วันนี้( 3 ธ.ค.)นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อระบุว่า พรรคเพื่อไทยจ่อหารือภูมิใจไทย ปมเกณฑ์การทำประชามิติ หากพรรคภูมิใจไทยงอแงมากเจอยุบสภาสั่งสอนนั้น
นายคารม กล่าวว่า ตนในฐานะที่เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน้าที่ทำงานให้รัฐบาลและตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาคือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แม้จะมาจากสัดส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ตาม
ซึ่งเมื่อเช้าวันที่ 2 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าพบพร้อมรับนโยบายการทำงาน ของรัฐบาล และของนายกรัฐมนตรี ทำให้ตนเองเห็นถึงความตั้งใจ และความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรี ในการทำงานเพื่อคนไทยทุกคน ทุกจังหวัด ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ก็ตาม ตนเองรู้สึกชื่นชมท่านและได้ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยอยู่พรรคไทยรักไทย พรคเพื่อไทยมาก่อน นายกรัฐมนตรีเป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าชื่นชม รักชาติ รักสถาบัน อยากเห็นคนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดี สังคมมีความสงบสุขอยากเห็นบ้านเมืองเจริญก้าวหน้า
“ผมจำเป็นต้องออกมาพูดถึงท่านนายแพทย์เชิดชัย ฯ เพราะผมเคยเป็นคนเสื้อแดง และเคยต่อสู้ในแนวทางเดียวกันมากับท่าน และอยากแนะนำนายแพทย์เชิดชัย ฯ ว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสม เราจึงต้องอยู่ร่วมกันแบบให้เกียรติซึ่งกันและกัน ต้องรู้จักแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ผมจำเป็นต้องออกมาปกป้องพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ยกมือสนับสนุนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้ได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาบ้านเมือง และผมจำเป็นต้องใช้สิทธิในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทยปกป้องนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ที่ท่านนายกรัฐมนตรีก็ให้ความเคารพ ซึ่งนายอนุทิน เป็นผู้มีประสบการณ์ทางการเมือง ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายครั้ง มีวุฒิภาวะ การที่นายแพทย์เชิดชัย ออกมาบอกว่า จะเจอยุบสภาสั่งสอนนั้น ผมรู้สึกเสียใจต่อคำพูด แสดงให้เห็นขาดวุฒิภาวะทางความคิด” นายคารม ระบุ
นายคารม กล่าวต่อว่า อำนาจยุบสภา ตามรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ของนายแพทย์เชิดชัย อย่าสร้างปัญหา สร้างความร้าวฉานให้รัฐบาล ซึ่งจากการที่ตนเองเข้าร่วมการประชุมพรรคภูมิใจไทยทุกครั้ง พรรคภูมิใจไทย มีจุดยืนในการแก้รัฐธรรมนูญชัดเจน โดยจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยผ่าน สสร. เพื่อให้สังคมยอมรับในกติกาที่อยู่ร่วมกันในสังคมได้ และตนเองเชื่อว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งเป็นผูนำพรรคภูมิใจไทยภูมิใจไทยได้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ และเชื่อว่าในระดับแกนนำรัฐบาลมีการพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด และให้เกียรติซึ่งกันและกัน
“เรื่องสำคัญแบบนี้ ถ้าเปรียบเป็นทีมฟุตบอลแล้ว เรื่องใหญ่แบบนี้ เป็นเรื่องระดับเจ้าของทีมบอลที่จะพูดคุย คุณหมอเชิดชัย เป็นเพียงนักบอล มีหน้าที่เล่นบอล อย่าหลงคิดไปไกลว่าตัวเองเป็นเจ้าของทีมบอล แล้วเที่ยวมาบอกว่าให้ใครเลิกเล่นบอลลีกไหน เกมส์ไหน ขอฝากให้ทบทวนหน้าที่ตัวเอง กลับไปประมวลความคิดให้ดี” นายคารม ย้ำ
นายคารม กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นความสำคัญในการทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย โดยให้ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ยกเว้นการแก้หมวด 1 และหมวด 2 และแม้การแก้รัฐธรรมนูญสามารถทำควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ก็ตาม แต่ในณะนี่ประชาชนกำลังประสบปัญหาหลายอย่างเช่น ปัญหาน้ำท่วมพี่น้องชาวภาคใต้ และปัญหาปากท้อง นักการเมืองที่เข้าใจสถานการณ์ จึงไม่ควรเอานำเอาเรื่องอื่น ๆ มาบดบังการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน