ประธาน กกต.เผย คืบหน้า ปมร้องยุบพรรคการเมืองใกล้ขั้นสุดท้าย ดึงเหตุการณ์ “ทักษิณ” สัมมนาหัวหิน เข้าพิจารณาร่วมด้วย
วันนี้ (17 ธ.ค.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณียุบพรรคการเมือง ว่า ที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนเข้าสู่สำนักงาน กกต. กว่า 100 เรื่อง แต่นายทะเบียนพรรคการเมืองสั่งการยุติไปแล้ว เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ ยังเหลือราวๆ 4-8 เรื่อง ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ บางเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการใกล้ขั้นสุดท้ายแล้วที่จะมีการรวบรวมความเห็นเสนอให้นายทะเบียนพิจารณาว่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้นายทะเบียนจะต้องพิจารณาว่ายุติเรื่อง หรือส่งเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาต่อไป
เมื่อถามถึงกรณีคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรคเพื่อไทย นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้มีการร้องมาเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ราวๆ 4 คำร้อง ก็เป็นไปตามขั้นตอนการทำงานตามมาตรา 93 เป็นอำนาจหน้าที่ของนายทะเบียน ซึ่งสั่งให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงหลักฐานดำเนินการในส่วนนี้ความคืบหน้าเท่าที่ทราบ คือ คณะกรรมการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงพยานหลักฐานได้เรียกผู้ร้องทั้ง 4 คน มาให้ถ้อยคำแล้ว และมีหนังสือไปยังสื่อต่างๆ ที่ผู้ร้องกล่าวอ้างถึงให้มาให้ข้อเท็จจริงด้วยรวมถึงมีหนังสือถึงหัวหน้าพรรคให้เข้ามาชี้แจงในประเด็นที่ถูกกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว ส่วนความคืบหน้าก็อยู่ที่การดำเนินการในแต่ละขั้นตอนไป
เมื่อถามถึงกรณีล่าสุดที่ นายทักษิณ กล่าวในการสัมมนาที่หัวหินจะพิจารณาร่วมด้วยหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตามที่เป็นข่าว ที่ปรากฏต่อสาธารณะทางหน่วยงานหรือคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงก็มีหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริงเอามาประกอบการพิจารณาว่าเรื่องนี้จะมีความเห็นว่าอย่างไร
ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องยุบพรรคภูมิใจไทย นายอิทธิพร กล่าวว่า คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทำงานเสร็จแล้วและเสนอเรื่องไปที่นายทะเบียนแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาขั้นสุดท้ายของนายทะเบียน ว่า 1. จะมีความเห็นในเรื่องนี้เป็นอย่างไร 2. จะมีกรณีที่ต้องสอบเพิ่มเติมหรือไม่ตามแนวทางปฏิบัติทั้งนี้เพื่อให้ความเป็นธรรมมากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว หาก เลขาฯ กกต.ในฐานะนายทะเบียนเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่มีอยู่ไม่เพียงพอก็จะใช้อำนาจตามมาตรา 93 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ก็สั่งยุติเรื่องและแจ้งให้ กกต.ทราบแต่หากเห็นว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายจริงๆก็จะเสนอให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาตามมาตรา 92 ต่อไป