ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ เปิดปูม"อัยการFBI" วัชรินทร์ ภาณุรัตน์ มือดีสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานคดี "ทนายตั้ม" ร่วมตร.
น่าจะหนักหนาสาหัสขึ้นไปอีกสำหรับ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ผู้ต้องหาในความผิดฐาน ฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ที่ถูก “พี่อ้อย” จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐีนีชาวปากช่อง ที่ไปอาศัยอยู่ที่ฝรั่งเศส แจ้งความดำเนินคดี
เมื่อความเคลื่อนไหวล่าสุด “ร.ต.อ.โชคชัย สิทธิผลกุล” อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนมีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานอัยการร่วมทำการสอบสอบกับพนักงานสอบสวน และ แต่งตั้งตั้งเจ้าพนักงานคดี เพื่อสนับสนุนการทำงานของพนักงานอัยการที่เข้าร่วมสอบสวนคดี ดังนี้ ให้ “นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์” รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงาน, “ร.ต.อ.วสันต์ จันทร์อินทร์” อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 2 ช่วยราชการสำนักงานการสอบสวนปฏิบัติราชการในหน้าที่ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2, “น.ส.ทักษอร สุวรรณสายะ” อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5, “น.ส.บุษยภา เมณฑกา” อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5, “ร.ต.อ.สุวรรณสาม คีรีวิเชียร” อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2, “นายเทพสิทธิ์ เกียรติเดชปัญญา” อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 เป็นคณะทำงาน โดยให้ “ร.ต.อ.สุวรรณสาม” เป็นเลขานุการ
ทั้งนี้ คณะทำงานของอัยการคณะนี้ มีอำนาจหน้าที่เข้าร่วมทำการสอบสวนในทันที เป็นไปตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่า ด้วยการดำเนินการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2563 และแนวทางปฏิบัติการสอบสวนว่าด้วยการสอบสวนและงานธุรการเกี่ยวกับการสอบสวน พ.ศ.2560 โดยเคร่งครัด พร้อมให้เลขานุการคณะทำงานรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามให้อัยการสูงสุดทราบเป็นระยะ
ความน่าสนใจอยู่ที่ “นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์” รองอธิบดีอัยการ ที่พลิกดูปูมประวัติแล้วพบว่า ไม่ธรรมดา
เนื่องเพราะ หัวหน้าคณะทำงานอัยการผู้นี้ มีฉายาในแวดวงยุติธรรมว่า “อัยการ FBI”
ว่ากันว่า เป็นอัยการสอบสวนฝีมือดี เป็นลูกหม้อสำนักงานการสอบสวน จบหลักสูตร Major Case Management จาก F.B.I. Academy Quantico Virginia U.S.A.
ที่ผ่านมาได้รับความไว้วางใจจากอัยการสูงสุดหลายคนส่งตัวไปร่วมสอบสวนคดีสำคัญระดับชาติมากมาย รวมถึงได้รับความไว้วางใจให้ลงไปกำกับการสอบสวนตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทำร้ายและการกระทำที่ทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ซึ่งมีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงหลายราย
งานนี้ย่อมไม่ใช่ข่าวดีของ “ทนายตั้ม” แน่นอน
++ 20 สส.ยกขบวนเข้าพรรคกล้าธรรม “ธรรมนัส” นั่งประธานที่ปรึกษาฯ
หลังจาก 20สส. ในกลุ่มของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ ถูกคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ขับพ้นพรรคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยว่ามีอุดมการณ์ทางการเมืองไม่ตรงกัน
ในจำนวน 20 สส.นั้น ประกอบด้วย 1. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา 2.นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี 3.นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ 4.นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา 5.นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา 6.นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี 7.นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ 8.นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี 9.นายปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน 10.นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร
11.นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์สส.กำแพงเพชร 12.นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก 13.นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด 14.นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี 15.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส 16.นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี 17.นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา 18.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา 19.นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ 20.นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส
ล่าสุดทั้ง 20 สส. ได้เข้าเป็นสมาชิก “พรรคกล้าธรรม” ที่มี “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรค เป็นที่เรียบร้อย ทำให้ขณะนี้ พรรคกล้าธรรม มี สส. 24 เสียง
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) บรรดา 20 สส. ก็เข้าไปนั่งประชุมใน โซนที่จัดไว้สำหรับสส.พรรคกล้าธรรม และยังลุกขึ้นอภิปรายในนามพรรคกล้าธรรมด้วย
และในวันนี้ (19 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. กลุ่ม 20 สส.นำโดย “ร.อ.ธรรมนัส” ก็ได้ฤกษ์แถลงข่าวเปิดตัว พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่อาคารรัฐสภา
มีรายงานว่า เมื่อมีสมาชิกเข้ามาเพิ่ม พรรคกล้าธรรม ก็จะถือโอกาสนี้ จัดประชุมใหญ่ เพื่อปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดย “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไป ขณะที่ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค ส่วน “ไผ่ ลิกค์” สส.กำแพงเพชร จะเป็นเลขาธิการพรรค และ “อรรถกร ศิริลัทธยากร” อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา เป็นเหรัญญิกพรรค
เมื่อพรรคกล้าธรรม เข้ารูปเข้ารอยดีแล้ว อันดับแรก มีข่าวว่าจะไปเชิญชวน อดีตผู้สมัคร สส.ของพรรคพลังประชารัฐ ที่เคยร่วมงานกันมา แล้วสอบไม่ผ่าน แต่มีคะแนนในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเกิน 20,000 คะแนน มาร่วมพรรค เตรียมเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งต่อไป
ทำให้เห็นภาพในสนามเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า นอกจากจะมีพรรคการเมืองเดิมๆ ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้แล้ว ก็จะมีพรรคการเมืองเพิ่มเติมมาใหม่คือ “พรรคกล้าธรรม”
นอกจากนี้ก็มี “พรรคโอกาสใหม่” ที่มี “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นแบ็กอัป ซึ่งมีกระแสข่าวว่า ตั้งมาเพื่อรองรับ สส.จากพรรคพลังประชารัฐ ในส่วนที่เหลืออีก 20 คน หาก “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ วางมือทางการเมือง และอีกส่วนหนึ่งก็จะมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ปัจจุบันมี สส. อยู่ 36 คน
อย่างไรก็ตาม “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ออกมาปฏิเสธข่าวที่ว่า มีสส.ของพรรค 25 คน เตรียมย้ายรังไปอยู่ พรรคโอกาสใหม่ ว่า เป็นแค่ข่าวลือ ที่ปล่อยใน tiktok
“ที่ผ่านมาเราทำงานทั้งในสภา และรัฐบาล ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทุกคนยึดมั่นในจุดยืนของพรรค และจะเดินหน้าทำงานต่อกับพรรคแน่นอน ไม่มีใครไปไหน จนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า... ผมเอาตำแหน่งเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นประกัน” เอกนัฏ ยืนยัน
ก็ต้องติดตามกันต่อไป ว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป ที่ตามกำหนดแล้วจะมีขึ้นในปี 2570 และคาดว่าคงต้องใช้กติกาเดิม ผลจะออกมาอย่างไร