อวสาน “โจ๊ก” ประตูรั้ว สตช.ปิดสนิท หลังศาลปกครองสูงสุดไม่ทุเลาคำสั่งตร. ให้ออกจากราชการ ** ไม่ต้องเหนียมกันแล้ว!! เตรียมตั้ง “โอ๊ค พานทองแท้” หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ “รัฐบาลอิ๊งค์ ไอแพด”

ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ อวสาน “โจ๊ก” ประตูรั้ว สตช.ปิดสนิท หลังศาลปกครองสูงสุดไม่ทุเลาคำสั่ง ตร. ให้ออกจากราชการ

งานนี้เรียกว่า ดับมโนของ “โจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร.ที่ดิ้นรนจะหวนคืนสู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติชัดลงไปอีก

หลัง ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองตามคำขอของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ในคดีที่ “โจ๊ก” ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ และ นายกรัฐมนตรี ที่ให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ออกจากราชการ

เรื่องนี้มาจาก “พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล” มีคำขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ตัวเองออกจากราชการไว้ก่อน

ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุด โดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามกฎ หรือ คำสั่งทางปกครอง จะต้องเข้าเงื่อนไขสามประการประกอบกัน

สำหรับเงื่อนไขประการที่หนึ่งว่า คำสั่งน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี มิใช่เป็นการแต่งตั้งข้าราชการซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรมหนึ่ง ไปดำรงตำแหน่งอีกกระทรวง ทบวง กรมหนึ่ง พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ จึงยังมีสถานะเป็นข้าราชการตำรวจและดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร. สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามเดิม ผบ.ตร. จึงเป็นผู้บังคับบัญชาของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์


เมื่อ “พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์” มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนและศาลอาญาได้ออกหมายจับ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ จึงเป็นผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ และมีอำนาจออกคำสั่งให้ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน และยังไม่ปรากฏ ปัญหาเกี่ยวกับความไม่ชอบด้วยกฎหมายในประการอื่น

การที่ ผบ.ตร. มีคำสั่งดังกล่าวจึงไม่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อวินิจฉัยเงื่อนไขที่ว่าคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีไม่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่ครบองค์ประกอบในการที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองตามคำขอของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์

กรณีนี้ จึงไม่จำต้องพิจารณาเงื่อนไขประการที่สอง ที่ว่าการให้คำสั่งดังกล่าวมีใช้ผลเฉพาะต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังหรือไม่ และเงื่อนไขประการที่สาม ที่ว่าการทุเลาการบังคับตามคำสั่งดังกล่าว จะเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ หรือแก่บริการสาธารณะหรือไม่อีก

ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ “พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์”ออกราชการไว้ก่อน และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง

ศาลปกครองสูงสุด จึงมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองตามคำขอของ “พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์”
เป็นอันว่า ลาก่อน..สุรเชชษฐ์ นะครับนะ


++ ไม่ต้องเหนียมกันแล้ว!! เตรียมตั้ง “โอ๊ค พานทองแท้” หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ “รัฐบาลอิ๊งค์ ไอแพด”

ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา “รัฐบาลอิ๊งค์ ไอแพด” ต้องรับศึกหนัก ทั้งปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ

เรื่องการเมืองนั้น ก็มาจากทั้งฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาล และบรรดานักร้องทั้งหลายแหล่ ที่ร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องมาตรฐานด้านจริยธรรมของนายกฯ รวมทั้งเรื่อง ชั้น 14ของ “พ่อนายกฯ” ที่ตอนนี้ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว ... ยังมีเรื่องเกมในสภา มีการต่อรองระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง “ภูมิใจไทย” และล่าสุด “รวมไทยสร้างชาติ” ก็ทำท่าฮึดขึ้นมาอีกพรรค

ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ ก็รู้กันทั้งประเทศว่าแย่ ตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน อย่าง ปากท้องชาวบ้าน ค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงขึ้น สินค้าแพงแต่ค่าแรงถูก ความเหลื่อมล้ำถ่างออกไปอีก ไล่ไปถึงภาคการผลิต การส่งออก กระทั่งเรื่องการเงิน การคลัง ไม่ค่อยเห็นเดินไปในทางบวกเลย

สิ่งเหล่านี้ยังสะท้อนออกมา ทางผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จากสวนดุสิตโพล ว่า 3 เดือนของรัฐบาลอิ๊งค์ นั้นมีดีอยู่อย่างเดียวคือ “แจกเงิน” แต่ไม่เชื่อมือ เชื่อมั่น ว่าจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชน “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”ได้

เพื่อแก้ปัญหาอันยิ่งใหญ่นี้ จึงมีกระแสข่าวว่า “พ่อนายกฯ” จะตั้ง “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร พี่ชายของ “นายกอิ๊งค์ ไอแพด” มาเป็น หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ และแผนงานเศรษฐกิจแห่งชาติ

อย่า!!..อย่าเพิ่งทำตาเหลือก หรือ หัวสั่นหัวคลอน งึกๆงักๆ ว่าไม่จริง เป็นไปไม่ได้!!

เพราะเรื่อง “เอ็กซ์คลูซีฟ” นี้ “ไพศาล พืชมงคล” อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี เป็นคนโพสต์กับมือ ว่า...

ขอต้อนรับท่านหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ และแผนงานเศรษฐกิจแห่งชาติ “ท่านโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร เพื่อกุมบังเหียนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความเจริญรุ่งเรือง โชติช่วงชัชวาล เข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ ได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และอยู่ดีกินดี ทั่วหน้ากัน


ก็น้องสาว ยังเป็นถึงนายกรัฐมนตรีได้ ให้คนทั้งหลายได้ตามแห่แหนเป็นขบวน เกียรติยศ ครึกโครม ทั้งบ้านทั้งเมืองมาแล้ว... ไฉนเล่าผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมาช้านาน จะเป็น “ประธานยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ”ไม่ได้ ตำแหน่งนี้เหนือกว่า “ท่านฮุน มาเน็จ” บุตรชายท่าน “สมเด็จฮุนเซน” ก่อนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเสียอีก

เพราะนั่นเป็นแค่นายทหารคนหนึ่ง ไม่ได้มีฐานะระดับชาติ แต่ “ท่านโอ๊ค พานทองแท้” ของเรา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ มีฐานะระดับชาติ ที่มีบทบาททำให้ชาติบ้านเมือง และประชาชนชาวไทยทั้งหลาย ได้ร่มเย็นเป็นสุขอยู่ดีมีสุขถ้วนหน้ากัน

เราทั้งหลาย คงมีบุญ ได้ชม วาสนาบารมี บุญญาธิการ ของ“ท่านพานทองแท้” โดยทั่วหน้ากันในเร็วๆนี้ !!

ใครที่คิดว่าเป็นข่าวโคมลอย ก็ลองค่อยๆ คิดดู แล้วหันกลับไปมองว่า คนในรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะในพรรคเพื่อไทย มีคนรุ่นใหม่คนไหนบ้างที่มี “คุณสมบัติ” ในการเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ที่จะทำงานเข้าขากับนายกฯ

อย่าง “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯและรมว.คลัง นั่นพูดกันตรงๆว่า “แก่ไป” ส่วน “พิชัย นริพทะพันธุ์” รมว.พาณิชย์ นั่นก็เก่งแต่เรื่องการใช้ปาก “สร้างศัตรู” หรือถ้าจะเป็น “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง นั่นแค่เจอเรื่อง “ดิจิทัลวอลเล็ต” เรื่องเดียว ก็แทบเอาตัวไม่รอด... อ่ะไหน มีใครอีกลองว่ามา

ก็เคยฝังหัว ฝังใจกันไม่ใช่หรือ ...ว่า “พรรคทักษิณ” เก่งเรื่องเศรษฐกิจ!!

แล้วทำไมจะตั้ง “ลูกชายทักษิณ” ที่ได้รับถ่ายทอด “ดีเอ็นเอ” โดยตรง มาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจไม่ได้ ...ก็ขนาดพรรคร่วมที่ขวางหู ขวางตา ทำตัวเป็น “อีแอบ” พ่อยังตะเพิดมาแล้ว

อ่ะ ไหนๆ จะตั้ง “พี่นายกฯ” เป็น “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ”แล้ว ก็น่าจะให้นั่งควบ “หัวหน้าทีมปราบปรามยาเสพติด” ไปด้วยเลย เพราะปัญหานี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน ...รับรองถูกใจแฟนๆ แน่นอน