กมธ.ที่ดิน สภาผู้แทนฯ ลงตรวจ “ไร่ภูนับดาว” 13 ธ.ค. “พูนศักดิ์” ยันไม่เกี่ยวการเมือง เน้นตรวจสอบการทำงานของภาครัฐทำผิดกฎหมาย ส่วนเส้นทางเงิน 10 ล้าน หวานใจบิ๊กเนม เป็นอำนาจหน้าที่ กมธ.อื่นตรวจสอบ
วันนี้ (4 ธ.ค.) นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ที่ประชุม กมธ. มีมติให้ลงพื้นที่ในการตรวจสอบถึงประเด็นปัญหารีสอร์ต “ไร่ภูนับดาว” ในวันที่ 13 ธ.ค. โดยจะลงพื้นที่ตรวจสอบในช่วงเช้า ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน จะประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) ส่วนกลาง และกรมป่าไม้ เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังดูสถานที่ระหว่างศาลากลางจังหวัด หรือที่ว่าการอำเภอมวกเหล็ก จ.สระบุรี
นายพูนศักดิ์ กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจะดำเนินการสอบข้อเท็จจริงในการใช้เอกสารสิทธิของ ส.ป.ก. ว่าดำเนินการโดยชอบหรือไม่ โดยย้ำว่าไม่ได้มองเป็นประเด็นทางการเมือง แต่เป็นการตรวจสอบการดำเนินงานของภาครัฐ โดยเฉพาะการแจกจ่ายที่ดิน ส.ป.ก.และการดำเนินการใช้สิทธิของผู้ที่ไดัรับที่ดิน ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักของประเทศ ทาง กมธ. ประเมินแล้วว่า มีที่ดินหลายแสนไร่ที่มีปัญหาในเรื่องสิทธิ เพราะปัจจุบันทั่วประเทศไทยมีปัญหาเรืองที่ดิน ทั้งเอกสารสิทธิ ที่ดินของประชาชนถูกลิดรอน หลังจากการประกาศเขตป่าอุทยาน จนไปทับที่ทำกินของประชาชนที่อยู่มานาน แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ รวมถึงการแจกจ่ายสิทธิอาจจะให้กับคนที่ไม่มีคุณสมบัติ หรือมีคุณสมบัติ แต่ถ่ายโอนให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ทายาทตามกฎหมาย หรือประกอบกิจการที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นประเด็นปัญหา ที่ กมธ.จะต้องสรุป และทำเป็นนโยบายเพื่อเสนอให้รัฐบาลแก้ไขในรัฐบาลต่อไป ซึ่งกรณีไร่ภูนับดาว เรามองว่า เป็นเคสหนึ่งในจำนวนหลายเคสที่เกิดขึ้น จึงถือโอกาสทำการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือที่จะไม่มีการเมืองแทรกแซง เพราะมีข่าวของหวานใจนักการเมือง เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดินดังกล่าว นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ของ กมธ. ไม่ได้ดูว่าการเมืองทำให้มีประเด็นนี้เกิดขึ้นหรือไม่ แต่เป็นการตรวจสอบการดำเนินงานของภาครัฐ ว่า มีประเด็นใดบ้างที่ทำโดยมิชอบ ส่วนเส้นทางการเงิน 10 ล้านบาทนั้น คิดว่า เกินขอบเขตการทำงานของ กมธ.ที่ดิน แต่ควรจะเป็นคณะกรรมาธิการอื่น เข้ามาตรวจสอบมากกว่า