มูลนิธิทองเนื้อเก้า เตรียมมอบรางวัลพ่อดีเด่นประจำปี 67 ให้กับ 19คนดัง เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวา ในวันที่12 ธ.ค. ณ หอประชุมกองทัพเรือ
วันที่ 5 ธ.ค. 67 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิทองเนื้อเก้า ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงาน “น้อมรำลึกพ่อหลวงไทย ร่วมใจเชิดชูวัฒนธรรม” เปิดเผยว่า วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี นับเป็นวันที่มีความสำคัญและเปี่ยมล้นด้วยความหมาย ตามที่ทางราชการประกาศให้เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนารถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ พสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่าจึงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ อีกทั้งพระองค์ท่านยังทรงเป็นพระราชบิดาที่ทรงพระคุณอเนกอนันต์ ควรที่พ่อทุกคนจะได้ยึดถือและปฏิบัติตามรอยเบื้องพระยุคลบาท สมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ มูลนิธิทองเนื้อเก้า ได้คัดเลือกพ่อดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 67 ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง นับรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 โดยมีแนวทางคัดเลือกพ่อดีเด่นที่ต้องเป็นบุคคลที่มีสุขภาพดี มีจิตใจดี และมีความสามารถส่งเสริมลูกหลานสมาชิกของครอบครัวให้เป็นคนดี โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกรับรางวัลจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั้งสิ้น 19 คน
อาทิ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี รศ.ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี นายปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา กรรมการกฤษฎีกา พล.อ.วิโรจน์ แสงสนิท อดีตรมช.กลาโหมและอดีตผบ.ทหารสูงสุด ศ.พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม นายโชติ โสภณพนิช ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย นายพิชิต มิทราวงศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม
ทั้งนี้นี้งานดังกล่าวมีขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค.67 ที่อาคารราชนาวิกสภา หอประชุมกองทัพเรือ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป พร้อมมีการแสดงดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระบนมชนกาธิเบศร และปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “สนองพระราชปณิธานตามรอยบาทนิรันดร์” โดย ศ.ดร.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี และพ่อดีเด่นแห่งชาติ ปี 65
นายสุชัชวีร์ กล่าวว่าในสภาวการณ์ปัจจุบันการเป็นพ่อของแต่ละครอบครัวล้วนมีข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่พ่อทุกคนทำได้ดีคือการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก แม้เป็นคำพูดที่ฟังดูง่าย แต่เป็นเรื่องยาก ที่ต้องอาศัยความมีวินัย ความใส่ใจ การเอาใจใส่ดูแล การบริหารเวลาทำงานกับการให้เวลากับครอบครัว ความสม่ำเสมอ และที่สำคัญคือการใช้ภาษากายในการแสดงออกถึงความรัก ความอบอุ่นที่พ่อมีให้ต่อลูก รวมทั้งการปลูกคุณธรรม จริยธรรม ความมีจิตสาธารณะ เพื่อหล่อหลอมให้กับเด็กได้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ พร้อมทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคม การเป็นพ่อไม่ได้มีหลักสูตรหรือสูตรสำเร็จตายตัว แต่เกิดจากการกระทำเพื่อหลอมรวมจนเกิดเป็นพฤติกรรมให้กับลูก เพราะเด็กจะเรียนรู้จากคนใกล้ตัว ดังนั้นการจะอบรมให้ลูกเป็นคนดีของสังคม มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น คนเป็นพ่อแม่จะต้องเป็นต้นแบบและเป็นตัวอย่างที่ลูกอยากเดินรอยตามจากการถ่ายทอดประสบการณ์ การปลูกฝังความคิดที่ดีและการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งในบางครั้งการดำเนินชีวิตอาจพบกับความสมหวัง ความผิดหวัง ชัยชนะหรือพ่ายแพ้ แต่ทุกสิ่งที่พบเจอล้วนเป็นสิ่งที่ลูกๆ จะต้องเรียนรู้ เพื่อพัฒนาตัวเองให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต
ด้านศ.พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม หนึ่งในผู้ได้รับคัดเลือกเป็นพ่อดีเด่น ประจำปี 2567 เปิดเผยว่า การเป็นพ่อที่ดี หัวใจสำคัญอยู่ที่การให้เวลาที่มีคุณภาพกับลูก เนื่องจากช่วงเวลา 15 ปีแรกของเด็กเป็นเวลาทองที่มีความสำคัญมาก และที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ สถาบันครอบครัวที่มีส่วนช่วยดูแลสมาชิกทุกคนครอบครัว ทั้งการบริหารจัดการภายในบ้าน การดูแลสุขภาพกาย และสุขภาพจิต ให้ลูกเติบโตมาด้วยความรัก และส่งเสริมพัฒนาการให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและรัก ทั้งนี้ข้อจำกัดเรื่องการเงิน ตนมองว่าสำหรับการเลี้ยงลูกแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่ลูกต้องการจากพ่อแม่มากที่สุด เพราะเขาต้องการความรัก ต้องการเวลาจากครอบครัว ที่สามารถเป็นหลักประกันความมั่นคงทางจิตใจให้กับลูกได้มากกว่าการให้สิ่งของต่าง ๆ ที่ต้องใช้เงินซื้อ อย่างไรก็ตาม ตนได้เรียนรู้หลักการเลี้ยงดูลูกด้วยการให้เวลามาจากครอบครัว ซึ่งไม่ว่าจะงานยุ่งหรือมีเวลาน้อย แต่หากมีเวลาว่างจากภารกิจต่าง ๆ แล้ว ก็จะมอบเวลาคุณภาพให้กับครอบครัวเสมอมา
ขณะที่ นายโชติ โสภณพนิช ประธานกรรมการบริษัท กรีนสปอต จำกัด และประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย กล่าวว่า ตนในฐานะพ่อ มีความตั้งใจในการเลี้ยงดูแล รัก ปกป้องให้ลูกเติบโตมาเป็นผู้คนที่คิดเป็น เลือกเป็น ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนเป็นพ่ออยู่แล้ว แต่มีสิ่งที่ยากขึ้นมาคือ การรับฟังลูกให้มาก พร้อมเปิดโอกาสให้เขาได้มีช่วยร่วมในการตัดสินใจของเราด้วย ตนได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากครอบครัว จากผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ในแง่ของการบริหารจัดการเวลาในการเลี้ยงดูลูกในสังคมปัจจุบันนั้น ตนเชื่อว่าทุกอย่างที่พ่อแม่ทำ ลูกจะเรียนรู้และนำไปเป็นตัวอย่าง ฉะนั้นยิ่งมีเวลาในการดูแลลูกน้อย ยิ่งต้องให้เวลานั้นเป็นเวลาที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านการเงินก็เป็นส่วนหนึ่งของการเลี้ยงลูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการมีเงินมากจะทำให้เลี้ยงลูกเป็นคนดีได้ เพราะสิ่งสำคัญคือการสอนให้ลูกใช้และหาเงินให้เป็น เพื่อให้เขามีวินัยในการบริหารจัดการการเงินของตัวเองให้เป็นด้วย
ส่วนนายพิชิต มิทราวงศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม กล่าวว่า ตนมีความรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติอันทรงคุณค่าในการเป็นพ่อดีเด่นประจำปี 2567 นี้ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในรางวัลความสำเร็จของชีวิตการเป็นพ่อ สร้างความภาคภูมิใจให้ตนเองและครอบครัว โดยหลักการในการเลี้ยงลูกของตน จะเน้นเรื่องของการให้ความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว ซึ่งเมื่อลูกได้รับการปฏิบัติด้วยความรัก เขาก็จะถ่ายทอดพลังงานบวกให้กับคนรอบข้างต่อไปด้วย อย่างตนและสมาชิกในครอบครัว มักจะแสดงออกด้านความรักกันเป็นปกติ เมื่อเจอกันก็จะกอด จะหอมแก้ม บอกรักกัน เพื่อเติมเต็มความรู้สึกที่ดี ความอบอุ่นให้กันและกัน นอกจากนั้น ตนก็จะให้ความสำคัญเรื่องการให้คำแนะนำลูก ๆ ให้เป็นคนที่มีวินัย มีความจริงใจในการคบหาสมาคมกับผู้อื่น มีจริยธรรมที่ดีงาม เพื่อให้เป็นหนึ่งในแบบอย่างที่ดีให้คนอื่นให้สังคมต่อไป