“สนธิญา” เผยอัยการสูงสุดตอบกลับใช้สิทธิฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาล้มเอ็มโอยู 44 ได้ รอนายกฯ - ครม. ตัดสินใจก่อน ถามกลับ “ทักษิณ-เพื่อไทย” พอใจ กัมพูชา ลากเส้นกินเกาะกูดอย่างนั้นหรือ
วันนี้ (17 ธ.ค.) นายสนธิญา สวัสดี เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้ไปยื่นต่ออัยการสูงสุด กรณีเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกหการทำเอ็มโอยู 44 การแบ่งปันผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เนื่องจากเห็นว่า ทางกัมพูชามีการลากเส้นเขตแดนเข้ามากลางเกาะกูด ซึ่งเป็นของประเทศไทยนั้น ล่าสุดเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตนได้รับหนังสือตอบกลับจากทางอัยการสูงสุด ว่า ให้สามารถนำเรื่องนี้ไปยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้ตนได้ยื่นเรื่องไปที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ให้ดำเนินการยกเลิกเอ็มโอยูดังกล่าวด้วย ตอนนี้จึงรอว่าทางนายกฯ และครม.จะดำเนินการยกเลิกหรือไม่ หากไม่ยกเลิกก็จะมีการใช้สิทธิทางกฎหมายต่อไป ยืนยันว่า ตนไม่ได้คัดค้านการแบ่งปันผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อน แต่ที่คัดค้านคือเส้นเขตแดนที่กัมพูชาลากผ่านเกาะกูด ดังนั้นตอนนี้รอคำตอบนี้อยู่ว่าดำเนินการอย่างไร
เมื่อถามว่า เมื่อหลายวันก่อนนายทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า ความจริงเอ็มโอยู 44 ไม่ได้เป็นเช่นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันคนคิดไปเอง นายสนธิญา กล่าวว่า ตนยกตัวอย่างบ้านสองหลังติดกัน อยู่ดีๆ บ้านหลังหนึ่งลากเส้นผ่าหลังคาบ้านเราไป แบบนี้ถือว่าเราคิดไปเองหรือไม่ แล้วเอ็มโอยู 44 ถ้ากัมพูชาไม่ลากเส้นผ่านเกาะกูด ตนถามว่าจะมีคนไหน หน้าไหนในประเทศไทยออกมาเรียกร้อง แต่วันนี้กัมพูชาลากผ่านเกาะกูด และนายกฯ กัมพูชาก็มีกระแสเรียกร้องว่า เกาะกูดเป็นของกัมพูชา อีกทั้งถ้าจำไม่ผิดเอ็มโอยูเกี่ยวกับเขาพระวิหาร เขาก็จับมาเป็นส่วนหนึ่งในการฟ้องศาลโลก เป็นผลให้เขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา แม้ว่าวันนี้เราจะไม่ยอมรับก็ตาม
“ผมถามว่า การปล่อยให้กัมพูชาลากเส้นผ่านเกาะกูด นายทักษิณ กับพรรคเพื่อไทยพอใจอย่างนั้นหรือ ซึ่งนั่นเป็นอาณาเขตของประเทศไทย อย่างนั้นแล้วจะเจรจาทำไมในเมื่อเขาลากมามันผิด และถ้าวัดรอบเกาะกูดอีก 12 ไมล์ทะเล ตรงนั้นเป็นเขตของประเทศไทยแล้วไปเจรจาทำไม ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรเลย ดังนั้นเอ็มโอยูนี้ต้องชัดเจนว่ายกเลิกเส้นที่กัมพูชาลากผ่านเกาะกูด แล้วถ้าใครคิดว่าเป็นคุณกับประเทศก็ดำเนินการต่อไป ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยก็ใช้สิทธิทางกฎหมาย และศาลรัฐธรรมนูญเพื่อโปรดพิจารณาและวินิจฉัย”


