วยดูแลด้านจิตใจ มีแว่นวีอาร์ โดยจะได้เห็นอะไรที่ผ่อนคลาย ลดความเครียด รวมถึงภายในรถจะสามารถตรวจความเครียดของแต่ละคนได้อีกด้วย
เมื่อถามถึงกรณีแม่พาลูกตระเวนรักษาเพื่อนำยาออกมาขาย ต้องตรวจสอบอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องของระบบ สปสช. ซึ่งเมื่อเช้าที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยกันแล้ว โดยเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ และมีการลงโทษดำเนินคดีไปบางรายแล้ว เรื่องการตรวจสอบต้องทำให้เข้มงวด ไม่ให้มีผิดพลาดออกมาอีก เรื่องนี้คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะไม่ใช่ป้องกันไม่ได้
เมื่อถามต่อว่ามีช่องโหว่อะไรที่ทำให้เกิดการตระเวรไปตามโรงพยาบาลเพื่อนำยาออกมาขายได้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ เรามีผู้ป่วยจำนวนมาก ใน 1 ปี มีผู้ป่วยมาโรงพยาบาล 304 ล้านครั้ง กระทรวงสาธารณสุข จึงทำนโยบายลดการป่วยให้น้อยลง บุคลากรก็จะได้มีเวลาตรวจสอบได้มากขึ้น โดยในสัปดาห์หน้า จะออกมาเป็นแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจน
