“ปานเทพ” พบความอัศจรรย์ ทาบแผนที่ตามพระบรมราชโองการ ปี 2516 ลงบนภาพ ส.ค.ส.พระราชทาน ปีใหม่ 2547 เส้นไหล่ทวีปตรงกันเกือบสนิท สะท้อนว่าทรงตั้งพระทัยที่จะแสดงให้เห็นอาณาเขตทางทะเลของไทย
วันนี้(5 ธ.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” เปรียบเทียบแผนที่ในภาพ ส.ค.ส.พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ในโอกาสปีใหม่ พ.ศ.2547 กับแผนที่ตามพระบรมราชโองการเมื่อปี 2516 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทรงตั้งพระทัยที่จะทำให้เห็นเส้นไหล่ทวีปของไทย โดยรายละเอียดของข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊ก มีดังนี้
อัศจรรย์! เมื่อทาบแผนที่ไหล่ทวีปพระบรมราชโองการ ๒๕๑๖ บนแผนที่ ส.ค.ส.พระราชทาน “สามัคคี เป็นพลัง ค้ำจุนแผ่นดินไทย” เมื่อ ๒๕๔๗ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
บัตรพระราชทานพร ส.ค.ส.๒๕๔๗ ซึ่งจัดทำขึ้นในปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๖ อันเป็นระยะเวลาประมาณ ๑ ปีครึ่งนับแต่วันที่ประเทศไทยได้จัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์เส้นไหล่ทวีป ที่ซึ่งลงนามโดยนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กับ นายซก อาน รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฉบับลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๔ หรือที่เรียกว่า MOU ๒๕๔๔ ซึ่งเป็นแผนที่ซึ่งอ้างสิทธิ์ไหล่ทวีประหว่างไทยกับกัมพูชา
บัตรพระราชทาน ส.ค.ส. ๒๕๔๗ ซึ่งจัดทำขึ้นโดยฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ในครั้งนั้นเป็นภาพฝีพระหัตถ์ที่จัดทำโดยใช้คอมพิวเตอร์ โดยมีภาพแผนที่โลกเป็นจุดระเบิดตามที่ต่างๆ ทั่วโลก ในทะเลรอบประเทศไทย โดยมีพระอักษรซึ่งเป็นภาพลายแรเงาในภาพแผนที่โลกด้านซ้ายว่า “มีระเบิดเกือบทั่วโลก” และมีพระอักษรด้านบนขอบัตรว่า “ส.ค.ส. พ.ศ. ๒๕๔๗ สวัสดีปีใหม่” และพระอักษรด้านล่างว่า “ขอมีความสุขความเจริญ Happy New Year”
ส่วนบนแผนที่โลกที่มีลายแรเงานั้น ได้มีภาพประเทศไทยที่แม้จะเป็นภาพวาดฝีพระหัตถ์แบบคร่าวๆ ให้ได้พอทราบว่าเป็นรูปแผนที่ “แผ่นดินประเทศไทย” แต่ก็เว้นเป็นพื้นที่สีขาวบนแผ่นดินประเทศไทย และมีพระอักษรว่า “สามัคคี เป็นพลัง ค้ำจุน แผ่นดินไทย“
อย่างไรก็ตามเมื่อสังเกตพื้นที่ในทะเลด้านอ่าวไทย ก็เห็นชัดเจนว่าภาพฝีพระหัตถ์นี้ยังได้เว้นพื้นที่สีขาวต่อเนื่องจากแผ่นดินไทยตามแผนที่ซึ่งปรากฏตามพระบรมราชโองการประเส้นไหล่ทวีปประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา ตาม MOU ๒๕๔๔ แต่ประการใด
เมื่อสงสัยเช่นนี้ ผมจึงทดลองนำภาพแผนที่พระบรมราชโองการประเส้นไหล่ทวีปประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ โดยให้มีความทึบเหลือร้อยละ ๗๐ เพื่อทาบลงในแผนที่ตามบัตรพระราชทานพร ส.ค.ส. ๒๕๔๗ เพื่อดูว่าเส้นเขตไหล่ทวีปที่ทรงวาดรูปในบัตรพระราชทานพร ส.ค.ส. ๒๕๔๗ นั้น มีความใกล้เคียงกับภาพแผนที่พระบรมราชโองการประเส้นไหล่ทวีปประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ มากน้อยเพียงใด แม้ว่าจะทรงวาดให้เห็นภาพประเทศไทยคร่าวๆ เท่านั้น
ผลปรากฏว่าภาพเส้นเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทย ตามบัตรพระราชทานพร ส.ค.ส.๒๕๔๗ นั้น ทรงวาดเกือบสนิทกับแผนที่เส้นเขตไหล่ทวีปพระบรมราชโองการประเส้นไหล่ทวีปประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ แม้จะเป็นภาพคร่าวๆ ก็ตาม
ย่อมแสดงให้เห็นว่า “ทรงตั้งพระทัย” ในการกำหนดเส้นเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทยใน บัตรพระราชทานพร ส.ค.ส.๒๕๔๗ ให้มีความใกล้เคียงเกือบแนบสนิทกับภาพแผนที่พระบรมราชโองการประเส้นไหล่ทวีปประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ อย่างน่าอัศจรรย์
มาร่วมกัน “สามัคคี เป็นพลัง ค้ำจุนแผ่นดินไทย”เถิดพี่น้องไทย
ด้วยความปรารถนาดี
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗
