xs
xsm
sm
md
lg

จับตาท่าที ป.ป.ช. พิสูจน์ศรัทธาหลังมีคำร้องให้ "เอกวิทย์ วัชชวัลคุ" ถอนตัวคดี"โจ๊ก" ** ทัวร์ลงฉ่ำ ดรามาน้ำท่วมใต้ แต่นายกฯไปแอ่วเหนือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอกวิทย์ วัชชวัลคุ - พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล -แพทองธาร ชินวัตร
ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ จับตาท่าที ป.ป.ช. พิสูจน์ศรัทธาหลังมีคำร้องให้ "เอกวิทย์ วัชชวัลคุ" ถอนตัวคดี"โจ๊ก"

ยุคที่ “พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ” นั่งเป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ถูกครหาว่าทำงานเอื้อประโยชน์พวกพ้อง-ไล่ฟันศัตรูมากกว่าจะทำตามหน้าที่ตัวเอง

หลังจากหมดยุค "นอมินีลุง" พล.ต.อ.วัชรพล พ้นหน้าที่บิ๊กป.ป.ช. ตอนนี้ ป.ป.ช.ยุคใหม่ ก็กำลังตั้งลำตั้งหลัก เรียกความเชื่อมั่นและศรัทธาคืนมา

ส่วนจะทำได้ดีแค่ไหน ช้า หรือ เร็ว!? สังคมกำลังจับตาทุกย่างก้าว

ฟังว่าเมื่อเร็วๆนี้ มีบททดสอบเข้ามาให้ ป.ป.ช.จะต้องพิสูจน์ตัวเอง เมื่อ “พ.ต.ท.มนต์ชัย บุญเลิศ” รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน เรื่อง ขอให้ “นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ” คณะกรรมการ ป.ป.ช. ถอนตัวในการพิจารณาไต่สวน และวินิจฉัยคดีต่างๆของ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล” และ ถอนตัวจากการที่จะร่วมเป็นคณะอนุกรรมการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

งานนี้ป.ป.ช.อย่าดูเบาไป เพราะท่าทีจะเป็นตัวชี้วัดว่า ศรัทธาจะมาหรือจะดำดิ่งต่อก็ขอให้ฟังเหตุผลของผู้ร้องดูดีๆ

พ.ต.ท.มนต์ชัย ให้เหตุผลว่า ตามที่ตนเองได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ในสำนักงกงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. คือ นายสมบัติ ธรธรรม กับพวก ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และมีข้าราชการตำรวจระดับสูงร่วมกันกระทำความผิดฐาน "สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐกระทำความผิด" และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป.ป.ช. รับเรื่องไว้ดำเนินการแล้วนั้น

เนื่องจาก “พ.ต.ท.มนต์ชัย” ทราบว่า “นายสมบัติ ธรธรรม” ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะอนุกรรมการของ ป.ป.ช. ในหลายคณะของ “นางสาวสุภา ปิยะจิตติ” อดีตกรรมการ ป.ป.ช.และต่อเนื่องมาจนถึง “นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ” คณะกรรมการ ป.ป.ช.คนปัจจุบัน

นายสมบัติ มีความรู้จักสนิทสนมกับ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล” ให้การช่วยเหลือ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ในการตกแต่ง
บัญชีทรัพย์สิน บิดเบือนข้อเท็จจริง

อีกทั้งยังมี “นายวิสูตร ด้วงมาก” เจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ช. ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการรับผิดขอบสำนวนคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ถูกกล่าวหา ซึ่งนายวิสูตร นี้ ก็ปรากฏข้อมูลว่า ได้ร่วมทริปไหว้พระ ที่ “พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ” ลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เป็นผู้ติดต่อประสานงาน และรับประทานอาหารร่วมกันที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 11-13 มีนาคม 2565
แม้ต่อมานายวิสูตรจะถูกย้ายไปจากตำแหน่งเดิม และนายสมบัติจะขอถอนตัวจากการเป็นอนุกรรมการ ป.ป.ช. คณะต่างๆ ที่มีนายเอกวิทย์ เป็นหัวหน้าคณะก็ตาม

แต่ก็อาจเกิดความเคลือบแคลงสงสัยถึงความโปร่งใส่ในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคดีของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ฯ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของนายเอกวิทย์

ดังนั้น เพื่อให้การพิจารณาไต่สวน และวินิจฉัยของคณะกรรมการป.ป.ช. เกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ สมดังเจตนารมณ์ของสำนักงานป.ป.ช. และไม่เกิดข้อครหาว่าอาจมีการให้ช่วยเหลือคดีที่ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” ถูกกล่าวหา จึงขอให้ “นายเอกวิทย์” ถอนตัวในการพิจารณาไต่สวนและวินิจฉัยคดีต่างๆ ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ และถอนตัวจากการที่จะร่วมเป็นคณะอนุกรรมการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

งานนี้ ป.ป.ช.จะพิจารณาอย่างไร ต้องติดตาม.

แพทองธาร ชินวัตร
++ ทัวร์ลงฉ่ำ ดรามาน้ำท่วมใต้ แต่นายกฯไปแอ่วเหนือ

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝนกระหน่ำในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้น้ำท่วมหนักในหลายจังหวัด ทั้ง ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา หาดใหญ่

ในช่วงเวลาเดียวกัน “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ก็ขนครม.ทั้งคณะขึ้นไปจัดการประชุมครม.สัญจรที่ จ.เชียงใหม่ รับลมหนาว และโปรโมตการท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ที่เจอปัญหาน้ำท่วมมาก่อนหน้านี้เช่นกัน
งานนี้ “นายกฯอิงค์” อุ้มลูก จูงสามีไปด้วย

เมื่อจะโปรโมตการท่องเที่ยว ก็ต้องมีโปรแกรมไปเดินชอปปิงที่ ถนนคนเดิน ของเมืองเชียงใหม่ ที่มีสินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อเลือกชม และที่ขาดไม่ได้คือ ต้องพาลูกและสามีไปชมความนารักของ “น้องเอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว แห่งสวนสัตว์เชียงใหม่ไนต์ซาฟารี ที่กำลังเป็นดาวเด่นอยู่ในขณะนี้

ช่วง 2 -3 วัน ที่ผ่านมาในโซเชียลฯจึงมีแต่ ภาพน้ำท่วมภาคใต้ ถนนหนทาง รถยนต์ จมน้ำ บ้านเรือนประชาชน เกือบมิดหลังคา แต่ไม่มีภาครัฐเข้าไปบรรเทาทุกข์ มีแต่ภาคเอกชนเข้าไปช่วยเหลือกันตามมีตามเกิด

ขณะที่ “นายกฯอิงค์” ก็แทบไม่ได้พูดถึงเรื่องน้ำท่วมใต้เลย ในวันแรกๆ ขณะเดียวกันภาพที่ปรากฏทางสื่อ และในโซเชียล ก็มีแต่ภาพนายกฯ อุ้มลูก จูงสามี เดินชอปปิงกันแบบครอบครัวสุขสันต์

ภาพน้ำท่วมใต้ กับภาพนายกฯอิ๊งค์แอ่วเหนือ จึงสร้างอารมณ์ที่ตัดกันอย่างรุนแรง ดรามาจึงบังเกิด ว่านายกฯ ไม่สนใจพี่น้องชาวใต้ ที่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส เพราะไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ไม่มี สส.ของพรรคในภูมิภาคนี้

ในวันอาทิตย์ ที่1ธ.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลังกรุงเทพฯ “นายกฯอิ๊งค์” ก็ตีหน้าเศร้า เมื่อถูกถามถึงเรื่องไม่สนใจความเดือดร้อนของคนใต้ ถึงกับร้อง โอ้วววว! และ บอกว่า ได้สั่งการให้รองนายกฯและรัฐมนตรี ส่วนหนึ่งลงพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว และเมื่อกลับจากประชุม ครม.สัญจร วันจันทร์ที่ 2 ธ.ค.นี้ ก็จะมีการประชุม ศปช. เพื่อวางกำหนดการ และ จุดที่จะลงไปติดตามตรวจเยี่ยม โดยนายกฯอิ๊งค์ คาดว่าจะลงพื้นที่ ในวันศุกร์ที่ 6 ธ.ค.นี้

ไม่เพียงเท่านั้น “นายกฯอิ๊งค์” ยังตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ว่าละเลย ไม่สนใจคนใต้ ว่า ตนเองมีสามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามี เป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ หรือไม่รักคนใต้ แล้วจะแต่งงานกับคนใต้หรือ

เจอ “ตรรกะ” ของนายกฯอิงค์ เข้าไปแบบนี้ ชาวโซเชียลฯ ก็เลยมีประเด็นไปต่อ... ก็เขากำลังพูดถึงเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ไม่ได้รับการเหลียวแลจากนายกฯ แต่นายกฯ บอกถ้าไม่รักคนใต้ จะแต่งงานกับคนใต้หรือ

เทพไท เสนพงศ์
“เทพไท เสนพงศ์” อดีต สส. นครศรีธรรมราช บอกว่า นี่เป็น ตรรกะเพี้ยนๆ ของ นายกฯอุ๊งอิ๊งค์

...คุณอุ๊งอิ๊งค์ ใช้ตรรกะอะไรมาตอบ เพราะการแต่งงานกับหนุ่มใต้ เป็นเรื่องความรักเฉพาะบุคคล เมื่อรักกันก็แต่งงานกัน แต่การช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ เป็นเรื่องความเดือดร้อน เป็นเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นกับคนภาคใต้หลายจังหวัด หน้าที่ของรัฐบาล ก็ต้องไปช่วยเหลือ เยียวยา คนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ควรไปให้กำลังใจ แม้ว่าไปแล้ว ไม่ได้ช่วยให้น้ำแห้งลงในทันทีก็ตาม แต่เป็นเรื่องการแสดงออกถึงความรับผิดชอบ และเป็นจิตสำนึกของความเป็นนักการเมืองที่มีต่อประชาชน

อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
ก็ขนาด “เจ๊เจี๊ยบ” อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.ก้าวไกล ที่ห่างหายจากหน้าสื่อไปนานยังออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก นำภาพอินโฟกราฟิกของสำนักข่าวช่องหนึ่ง ที่นำรูป น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกระแสข่าวโจมตีละเลยคนใต้ จากเหตุการณ์น้ำท่วม โดยบอก “สามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ หรือไม่รักคนใต้ คงแต่งงานกับคนใต้ไม่ได้” พร้อมระบุ

“คำตอบไม่เคยเกินชายคาบ้าน เฉิ่มทุกครั้งที่อ้าปาก แนวคิดคนที่เอาตัวเองเป็นแกนกลางของจักรวาล โลกทั้งใบหมุนรอบตัวฉัน”

นี่เหละวุฒิภาวะของนายกรัฐมนตรี อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย !!


กำลังโหลดความคิดเห็น