xs
xsm
sm
md
lg

พักโทษ “บุญทรง” ได้ออกมาใส่กำไลอีเอ็ม ไม่เกี่ยวบารมี “แม้ว” ** “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ถูกเรียก “พยายามกรรโชกทรัพย์”งานนี้ “บอสพอล” ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง?!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บุญทรง เตริยาภิรมย์ - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร - รัฐภูมิ โตคงทรัพย์
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ พักโทษ “บุญทรง” ได้ออกมาใส่กำไลอีเอ็ม ไม่เกี่ยวบารมี “แม้ว”

คงจำกันได้ “บุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีต รมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกตัดสินจำคุก ในคดีจำนำข้าว เป็นเวลา 48 ปี ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ

เมื่อช่วงสายวานนี้ (2ธ.ค.) “บุญทรง” ถูกปล่อยตัวออกมาจาก รพ.ราชทัณฑ์ แบบต้องสวมกำไลอีเอ็ม เนื่องจากได้รับการพักโทษ แต่ยังต้องไปรายงานตัวต่อสำนักงานคุมประพฤติ

พลันที่มีข่าวออกไป กระแสในโซเชียลฯ โดยเฉพาะพวกขาประจำที่รู้กันว่าเป็น “กลุ่มเสื้อแดง” ต่างออกมาอวยว่า เป็นเพราะบารมี “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ใช้กำลังภายในให้ความช่วยเหลือ ... เห็นไหม ทักษิณไม่ทิ้งลูกน้องเก่า

บางความเห็นยังบอกว่า ก็น่าจะรู้อยู่ว่าใครเป็น รมว.ยุติธรรม ใครเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ !!

เพราะก่อนหน้านี้ ตัว“ทักษิณ”เอง ที่ต้องโทษจำคุก 8 ปี ได้รับพระราชทานอภัยโทษเหลือจำคุก 1 ปี แต่ “ทักษิณ” ก็ไม่ต้องเข้าไปนอนคุกแม้แต่วันเดียว และยังประกาศเสียงดังว่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็จะกลับไทย มาเล่นสงกรานต์ รดน้ำดำหัวในปีหน้า
สำหรับ “บุญทรง ” อายุ 64 ปี เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษา เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ให้จำคุกในคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ “จีทูจี” ตามโครงการรับจำนำข้าว เมื่อปี 2558 โดย “บุญทรง” รับโทษจำคุก 42 ปี ต่อมา เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 พิพากษาเพิ่มโทษอีก 6 ปี รวมเป็น 48 ปี แต่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในโอกาสต่างๆ หลายครั้ง จนเหลือโทษ 10 ปี และจะพ้นโทษในวันที่ 21 เมษายน 2571

เท่ากับว่า “บุญทรง” ได้ออกจากคุก มาอยู่ในความดูแลของสำนักงานคุมประพฤติอีก 3 ปี 5 เดือน

เรื่องนี้ “สหการณ์ เพชรนรินทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงทำความเข้าใจว่า เหตุที่ บุญทรงได้ออกมา “สูดกลิ่นอิสรภาพ” นั้นไม่ได้เป็นเพราะ “บารมี” ของใคร แต่เป็นไปตามระเบียบปกติของกรมราชทัณฑ์

“บุญทรง” เข้าข่ายได้รับการพักโทษ เนื่องจากต้องโทษจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 ตามปกติเมื่อนักโทษ หรือผู้ต้องขังรายใดเข้าข่ายการพักโทษ หรือการปล่อยตัวชั่วคราว ก็จะต้องเสนอรายชื่อเข้าสู่ที่ประชุม ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ เพื่อพิจารณาพักโทษ

การได้รับพักโทษ ไม่ได้หมายความว่า สิ้นสุดระยะเวลาจำคุก แต่เป็นการพักโทษชั่วคราว ส่วนการปล่อยตัวก็คือ ต้องดูว่า ผู้ต้องขังเข้ากฎระเบียบของราชทัณฑ์ข้อไหน เช่น ต้องโทษมาแล้ว 2 ใน 3 หรือดูเรื่อง อายุ ว่าเป็นผู้สูงอายุตามที่กำหนดหรือไม่
ส่วนการพิจารณาว่า จะต้องใส่กำไล EM หรือไม่ ก็มีข้อพิจารณา เช่น เจ็บป่วย มีเหตุจำเป็นด้านสุขภาพ หรือ อื่นๆ ผู้ต้องขังไม่หลบหนีระหว่างการพักโทษปล่อยตัว และมีหลักเงื่อนไข ทั่วๆไป เช่น ห้ามออกจากพื้นที่ที่กำหนด ห้ามเดินทางไปต่างประเทศ ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง เป็นต้น

สำหรับผู้ที่ต้องโทษในคดีจำนำข้าวคราวเดียวกับ “บุญทรง” ก็มี “ภูมิ สาระผล” อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ต้องโทษจำคุก 36 ปี โดยในกรณีของ “ภูมิ” ได้มีการรับโทษจำคุกมาแล้ว 7 ปี ขณะที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ สุดท้ายเหลือโทษ 8 ปี และ ได้รับการปล่อยตัวพักโทษไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 และจะครบกำหนดการคุมประพฤติ ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568

ยังมี “เสี่ยเปี๋ยง” อภิชาติ จันทร์สกุลพร ซึ่งมีโทษจำคุก 48 ปี ไม่ได้รับการพักการลงโทษ จึงยังคงอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากยังมีคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่

ส่วน “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ” เจ้าของนโยบายจำนำข้าว ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา เพราะก่อนหน้านั้น ได้มีการท้วงติงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ระงับยับยั้งการจำนำข้าว และการระบายข้าวแบบ จีทูจี เพราะอาจเกิดความเสียหาย แต่ “ยิ่งลักษณ์” ก็ไม่ได้ปฏิบัติตามคำท้วงติง จนสร้างความเสียหายดังกล่าว
ทั้งนี้ เป็นการอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย หลังจากวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ แต่เมื่อถึงเวลาฟังคำพิพากษา “ยิ่งลักษณ์” ไม่ปรากฏตัว โดยทนายของยิ่งลักษณ์ ยื่นคำร้องว่า ได้รับแจ้งจากยิ่งลักษณ์ ว่าป่วยด้วยโรค“น้ำในหูไม่เท่ากัน” มีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ขอเลื่อนอ่านคำพิพากษา แต่ศาลพิเคราะห์แล้ว เชื่อว่าจำเลยหลบหนี จึงได้ออกหมายจับ และปรับนายประกันเต็มตามสัญญา แล้วให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 กันยายน 2560 แทน

กระทั่งถึงวันนี้ “ยิ่งลักษณ์” เจ้าของสโลแกน “ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ” ก็ยังหนีคุก ไปอยู่ต่างประเทศ

รัฐภูมิ โตคงทรัพย์
++ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ถูกเรียก “พยายามกรรโชกทรัพย์”งานนี้ “บอสพอล” ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง?!

นักแสดงหนุ่มชื่อดัง “ฟิล์ม” รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ถูกออกหมายเรียกเกี่ยวโยงกับคดีดิไอคอนกรุ๊ป เป็นรายล่าสุด

“ฟิล์ม” ลุ้นระทึกอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งนับแต่กรณี “คลิปเสียง” เรียกรับเงินจากบอสดิไอคอน 20 ล้านบาท ถูกเปิดเผยออกมา
ว่ากันว่า ก่อนจะถูกออกหมายเรียก พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้ไปขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับ "ฟิล์ม" แต่ศาลไม่อนุมัติ โดยพิจารณาให้ออกเป็นหมายเรียกแทน

“รองเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ออกมาเปิดเผยว่า เหตุที่ศษลไม่อนุมัติหมายจับ เพราะศาลมองว่าเป็นข้อหา "ฉ้อโกง" ไม่ใช่ "พยายามกรรโชกทรัพย์" ตามที่พนักงานสอบสวนยื่นขอไป

“พล.ต.ต.จรูญเกียรติ” กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ ที่ออกหมายเรียก เป็นข้อหาตามที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนหลังการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จะแจ้งข้อหา "ฉ้อโกง" หรือ "พยายามกรรโชกทรัพย์" ให้ไปดูกันที่รายละเอียดการสอบสวน

ดังนั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียก "ฟิล์ม" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ฐาน "พยายามกรรโชกทรัพย์" ในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม นี้ แต่หากเจ้าตัวจะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนก่อนนั้นสามารถทำได้
ส่วน “ภูมิรัฐฟีม” หรือ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เคลื่อนไหวผ่านทางไอจีส่วนตัว ระบุว่า ทราบเรื่องที่ถูกออกหมายเรียกแล้ว แต่ยังไม่บอกวันเวลา จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อไหร่

ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวเพิ่งปล่อยประโยค “ความจริงอาจต้องใช้เวลา แต่มันคุ้มค่าแก่การรอคอย” ออกมา และเหมือนจะรู้อยู่แล้วว่า งานนี้หมายเรียกรออยู่ โดยได้ให้ทีมทนายความยื่นหนังสือเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่กองปราบปรามไว้ก่อน ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนากระทำความผิดใดๆ และพร้อมที่จะไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงและให้การแก้ข้อกล่าวหา และที่ไม่ได้ออกมาพูดก่อนหน้านี้ เพราะมีข้อมูลหลายอย่างจำเป็นต้องเก็บไปให้ข้อมูลในชั้นศาล

งานนี้ไม่รู้จะเป็นไปตามคำกล่าวขานของชาวโซเชียลฯที่ว่า “บอสพอล” วรัตน์พล วรัทย์วรกุล แห่งดิไอคอนกรุ๊ป ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังหรือเปล่า โปรดติดตามกันต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น